ห้วยหินลาดใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
ห้วยหินลาดใน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบล ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงราย 110 กิโลเมตร
ด้วยสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยผืนป่า ประชากรของที่นี่มีเพียง 21 หลังคาเรือนเท่านั้น ดินแดนแห่งนี้โดดเด่นด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่จึงเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ผลผลิตจากชุมชนหมุนเวียนไปตามฤดูกาลที่แปรเปลี่ยน โดยไม่เบียดเบียนป่าอันเป็นสถานที่แห่งชีวิต
ห้วยหินลาดในจึงไม่เพียงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับชาวปกาเกอะญอเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยากหลีกลี้หนีความวุ่นวายของชีวิตในเมือง เพราะการมาพักที่ห้วยหินลาดในจะช่วยให้ได้พบความสงบอย่างที่ต้องการ ไม่ใช่แค่เพียงเพราะธรรมชาติ การใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบ แต่ยังรวมถึงความสงบที่ไร้เสียงโทรศัพท์เข้ามารบกวน
ฤดูกาลนำชีวิต
เพราะวิถีชีวิตที่ผูกพันกับผืนป่า ทำให้พื้นที่ป่านับหมื่นไร่ของห้วยหินลาดในยังคงอุดมสมบูรณ์ ด้วยการร่วมแรง ร่วมใจของชาวบ้านที่ช่วยกันอนุรักษ์ จนเกิดเป็นการจัดการทรัพยากรให้ทุกชีวิตยังอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่เบียดเบียนกันและกัน ใช้ฤดูกาลที่ยังคงทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรงในการดำรงชีพ
ฤดูร้อน
ฤดูร้อน ที่ยอดอ่อนของต้นชาเริ่มผลิออกเป็นฤดูกาลของการเก็บชา ชาวบ้านจะสะพาย เป๊อะแม้ว หรือ ตะกร้าสานสะพายหลังมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าบนที่สูงในหมู่บ้าน เพื่อเก็บใบชา หากใครกำลังนึกถึงภาพไร่ชา ที่ขึ้นเป็นทิวแถวลดหลั่นตามสันเขา อาจต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะต้นชาของห้วยหินลาดในนั้นเป็นต้นชาที่แทรกอยู่ใต้ร่มไม้สูงใหญ่ เติบโตโดยธรรมชาติ ที่มีชาวบ้านช่วยกันดูแล
การเก็บชาของชาวบ้านก็แสนเรียบง่าย อย่างในครั้งนี้ แม่หล้า วัย 64 ปี (และยังแข็งแรงกว่าเราชาวคนเมือง) พาเราเดินขึ้นเขาไปไม่ไกลจากตัวหมู่บ้านนักก็จะเจอกับต้นชาต้นสูงเหนือหัว แม่หล้าใช้ไม้ที่มีปลายคล้ายตะขอ โน้มเกี่ยวยอดชาลงมา แล้วเด็ดเก็บลงมาใส่ในเป๊อะแม้ว ต้นละ 2-3 ยอด ก่อนที่จะพากลับไปชิมชาในหมู่บ้าน
ในทุกกระบวนการการทำชาของห้วยหินลาดใน ตั้งแต่ดูแลไปจนถึงการแปรรูปยังคงใช้วิธี และขั้นตอนแบบดั้งเดิม จึงได้ชาที่ไม่มีการใช้สารๆ และ ได้ในปริมาณที่จำกัด
ชาของห้วยหินลาดใน เป็นต้นชาอัสสัม ชาที่เก็บในฤดูร้อน จะให้กลิ่นและรสชาติที่เข้มกว่าชาในฤดูอื่นๆ เรียกว่า “ชาต้นปี” ชาฤดูฝนจะมีสี รสชาติ และความเข้มข้นอ่อนที่สุด ส่วนชาที่เก็บฤดูหนาว จะเป็นชาที่ให้กลิ่น รสชาติ และสีกลางๆ เรียกว่า “ชาน้ำค้าง”
ชาจากห้วยหินลาดใน แปรรูปออกมาเป็นชา 2 ชนิด คือ
- ชาดำ ขั้นตอนคือ ผึ่งลม นวด และตากให้แห้ง
- ชาเขียว ขั้นตอนคือ คั่ว แล้วนำไปนวด และตากให้แห้ง
ฤดูฝน
เมื่อฤดูร้อนผ่านพ้นไป เข้าสู่ช่วงที่มีสายฝนโปรยปราย ความชุ่มชื้นเข้าปกคลุมผืนป่า หน่อไม้แทงยอด เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต จากมุ่งหน้าขึ้นเขา กลายเป็นเดินเขาป่า ไปตามลำธารสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน เพื่อเข้าไปเก็บหน่อไม้เป๊อะแม้วใบเดิม ที่เพิ่มเติมคือมีดพร้า อาวุธสำคัญที่จะช่วยให้เราได้หน่อไม้มา
