ทนายสงกรานต์

“ขอทำความดีทุก ๆ ลมหายใจ” ทนายสงกานต์ เจ้าของฉายา เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย

“ขอทำความดีทุก ๆ ลมหายใจ” ทนายสงกานต์ เจ้าของฉายา เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย

 เรื่อง ปถวิกา, ธันยาภัทร์ ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี

ท่ามกลางกระแสสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและเอารัดเอาเปรียบ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ คือคนหนึ่งที่กล้าประกาศตัวออกมายืนหยัดต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนในสังคมที่ตกทุกข์ได้ยาก โดนกลั่นแกล้งรังแกและไม่มีทางสู้ การทำความดีของเขาในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของคนในสังคมจนสื่อมวลชนตั้งฉายาให้เขาเป็น “เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย”

วันนี้ ซีเคร็ต จะพาไปรู้จักตัวตนของเขาให้มากขึ้นในแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน​

ทนายสงกานต์สมัยเด็ก เป็นอย่างไรคะ

ผมมีพี่น้อง 4 คน ผมเป็นลูกคนสุดท้องที่บ้านมีอาชีพค้าขาย พ่อแม่ฝึกผมให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็ก อย่างช่วงปิดเทอม ท่านฝึกให้ผมขายไอศกรีมแท่งกลม ๆในกระติกหวาย ซึ่งจะมีเด็ก ๆ มารับไอศกรีมจากที่บ้านไปขาย ตอนนั้นผมรู้สึกอายมากเวลาที่มีเพื่อนผู้หญิงมาซื้อไอศกรีม แต่ผมก็ขายจนหมดทุกวัน วันละ 3 - 4 กระติกนอกจากนี้แม่ยังฝึกให้ทำขนมปังกับซาลาเปาขายด้วย ผมต้องตื่นตีสี่ นั่งรถเมล์สาย 203ไปตลาดศาลาน้ำร้อนแถว ๆ ศิริราชเพื่อซื้อมันแกวครั้งละ 30 กิโลกรัม แบ่งเป็น 2 ถุงถุงละ 15 กิโลกรัม ถือสองมือข้ามท่าเรือข้ามฟาก แล้วมาต่อรถเมล์สาย 203 มาลงพระราม 7 ต่อรถเมล์เข้าบ้านสวนที่บางกรวยนนทบุรี เป็นแบบนี้ตั้งแต่ ม.1 - ม.6 พอซื้อมาแล้วก็ต้องเอามันแกวมาปอกเปลือกจากนั้นนำไปปั่นผสมกับหมูสดบดหรือไก่สดบดเพื่อทำเป็นไส้ แม่ฝึกผมมาอย่างนี้ ทำให้ผมแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ และท่านยังปลูกฝังเรื่องคุณธรรมและศีลธรรมด้วยการส่งผมไปเรียนที่โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ของโรงเรียนวัดบางพลัด นอกจากนี้ผมยังได้แรงบันดาลใจเรื่องความรักสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ จากการที่เห็นปู่ (ร.ต.ต.กวย เชื่อมแก้ว) รับราชการตำรวจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและยุติธรรม ปู่เป็นตำรวจที่ชาวบ้านรัก คอยเดินออกตรวจตราดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน คอยช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอยู่เสมอ

