ด้วยความที่ อินทรา นูยี (Indra Nooyi) เป็นผู้บริหารสูงสุดของอาณาจักรเป๊ปซี่โค (PepsiCo) ที่มีพนักงานกว่า 185,000 ชีวิตอยู่ในความรับผิดชอบ อีกทั้งยังเคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตารางงานของเธอจึงแน่นมากถึงมากที่สุด แต่เมื่อสิ้นวัน นูยีไม่เคยลืมที่จะทบทวนตัวเองว่า เธอเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาผู้มีบทบาทเป็นแม่และภรรยาคนหนึ่งเท่านั้น
อินทรา กฤษณมูรตี นูยี (Indra Krishnamurthy Nooyi) เกิดวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 ที่เมืองมาทราส (ปัจจุบันคือเจนไน) ประเทศอินเดีย เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กว่าจะต้องตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาให้ได้ ดังนั้นแม้ว่าเธอจะมีปริญญาในมือแล้วถึงสองฉบับ และมีอนาคตการทํางานที่รุ่งโรจน์ในบ้านเกิด นูยีในวัย 23 กลับเลือกที่จะไปเรียนต่ออีกครั้งที่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเยล เพื่อทําตามความฝันของเธอ
ในปี ค.ศ. 1978 หลังจากนูยีเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาได้ไม่กี่เดือน เธอก็ตกอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงต้องเร่งหางานพิเศษทํา แต่ ณ วันนั้นสูทราคาประหยัดกับบู๊ตสีส้มสดที่เธอมีอยู่ทําให้เธอดูแตกต่างจากอเมริกันชนคนอื่น ๆ จนดูคล้ายตัวประหลาด นูยีจึงต้องเดินน้ำตาตกออกจากห้องสัมภาษณ์ แม้ว่าจะมีประสบการณ์การทํางานที่ดีเยี่ยมมาจากประเทศอินเดียบ้านเกิดของเธอก็ตาม
ด้วยเหตุนี้นูยีจึงตัดสินใจขอรับคําปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาอาชีพของมหาวิทยาลัย เธอเล่าว่า คําแนะนําของเจ้าหน้าที่ทําให้เธอตาสว่าง เพราะเขาบอกให้เธอสวมชุดส่าหรี ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายประจําชาติของเธอเอง เพื่อแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้มากที่สุด
คําแนะนํานี้นอกจากจะทําให้นูยีได้งานทําสมใจแล้ว เธอยังได้รับบทเรียนสําคัญด้วยว่า “จงอย่าหลบซ่อนจากตัวตนที่แท้จริงของตนเอง”
นูยีสําเร็จการศึกษาจากเยลในปี ค.ศ. 1980 และได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เธอต้องทํางานหนักกว่าเพื่อนร่วมงานผู้ชายถึงสองเท่าเพื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1994 นูยีจึงได้รับการทาบทามให้ร่วมงานกับเป๊ปซี่โคที่มี สตีเฟ่น เอส. ไรมันด์ (Stephen S. Reimund) รั้งตําแหน่งซีอีโอในขณะนั้น
เมื่อเข้ามาทํางานให้เป๊ปซี่โค นูยีพบว่า บริษัทกําลังเพลี่ยงพล้ำให้แก่คู่แข่งอย่าง โคคา-โคลา (Coca-Cola) อย่างน่าเสียดาย เพราะเป๊ปซี่โคมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดต่างประเทศเพียงหนึ่งในสี่ของโคคา-โคลาเท่านั้น เธอจึงกระตุ้นให้บริษัทบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น และชี้ให้สตีเฟ่นเห็นว่า นับวันตลาดน้ำอัดลมและร้านฟาสต์ฟู้ดมีแต่จะหดตัวลง เธอจึงเสนอให้บริษัทหันมาขยายฐานตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทน
ในปลายทศวรรษ 1990 เป๊ปซี่โคจึงเข้าไปซื้อหุ้นของ ทรอปิคานา (Tropicana) แบรนด์น้ำผลไม้บรรจุขวดชื่อดัง และ เควกเกอร์ (Quaker) ข้าวโอ๊ตสําเร็จรูปและแครกเกอร์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
นิตยสาร บิสิเนสวีค (BusinessWeek) รายงานว่า นับตั้งแต่นูยีขึ้นมานั่งในตําแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ในปี ค.ศ. 2000 เป๊ปซี่โคมีผลประกอบการสูงขึ้นร้อยละ 72 และมีกําไรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี ค.ศ. 2006
เมื่อถึงวันที่สตีเฟ่นเกษียณ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งเขาและคณะกรรมการบริษัทจะพร้อมใจกันเลือกอินทรา นูยีขึ้นเป็นซีอีโอคนต่อไป
กดเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป>>>