ตลอดระยะทางการเดินบนเส้นทางสั้นๆ นี้ เราได้เห็นความสมบูรณ์ที่ชุ่มฉ่ำของป่าดิบแล้ง ที่เป็นแหล่งต้นน้ำแม่ลาว ซึ่งจะไหลงลงสู่แม่น้ำโขง หน่อไม้ที่ขุดขึ้นมานี้ ชาวบ้านจะปอกจนเห็นเนื้อขาวๆ แล้วนำไปต้ม ส่งไปขายที่ตลาดในตัวตำบล รวมถึงเก็บบางส่วนไว้กินเองในครัวเรือน
ฤดูหนาว
เมื่ออากาศเริ่มเย็น ดอกไม้ป่าเริ่มบาน ผลผลิตจากป่าของชาวบ้านก็ถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งชาวบ้านจะนำกล่องผึ้ง ที่ได้เรียนรู้กรรมวิธีการเลี้ยง การดูแลผึ้ง ดูแลป่าจากประเทศญี่ปุ่น ผสานเข้ากับภูมิปัญญาดั้งเดิม ไปวางใต้ต้นไม้ ข้างลำธาร และโขดหิน เพราะเดิมผึ้งเหล่านี้จะอยู่ในโพรงต้นไม้ หรือโพรงดิน
เมื่อผึ้งเริ่มเก็บน้ำหวาน ก็เหมือนเป็นการเริ่มวงจรป่าครั้งใหม่ด้วยการผสมเกสร สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่า ชาวบ้านจะเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งจากกล่องผึ้งในช่วงเมษายน ถึงพฤษภาคม ขายเป็นน้ำผึ้งดอกไม้ป่า แปรรูปเป็นสบู่น้ำผึ้ง รายได้ที่มานี้จะเก็บเข้ากองทุนของหมู่บ้าน เพื่อใช้ในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ โดยเฉพาะในเรื่องการทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟป่า
น้ำผึ้งจากห้วยหินลาดใน เป็นน้ำผึ้งของผึ้งโพรง และผึ้งชันโรง ที่เลี้ยงและดูแลไม่ยาก สามารถให้ธรรมชาติช่วยดูแลได้ โดยที่คนไม่ต้องเข้าไปรบกวน น้ำผึ้งดอกไม้ป่าเหล่านี้ ได้มาจากดอกก่อ ดอกพะยอม และดอกดงดำ ซึ่งให้กลิ่นหอม แต่ต่างกันในเรื่องของรสชาติ และสีสัน
ท่องเที่ยว ห้วยหินลาดใน
หากอยากมาใช้ชีวิตในแบบชาวปกาเกอะญอ ควรมีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน เพื่อซึมซับธรรมชาติ และเรียนรู้ประเพณี โดยกิจกรรมมีตั้งแต่ การผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อรับขวัญแบบดั้งเดิม
นอกจากนั้นยังมีการเดินป่าเพื่อเก็บผลผลิตตามฤดูกาล ก่อนจะนำมาปรุงอาหารพื้นบ้าน สำรวจไร่หมุนเวียน รวมทั้งทอผ้า ทำชา ด้วยวิธีดั้งเดิม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้ทั้งความรู้ และความสบายใจ รวมถึงมาพักปอด เก็บความบริสุทธิ์ของผืนป่าให้เต็มปอด ก่อนกลับไปสู่ความวุ่นวายของชีวิต
คำแนะนำจากกองบรรณาชีวจิต
- ในหมู่บ้านมีที่พักไม่มากนัก แนะนำให้ติดต่อกับผู้ดูแลหมู่บ้านก่อน เพื่อจองที่พัก และอาหาร
- สำหรับการเดินทาง หากอยากขับรถไปที่หมู่บ้านด้วยตัวเอง ไม่ควรเดินทางด้วยรถเก๋ง โดยเฉพาะฤดูฝน เนื่องจากทางเข้าหมู่บ้านเป็นทางขึ้น – ลง เขาที่ค่อนข้างชัน เพื่อความปลอดภัยควรประสานการเดินทางกับคนในหมู่บ้านก่อน
ชุมชนห้วยหินลาดใน จังหวัดเชียงราย
ท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ
ที่ตั้ง: หมู่7 ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 57170
ติดต่อสอบถาม: โทร. 085-713- 2533
เฟสบุ๊ค: เพจ HIN LAD NAI
เรื่องอื่นๆ น่าสนใจ
เปิดเทคนิค การฝึกหายใจ ช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด และคลายกังวล
เมื่อเราลองใช้ เสียงเพลงบำบัด กายสบาย ใจสงบ
กลิ่นบำบัด เลือกให้ถูกช่วยได้ทั้งกาย ใจ