แล้วทำไมถึงมาเป็นทนายล่ะคะ เพราะเท่าที่ทราบ ไม่ได้ทำงานด้านนี้มาก่อน

หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนวัดเขมาภิรตารามที่จังหวัดนนทบุรีแล้ว ผมไปเล่นละครเป็นตัวประกอบ เล่นทุกค่าย แต่อยู่กับค่ายกันตนามากที่สุด ตอนนั้นได้บทเดินไปเดินมาเป็นคนเดินตามตัวละครหลักบ้าง เป็นคนขับรถบ้าง เรียกว่าแค่ได้ผ่านหน้ากล้อง ตอนนั้นได้เงินค่าตัวคิวละ 300 - 500 บาทก็ดีใจแล้วต่อมาก็ขยับเป็นได้เล่นแบบมีบทพูดและมีแอ๊คติ้งบ้าง ได้ค่าตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 – 2,500 บาท จากนั้นก็ได้เล่นหนังใหญ่ เป็นนักแสดงสมทบ แล้วก็ขยับมาเป็นผู้จัดการกองถ่าย ได้มาทำรายการละครโทรทัศน์ให้สาระความรู้ความบันเทิงชื่อรายการ “ปิดทองหลังพระ” ทางช่อง 9 อสมท ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยนำคดีของตำรวจที่ทำงานในลักษณะไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นแบบปิดทองหลังพระมาทำเป็นละครสั้น ๆ 30 นาที ผมทำรายการอยู่ประมาณ 3 ปี รายการนี้ได้รับรางวัลเมขลาจากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยและจากองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยด้วย ตอนนั้น ท่านเจริญ สิริวัฒนภักดี สนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ต่อมารายการของเราหลุดผังโดยไม่รู้ตัวล่วงหน้า ทำให้รายการที่เราถ่ายสต๊อกไว้ไม่ได้ออกอากาศ แต่เราจ่ายค่าทีมงานและนักแสดงไปหมดแล้ว จึงประสบปัญหาขาดทุน ตอนนั้นผมเป็นหนี้เกือบ 3 ล้านบาท

ถือว่าเป็นช่วงที่หนักที่สุดในชีวิตแล้วหรือยังคะ

หนักที่สุดแล้วครับ เป็นช่วงมรสุมชีวิตตอนนั้นผมเลี้ยงลูกสาวสองคนซึ่งอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน เพราะแยกทางกับภรรยาไปไหนก็ต้องเอาลูกไปด้วย ไปกองถ่ายก็เอาลูกไปเลี้ยงที่กองถ่าย

ตอนสู้คดีกับแบงก์ โชคไม่ดีที่ทนายของผมไม่ไปตามที่ศาลนัด ดังนั้นศาลจึงสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียวแล้วก็มีคำพิพากษาผมยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลก็ยกคำร้องผม จึงต้องยื่นอุทธรณ์ซึ่งต้องวางเงินค่าธรรมเนียม แต่ผมไม่มีเงิน โชคดีว่าผมเอาความจริงขึ้นสู้ โดยยื่นคำร้องขอต่อสู้คดีอย่างคนอนาถา เอาลูกสองคนไปขึ้นศาลจังหวัดด้วย ศาลท่านก็เมตตาไต่สวนคำร้องและอนุญาตให้ต่อสู้เป็นคดีอนาถาในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาลดดอกเบี้ยให้บางส่วน ต่อมาผมยื่นฎีกา ก็ขอต่อสู้คดีในชั้นฎีกาอย่างคนอนาถาอีก ศาลท่านก็เมตตาลดดอกเบี้ยให้อีกเป็นแสน ทำให้ผมดีใจมากจนร้องไห้กลางศาล ผมสู้คดีกับแบงก์นานถึง 8 - 9 ปี จากเหตุการณ์ที่ทนายเราจำวันนัดผิดพลาด หรือลืมวันนัดศาลนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะทำให้คดีเสียหาย ผมจึงคิดจะเรียนกฎหมายเพื่อเป็นทนายความและต้องไม่เป็นอย่างที่เราเจอในอดีต ถ้าเรามีความรู้ เราต้องช่วยสังคมและทำคดีทุกคดีที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด ผมเรียนจบปริญญาตรีกฎหมายภายใน 3 ปีครึ่ง และเรียนต่อจนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย

คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป

พอได้มาเป็นทนายความแล้ว ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไหม

คดีแรกคือ “คดีพระสมเด็จเหนือหัว”ของเสี่ยอู๊ด กรณีจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวกว่าล้านองค์ เขาลงโฆษณาไปทั่วประเทศอ้างว่าได้รับมวลสารดอกไม้พระราชทานและผ้าไตรพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระ-เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 คดีนี้พูดได้ว่า ผมเป็นคนแรกที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับ DSI หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ตอนที่เริ่มพาคนไปแจ้งความนั้น พี่ ๆ น้อง ๆ นักข่าวก็ยังไม่สนใจ แต่เขามาเริ่มสงสัยตอนที่เห็นผมพาคนไปแจ้งความบ่อยขึ้น แล้วมีทั้งดารา นักแสดง ผมจึงบอกเขาว่า ผมทำงานช่วยเหลือสังคม ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก โดยพาเขามาร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองปราบ คดีที่ผมพาเจ้าทุกข์หรือผู้เสียหายไปร้องนั้นส่วนใหญ่เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553

