3 วิธีกินรางจืด ปลอดภัย ร่างกายสะอาดชัวร์
วิธีกินรางจืด
ปัจจุบันสมุนไพร เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป และมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยสมุนไพรชนิดหนึ่ง อาจจะมีวิธีกินหรือใช้แก้โรคมากกว่าหนึ่งโรค แถมบางชนิดเหมาะที่จะกินเป็นยารักษาโรคมากกว่ากินเป็นอาหาร
ดังนั้น การเลือกใช้สมุนไพรถูกชนิดและถูกต้อง จึงดีและปลอดภัยต่อร่างกาย ในทางกลับกัน หากใช้สมุนไพรผิดวิธีและไม่เหมาะกับโรค นอกจากจะเป็นยาที่ไร้ประโยชน์แล้วยังอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
ครั้งนี้ ผมขอพูดถึงรางจืด ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีการใช้ประโยชน์อย่างเฉพาะเจาะจง โดยก่อนหน้านี้ มีการนำรางจืดมาผสมในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม จนช่วงปลายปี พ.ศ. 2558 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ร่อนจดหมายเวียน ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
ทุกจังหวัด
โดยระบุว่า ห้ามกินรางจืดเป็นอาหาร หรือผสมลงในผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม เพราะไม่มีประวัติการกินรางจืดเป็นอาหาร และจากข้อมูลงานวิจัยพบว่า การกินรางจืดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเลือด ตับ และไตทำงานผิดปกติ
อีกทั้งอาจทำให้เกิดอันตรกิริยากับยาที่ใช้อยู่เป็นประจำได้ ซึ่งหมายถึงอาจทำให้ยาที่กินอยู่เป็นประจำออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ หรือไปเสริมการออกฤทธิ์จนเกิดอันตรายรุนแรง และได้รับผลข้างเคียงจากยาได้
ในทางการแพทย์แผนไทย รางจืด มีฤทธิ์เป็นยาเย็น กินเพื่อลดไข้ ช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ฉะนั้นหากกินติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายมีความเย็น ธาตุต่าง ๆ แปรปรวน ตัวซีด เย็น และมีอาการชาได้
นอกจากนี้ เราสามารถกินรางจืด เพื่อถอนพิษเมาเบื่อต่าง ๆ เช่น พิษเมาเบื่อจากสารพิษ สารเคมี ยาฆ่าแมลง เหล้า เบียร์ ฯลฯ จึงอยากแนะนำให้กลุ่มเกษตรกรที่ใกล้ชิดกับสารเคมี และยาฆ่าแมลงใช้นะครับ เพราะรางจืดจะไปกระตุ้นการขับปัสสาวะ จึงทำให้ร่างกายขับสารพิษต่าง ๆ ออกมาได้มากเป็นพิเศษ แถมยังมีงานวิจัยระบุว่า รางจืดช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำลังกินยาแผนปัจจุบันอยู่ หากกินรางจืดร่วมด้วยอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงได้
เราได้รู้จักประโยชน์และสรรพคุณของรางจืดกันไปแล้ว แต่รู้หรือไม่ครับ ว่ารางจืดมีหลายชนิด หากกินรางจืดผิดต้น ก็ไม่สามารถช่วยขับสารพิษได้นะครับ
โดยรางจืดแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
- รางจืดเถา ลักษณะเป็นเถาวัลย์ มีทั้งชนิดดอกสีขาวและดอกสีม่วง มีสรรพคุณแก้ไข้ ถอนพิษเมาเบื่อต่าง ๆ ได้ แนะนำให้เลือกใช้รางจืดเถาดอกสีม่วงนะครับ เพราะออกฤทธิ์ทางยาดีที่สุด และเป็นรางจืดที่นิยมกินกันมาก และมีสรรพคุณตามที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตาม รางจืดดอกสีม่วง จะมีลักษณะดอกคล้ายคลึงกับต้นสร้อยอินทนิลมาก แต่มีความแตกต่างที่ใบ คือ ใบรางจืดเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานหรือรูปไข่ ส่วนใบของสร้อยอินทนิลเป็นใบเดี่ยว มีปลายใบหยักเว้าเป็นแฉก ฉะนั้นควรพิจารณาให้ดี ก่อนนำมากินเป็นยานะครับ - รางจืดต้น จัดเป็นพืชล้มลุก มีลักษณะเป็นพุ่ม ดอกสีเหลือง มีฝักคล้ายถั่ว ใช้ใบและรากแก้พิษงู แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ว่านรางจืด มีลักษณะเป็นกอ คล้ายขมิ้น มีหัวอยู่ใต้ดิน เนื้อหัวสีขาว มีกลิ่นหอม สามารถนำมาประกอบอาหารได้ ส่วนเหง้าแก้พิษเมาเบื่อ
สำหรับ วิธีกินรางจืดเถา ที่ถูกต้องนั้น นอกจากไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว ยังมีวิธีกิน ดังนี้
- ใบสด นำใบสด 4 – 5 ใบ มาโขลกให้ละเอียดผสมกับน้ ำหรือน้ำซาวข้าว คั้นเอาแต่น้ำ ดื่มทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการขับพิษ
- ใบแห้ง นำใบแห้ง ปริมาณ 10 – 15 กรัม มาบดหยาบ แล้วชงกับน้ำเดือด ดื่มทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพื่อขับพิษ
- แคปซูล กินขนาด 250 – 500 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง เพื่อลดไข้ แก้กระหายน้ำ
เห็นไหมล่ะครับ แค่คิดจะกินรางจืด ก็มีเรื่องให้ปวดขมับแล้ว เพราะสมุนไพรมีความหลากหลาย ดังนั้นก่อนกินควรพิจารณาให้ดีและถี่ถ้วนทุกครั้ง
เรื่อง พท.ป.ชารีฟ หลีอรัญ ภาพ iStock เขียนลงเว็บ เนื้อทอง ทรงสละบุญ
ชีวจิต 455 – นิตยสารรายปักษ์ ปีที่ 19 : 16 กันยายน 2560
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
บทความน่าสนใจอื่นๆ
วิธีกิน รางจืด ให้ปลอดภัย ตามที่ อย. เตือน