“Telemedicine” พบแพทย์ทางไกล อุ่นใจเหมือนได้มาโรงพยาบาล
ถึงแม้ว่าในช่วงนี้สถานการณ์ของไวรัส Covid-19 กำลังอยู่ในระยะผ่อนคลายลง แต่การใช้ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง การรักษาระยะห่างทางสังคมก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง “Telemedicine” จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะตอบโจทย์ให้ทุกคนได้รับบริการทางแพทย์ที่เหมาะสม โดยไม่ต้องออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ
หลายคนอาจสงสัยว่า Telemedicine วันนี้ Goodlifeupdate เลยจะเอาข้อมูลดีๆ มาบอกต่อกัน
Telemedicine คือระบบการให้คำปรึกษา หรือวินิจฉัยทางสุขภาพโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและแพทย์เฉพาะทางที่สามารถทำได้แบบ Real-time ผ่านวิดีโอคอล ซึ่งทำให้ทั้งผู้เข้ามารับบริการและแพทย์ได้พูดคุยกัน แพทย์ก็จะสอบถามอาการผู้ป่วยเหมือนตอนมาโรงพยาบาลจริงๆ ครอบคลุมทุกขั้นตอนทั้งการตรวจ การวินิจฉัย และให้คำปรึกษา โดยยังคงประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาลแม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้มาเจอหน้ากันก็ตาม
แม้เราจะไม่คุ้นและเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่ แต่ Telemedicine ก็เป็นแนวทางการที่ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล อ้างอิงจากสถิติการให้บริการประจำปี 2562 ของ OneConsultationSoftware ซึ่งเป็น Platform ที่ให้บริการ Telemedicine ในสหราชอาณาจักร พบว่ามีประชาชนอายุตั้งแต่ 18–49 ปี เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 68% เป็น 73% ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำประเทศสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention) ยังพบว่า ชาวอเมริกันให้ความสนใจบริการ Telemedicine จนมีการนัดหมายมากถึง 93% ตั้งแต่ช่วงก่อนเดือนมีนาคม 2562 ที่ COVID-19 จะระบาดอย่างหนัก เพราะเป็นบริการที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการที่มีข้อจำกัดหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น
– วัยทำงานที่ Work from home หรืองานรัดตัว
– ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก
– ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
– ผู้ป่วยติดเตียง
– ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ควรระวัง COVID-19
Telemedicine มีข้อดีที่สำคัญก็คือ “ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องลางาน”
โดยปกติถ้าพูดถึงการมาโรงพยาบาล ทุกคนน่าจะมีความทรงจำเป็นการรอคอยที่ยาวนาน การลางาน ลาเรียน และความแออัด แต่ Telemedicine จะพาคุณก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง
1) ไม่ต้องเดินทางหรือเสียค่าเดินทางมาโรงพยาบาล
2) สามารถนัดล่วงหน้าได้ง่าย และเข้ามารับบริการได้โดยไม่ต้องลาเรียนหรือลางาน
3) ไม่จำเป็นต้องนั่งรอคิวนาน เพราะเมื่อถึงเวลาก็เข้ามาพบแพทย์ออนไลน์ได้ทันที
4) เอื้อต่อการรักษาระยะห่างทางสังคม เพราะไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องมาโรงพยาบาล
5) สามารถปรึกษาแพทย์ได้บ่อยขึ้น เพราะไม่ต้องคำนึงเรื่องระยะเวลาหรือการเดินทาง
บริการออนไลน์ แต่แพทย์ดูแลได้แบบจัดเต็ม
ถึงแม้จะเป็นการให้บริการแบบออนไลน์ แต่ก็มั่นใจได้เหมือนกับได้ไปโรงพยาบาลจริงๆ เพราะ Telemedicine ที่โรงพยาบาลวิมุตให้บริการดูแลโดยทีมแพทย์ แพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถถามเพื่อวิเคราะห์ และให้คำตอบในทุกแง่มุมเอาใจใส่ทุกอาการของคุณ ให้คุณคลายกังวล และมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลทางการแพทย์ได้แบบ Full Option วางใจได้ทุกคำปรึกษาออนไลน์ที่วิมุต ด้วยที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เอาใจใส่คุณ
ที่สำคัญสามารถใช้บริการได้ทั้งผู้ป่วยเก่าและผู้ป่วยใหม่ โดยสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ให้กับตัวเอง หรือคนในครอบครัวก็ได้ เช่น การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือ เด็กเล็ก หรือผู้ปกครองที่ต้องการคำแนะนำเรื่องวัคซีนสำหรับเด็ก หรือการดูแลผู้ป่วยเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอดหลังติดเชื้อ COVID-19 หรือผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพก็สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ได้เบื้องต้นก่อนตัดสินใจตรวจ โดยแพทย์สามารถจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Check up ทำให้ผู้มาใช้บริการได้รับโปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมมากที่สุด
บริการ Telemedicine ของโรงพยาบาลวิมุต ครอบคลุมในการรักษาแทบทุกกลุ่มโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจระบบประสาทและสมองกระดูกและข้อสูตินรีเวชกุมารเวชหรือศัลยกรรม และนอกจากการฟังอาการ วินิจฉัย ให้คำปรึกษาแล้ว คุณยังสามารถรับบริการส่งยาถึงบ้านได้อีกด้วย
เริ่มต้นได้ง่าย แค่ปลายนิ้ว
หากสนใจทดลองใช้บริการ Telemedicine กับโรงพยาบาลวิมุต สามารถลงทะเบียนได้ทางหน้าเว็บไซต์ www.vimut.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ViMUT ได้ทาง Google Play Store ในระบบ Android และ App Store ในระบบ iOS
ทั้งนี้โรงพยาบาลวิมุต ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับพี่น้องชาวไทย สามารถปรึกษาแพทย์ผ่านบริการ Telemedicine ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจนถึง 31 ธ.ค. 2564 นี้ ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลวิมุตอีกระดับของการรักษาด้วยความใส่ใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/69/wr/mm6943a3.htm
https://www.modalitysystems.com/hub/blog/telemedicine-statistics
https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/69/wr/mm6943a3.htm
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
-
- 4 ผลเสียจากการทำงานดึก อันตรายกว่าที่คิด แม้สมองแล่นก็ควรนอน
- 10 วิธีหยุดความเหนื่อยล้า หลังเลิกงาน
- การพักผ่อนให้ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่นอน อะไรคือการพักผ่อนที่แท้จริง
- เคล็ดลับดีๆให้นอนหลับสนิทตลอดคืน พร้อมตื่นมาอย่างสดชื่น ให้คุณเป็นคนใหม่ได้ในทุกๆวัน
- 4 เคล็ดลับรับมืออาการ ‘เครียดแล้วชอบกิน’ จะได้ไม่เครียดเพราะน้ำหนักขึ้น
- 10 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ โรคไมเกรน อาการปวดหัวที่คอยกวนใจคนวัยทำงาน
- วิธีคลายเครียด หลังเลิกงาน เคล็ดลับของคนวัยทำงานตามแบบฉบับญี่ปุ่น