ตั้งแต่ทำคดีมา ไม่ทราบว่ามีคดีไหนที่สะเทือนใจมากที่สุดคะ

คดีหมอเสน่ห์ชื่อดังย่านรังสิตคลอง 8เป็นคดีที่ทำผมเจ็บที่สุด ตอนนั้นมีเด็กวัยรุ่น 8 รายมาร้องทุกข์กับผม เขาเล่าว่าโดนหมอเสน่ห์รายนี้หลอกลวง เสียทั้งเงิน เสียทั้งตัว ถ้าเป็นผู้หญิง หมอจะมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วยแล้วถ่ายคลิปไว้ นอกจากนั้นหมอเสน่ห์ยังหลอกเหยื่อโดยให้เอาทองคำแท้มาเสียบไว้ในหุ่น ด้วยความที่เด็กวัยรุ่นหลงแฟนตัวเอง เวลาเขาให้ทำอะไรก็ทำหมดเพราะขาดสติ เด็กเล่าว่าเวลาคุยทางไลน์หมอเสน่ห์ให้เรียกเขาว่าผัวจ๋า บอกว่าเป็นเทคนิคให้แฟนกลับมา

ถ้าลูกค้าเป็นผู้ชาย ก็ให้ผู้หญิงที่เป็นสาวกของเขามีความสัมพันธ์ทางเพศกันบริเวณแท่นบูชา ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูปมากมายและปู่ฤาษี ทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มากมายพอถามว่าทำได้ยังไง เด็กก็บอกว่าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมันเคลิ้ม ๆ ตอนนั้นผมได้ภาพมา เห็นเขาใส่ชุดปู่ฤาษีสวมสร้อยประคำ ผมก็ตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ขอให้ผมมีกำลังสติปัญญาต่อสู้กับเขา เพราะเรารู้ว่าเขาเล่นของ ดูแล้วเขามีเจตนาไม่บริสุทธิ์แน่ ๆยิ่งมีกิจกรรมทางเพศต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปต่าง ๆ หรือทางคริสต์ทางพราหมณ์ หรือทางอินเดีย แบบนี้ผมยอมไม่ได้ ต้องหยุดมันให้ได้

คืนนั้นหลังจากทำงานเสร็จ ผมกลับบ้านประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ ผมเดินเข้าห้องทำงาน ปรากฏว่ามีน้ำไหลมาจากที่ไหนไม่รู้นองเต็มพื้นห้อง ตอนนั้นรู้สึกแปลก ๆเหมือนอยู่อีกมิติหนึ่ง จึงตะโกนเรียกลูกสาวบอกว่าน้ำไหลเต็มบ้าน แล้วผมก็ลื่นล้มหงายท้อง ข้อศอกกระแทกพื้นอย่างแรงดีที่หัวไม่ฟาดพื้น พอลูกสาวเปิดไฟ จะเดินมาช่วยดึงผมลุกขึ้น กลับไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว วันรุ่งขึ้นผมมีว่าความที่ศาลแขวงนนทบุรี ตอนนั้นก็รู้สึกเจ็บที่ข้อศอก พอไปให้หมอเอกซเรย์ดูปรากฏว่าข้อศอกแตกทำให้รู้ว่าเมื่อคืนเราโดนเดรัจฉานวิชาเล่นงานเข้าแล้ว

หลังจากที่ผมสืบประวัติคดีนี้ดูก็รู้ว่าหมอเสน่ห์รายนี้ดำรงชีพแบบนี้มาสิบกว่าปีแต่พอเราเปิดโปงเรื่องของเขา ขบวนการหลอกลวงอื่น ๆ เลยพากันหายไปด้วย เป็นคดีที่ผมภูมิใจคดีหนึ่ง เพราะทำให้ภัยสังคมและมารศาสนาลดลงบ้าง และเป็นการกำจัดภัยสังคมด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีคดีหลวงปู่พิมที่ชัยภูมิซึ่งประกาศว่าจะละสังขาร คดีนั้นผมเดินทางไปที่จังหวัดชัยภูมิ พอเจอชาวบ้านเขาก็บอกว่าหลวงปู่พิมประกาศละสังขารตั้ง 4 - 5 ครั้งแล้ว ผมเห็นว่าผิดปกติจึงหารือและแจ้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในขณะนั้นคือนายพรศักดิ์ เจียรณัย และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ของหลวงปู่พิมกับพวกเป็นความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” หรือไม่หากพบการกระทำความผิดก็ให้พิจารณาดำเนินคดีอาญา คดีนี้พอผมแจ้งความปุ๊บหลวงปู่พิมก็ลุกขึ้นเดินออกจากโลงเลยทางพระผู้ใหญ่จึงตรวจสอบและปลดออกจากการเป็นเจ้าอาวาส

ดูเหมือนว่าคดีที่ทนายทำจะช่วยสังคมเป็นส่วนใหญ่ แล้วมีรายได้หลักมาจากไหนคะ

งานประจำของผมคือเป็นที่ปรึกษากฎหมาย มีหลายคนสงสัยว่าทนายไปช่วยคนโน้นคนนี้แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายทำอย่างไรต้องเรียนตามตรงว่า เราพาเขาไปแจ้งความโดยเอาเวลาว่างจากการไปว่าความที่ศาลในวันนั้น ๆ ถ้าว่างก็ไปช่วย จึงไม่มีค่าใช้จ่ายมีแต่สติปัญญาและความตั้งใจของเรา

การช่วยคนอื่น เหมือนเขามาฝากความหวังไว้กับเรา เราต้องแบกความทุกข์ของเขาไว้ไม่ทราบว่าทนายรู้สึกเครียดบ้างไหมคะ

​ต้องบอกว่าเครียดครับ บางทีผมฟิวส์ขาดหลับคาโต๊ะทำงานเลย ลูกสาวเห็นเข้ายังเคยแอบถ่ายรูปผมตอนหลับไปลงในเฟซบุ๊กเลย เขาสงสารผมที่ต้องรับภาระเพราะแต่ละคดีเราต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้กองปราบ ส่งให้ DSI ถามคนที่ผมไปช่วยที่เป็นข่าวดัง ๆ ได้เลยว่าผมไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนอะไรจากเขาเลย

ทนายได้อะไรจากการช่วยเหลือคนอื่นคะ

ได้ความสุขครับ ผมไปที่ไหนสื่อมวลชนให้ความสนใจแน่นทุกที่ รวมทั้งหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ เพราะเขารู้ว่าเราบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์ อีกอย่างผมต้องการให้ความรู้ด้านกฎหมายกับประชาชนว่า คดีแบบใดถึงจะเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามได้ เพราะกองปราบปรามจะทำคดีประเภทผู้มีอิทธิพลและสลับซับซ้อนเท่านั้นหากไม่เข้าหลักเกณฑ์ กองปราบปรามจะส่งให้ตำรวจท้องที่พิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ก็จะให้ความรู้กับผู้เสียหายว่า การจะเข้าแจ้งกองปราบนั้นต้องทำอย่างไรต้องเตรียมพยานเอกสารหลักฐานอะไรบ้างเช่น อย่างคดีหญิงไก่ น้องก้อย และพ่อแม่เราเห็นว่าเขาถูกกลั่นแกล้งและเขาไม่มีหลักประกัน เราก็ให้ความรู้ว่า ถ้าไม่มีหลักประกันก็ให้ไปยื่นคำร้องที่สำนักงานกองทุนยุติธรรมให้พิจารณาโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าหลักประกันจากนายประกันหรือบริษัทประกัน เพราะต้องเสียเงินค่าเช่าถึง 15 - 20 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งต้องมีคนค้ำประกัน นอกจากนั้นในคดีอาญาถ้าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีทนาย ศาลก็มีทนายให้ โดยศาลออกค่าใช้จ่ายให้อยู่แล้วหรือถ้าไม่มีเงินค่าธรรมเนียมศาลและเราเป็นผู้เสียหาย ขอให้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานกองทุนยุติธรรม ถ้าเข้าหลักเกณฑ์ สำนักงานกองทุนก็จะพิจารณาช่วยเหลือ ตรงนี้คนไม่ค่อยรู้กัน คนไม่น้อยต้องเสียค่าเช่าหลักประกันเป็นหมื่นเป็นแสน

 

คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป

มีคดีอะไรบ้างคะที่ทนายไม่รับทำ

คดียาเสพติดถ้าเขาทำผิดจริง แต่จะแนะนำให้เขาไปหาทนายเอง และคดีที่ไม่ทำอีกประเภทคือทำเรื่องผิดให้กลายเป็นเรื่องถูก เพราะความภาคภูมิใจของผมไม่ใช่การชนะคดี อย่างคดีน้องก้อย ถ้าจำได้ตอนนั้นคดียังคลุมเครืออยู่ ผมก็ประกาศตัวตั้งแต่ต้นว่า ถ้ามีพยานหลักฐานว่าน้องก้อยและพ่อแม่กระทำความผิดจริง ผมก็คงต้องขอถอนตัว

รู้สึกอย่างไรที่สื่อตั้งฉายาให้ว่าเปาบุ้นจิ้นคะ

การที่สื่อบอกว่าเราเหมือน “เปาบุ้นจิ้น”นั้นไม่ได้หมายความว่า “เป็นผู้พิพากษา”แต่หมายถึงว่า “เรามีความยุติธรรมในจิตใจ” ผมคิดว่า ถ้าใครมีความยุติธรรมในจิตใจก็เป็น “เปาบุ้นจิ้น” ได้ทุกคน แล้วอย่าเข้าข้างตัวเองหรือเข้าข้างลูกความโดยไม่รับฟังเหตุผลและพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง แต่เราต้องอำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความทั้งสองฝ่ายตามกระบวนการยุติธรรม เพราะความเป็นธรรมต้องเกิดทั้งสองฝ่าย หากเราเข้าข้างฝ่ายลูกความของเราฝ่ายเดียว ความเป็นธรรมก็จะไม่เกิด ดังนั้นเวลาเราจะไปว่าความหรือรับมอบอำนาจให้ไปเจรจาหรือเคลียร์ปัญหาในคดีอะไรก็ตาม เราควรดูว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ตรงนี้ผมว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้เรายืนอยู่ได้อย่างสง่างาม

อะไรคือเคล็ดลับของการทำคดีให้สำเร็จคะ

อย่าไปบิดเบือนข้อเท็จจริง เช่น คดีที่ลูกความของเรากระทำความผิดแล้วไปบิดให้เขาถูก อย่างนั้นก็ผิดและจะมีปัญหาติดตามมา เพราะเวลาลูกความเบิกความ ก็จะเบิกความได้ไม่เต็มปากเหมือนคนโกหก พูดสิบครั้งก็ไม่เหมือนเดิม อย่างหญิงไก่ที่พลาดเพราะเขาจำไม่ได้ว่าให้สัมภาษณ์อะไรไปบ้างผมจำได้ว่า ตอนแรกที่มาออกรายการ“ต่างคนต่างคิด” ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดีเธอเข้ามาทักทายผมเหมือนรู้จักกัน มาพูดกับผมว่า ทนายสงกานต์เจอพี่หลายครั้งแล้วจำไม่ได้หรือ ถ้ารู้จักพี่แล้วจะหนาว ผมก็เลยงง แล้วยังพูดว่า ของพี่ที่หาย ความจริงมากกว่านี้อีก แต่พี่แจ้งความแค่นี้ พูดมาแค่นี้ก็ผิดปกติแล้ว และสอง เขามาบอกว่าพี่ไม่เอาเรื่องก็ได้ แค่นี้ก็มีพิรุธแล้ว เพราะไม่มีใครหรอกครับที่เงินหาย ทองคำหายเป็นสิบล้านแล้วบอกจะไม่เอาเรื่อง แม้กระทั่งตอนแถลงข่าว บอกว่าตนเองเป็นผู้เสียหายแต่ปิดหน้าปิดตามา คลุมผมด้วยผ้าดำและใส่แว่นตาดำ ผมมองว่าไม่ใช่แล้ว

ทนายทำงานที่ต้องอยู่กับความเสี่ยงต่อชีวิตและบางครั้งก็สร้างศัตรูอย่างนี้ห่วงคนที่อยู่ข้างหลังเราบ้างไหมคะ

ผมเชื่อว่าผมทำงานโดยสุจริต เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง ผมทำด้วยกุศลจิตผมบอกลูกเลยว่า ชาตินี้ผมขอเกิดเป็นมนุษย์ชาติสุดท้าย ไม่ขอเกิดแล้ว ชาตินี้ผมจะสร้างกุศลให้ได้มากที่สุด ผมบอกเรื่องนี้กับลูกเสมอ ลูกก็บอกว่า หนูขอตามพ่อไปด้วยผมบอกว่า ก็ขอให้หนูสองคนทำความดีผมยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรมคุณพระสงฆ์ และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างคดีเณรคำเราก็ผ่านมาแล้ว พิสูจน์แล้วว่าองค์พระแก้วมรกตท่านปกปักษ์รักษาเราจริง ๆผมจุดธูปกลางแจ้งบอกท่านว่า ผมปกป้องท่านไม่ให้เหล่าเดรัจฉานวิชา หรือทรชนหรือแม้กระทั่งคนคิดไม่ดี เอาท่านไปแอบอ้างแสวงหาประโยชน์โดยทุจริต ผมปกป้องท่านแล้วผมก็เชื่อว่าท่านจะปกป้องและคุ้มครองผม

มีใครเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตคะ

ผมยึดแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่าง นี่ผมก็แขวนพระสมเด็จจิตรลดาปี 2509 ได้มาโดยบังเอิญจากการไปหาผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านให้ผมตั้งแต่ผมเกิดปัญหาถูกแบงก์ฟ้องร้อง ผมไม่ได้มองที่มูลค่า แต่มองที่คุณค่าและความสำคัญทางจิตใจ ที่บ้านผมมีรูปบุรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ผมให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อแผ่นดินและผู้มีพระคุณบางทีผมเหนื่อย ๆ มา ผมก็จะนั่งดูพระบรม-ฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน เรายึดหลักพอเพียงและก็เชื่อในสิ่งดี ๆ ที่เราได้กระทำไป

ทนายปฏิบัติธรรมด้วยหรือเปล่าคะ

ปฏิบัติครับ ผมถือศีล 5 และสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ อีกอย่างเพราะเราต้องเจอคนหมู่มาก ย่อมมีศัตรูเป็นธรรมดาผมมักบอกเสมอว่า “เราไม่รู้จักคุณมาก่อนเราไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันนะ เราช่วยเหลือคนอื่นโดยสุจริต” ผมบริจาคเลือดมา 24 ปี 89 ครั้ง บริจาคทุก 3 เดือน ทำอย่างนี้ตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนวัดเขมาฯนนทบุรี สมัยวัยรุ่นผมยังดื่มแอลกอฮอล์บ้างตอนหลังผมแช่งตัวเองว่า ถ้าดื่มเกิน 2 แก้วให้หน้าแดงก่ำและคัน ปรากฏว่าคันจริง ๆเลยเลิกดื่มเหล้า ผมไม่สูบบุหรี่ ซึ่งทำให้เรา 1. มีสติสัมปชัญญะ 2. ไม่ทำสิ่งที่เป็นอบายมุข มันก็เกิดผลดีกับตัวเรา ไม่มีผลเสีย นี่คือความดีที่เราทำ

 

เป้าหมายในชีวิต

ผมไม่คิดถึงเป้าหมาย คิดแต่ว่า ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด อย่างคดีต่าง ๆ ที่เขาร้องเข้ามามีเยอะมาก ผมสอนลูกว่า เป็นนักกฎหมายต้องเสียสละ เขาบอกผมว่า เขาจะไม่มีแฟน อยากอยู่ช่วยงานพ่อ เพราะเขาอยากทำบุญแบบเรา อยากพ้นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ผมคิดว่า ขอเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว ขอให้ได้สร้างกุศลไม่ยึดติดอะไรแล้ว และไม่ว่าอย่างไรก็ขอเดินเส้นทางนี้ตลอดไป เพราะมันคือความสุขของผม

เอื้อเฟื้อสถานที่ :

ร้าน The Pavillion (เดอะ พาวิลเลี่ยน) โทร.02 615-5191


Secret BOX

คำว่า “เปาบุ้นจิ้น” นั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้พิพากษา

แต่หมายถึงว่าเรามีความยุติธรรมในใจ

ถ้าใครมีความยุติธรรมก็เป็น “เปาบุ้นจิ้น” กันได้ทุกคน

ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์


Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.