Kina Kind Cuisine ร้านอาหารแพลนต์เบส ที่เสิร์ฟแต่ความอร่อย
Kina Kind Cuisine เป็นร้านอาหารแพลนต์เบส Plant-Based ที่เกิดความตั้งใจของครอบครัว “มุกุระ” ที่มุ่งมั่นคิดค้นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ เน้นใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก โดยเน้นคุณค่าและสารอาหารในทุกจาน ให้คนรักสุขภาพได้เอ็นจอยไปกับมื้ออาหารจากพืช เปลี่ยนภาพจำแห่งอาหารแพลนเบส์ที่จืดชืดให้กลายเป็นอาหารที่มีรสชาติและน่าตื่นเต้นแม้จะไร้เนื้อสัตว์
คุณปูเป้ ปิยะรัตน์ มุกุระ เจ้าของร้าน ตัวแม่สาย Plant-Based พูดคุยถึงจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งร้านนี้ให้ฟังว่า เมื่อก่อนครอบครัวทำธุรกิจเปิดร้านเป็ดย่าง ลูกค้ามาชวนพูดคุย เลยพบว่า หลายคนกำลังมีปัญหาสุขภาพ บวกกับคุณแม่ของเธอเริ่มมีปัญหาสุขภาพเช่นกัน จึงเลิกกินเนื้อสัตว์ และชักชวนทุกคนในครอบครัวให้มากินตาม

“ช่วงที่เปิดร้านเปิดย่างเราเห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าที่เจอกันมาตั้งแต่ยังเด็กๆ บางคนพออายุมากขึ้นก็ป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน อัมพฤกษ์ บวกกับช่วงนั้นคุณแม่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และมีญาติๆ ล้มป่วย และเสียชีวิตหลายคน บางคนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้กลับมาคิดกันว่า พวกเราควรเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะการกินที่ส่งผลต่อสุขภาพได้มากที่สุด
“ตอนที่คุณแม่ชวนให้เลิกกินเนื้อสัตว์ก็ทำใจอยู่นาน แต่เราเห็นได้ชัดว่าตั้งแต่คุณแม่ปรับการกิน สุขภาพก็ดีขึ้น จากคนที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะก็หายไม่ต้องกินยาอีกต่อไป เราจึงตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์ตอนอายุ 30 ปี หลังจากนั้นก็เริ่มศึกษาอย่างจริงจังว่า ทำไมคนที่กินแพลนต์เบสเค้าอยู่กันยังไง กินแล้วดีต่อสุขภาพยังไง ไปลงเรียนคอร์ส The Plant Fed Gut เกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อลำไส้โดยคุณหมอ Will Bulsiewicz ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและโภชนาการชาวอเมริกัน
“เราอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจการกินอาหารจากพืช สุดท้ายก็เปิดโลกเลยว่าทุกอย่างนั้นเกี่ยวเนื่องกับลำไส้เราทั้งหมดระบบภูมิคุ้มกัน การหลั่งฮอร์โมน ระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหาร ระบบสมอง ทุกๆ อย่างถูกควบคุมโดยจุลินทรีย์ ซึ่งภายในร่างกายของมนุษย์มีจุลินทรีย์หลักร้อยล้านตัว และเกือบ 40 ล้านตัวที่อาศัยอยู่ในลำไส้ทั้งหมดนั้นไม่กินเนื้อสัตว์
“นอกจากนั้นยังรู้ว่าอาหารที่จะดูแลร่างกายของเราได้จริงๆ ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบในยุคปัจจุบันก็คือความหลากหลายของพืช ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ โดยหลักการแล้วต้องกินพืชให้ได้ 30-40 ชนิดต่อสัปดาห์ ฟังดูอาจจะเยอะ แต่ลองนับจริงๆ อย่างพริกแต่ละชนิดก็นับเป็น 1 หรืออย่างกะหล่ำม่วง หรือกะหล่ำสีเขียวก็นับเป็นอย่างละ 1 ชนิด เพราะสีที่ต่างกันของพืชนั้นหมายถึงสารอาหารที่แตกต่างกัน”

สร้างสรรค์อาหารจากพืชธรรมชาติ
หลังจากศึกษาเกี่ยวกับอาหารแพลนต์เบส รวมถึงหลักโภชนาการจากอาหารที่ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อสัตว์ แต่ให้คุณค่าและวิตามินแก่ร่างกายได้ คุณปูเป้จึงตัดสินใจเปิดร้านKina Kind Cuisine ขึ้นมา
“ช่วงที่เริ่มหันมากินวีแกน เรารู้สึกว่าอาหารเพื่อสุขภาพแนวนี้หากินยาก และด้วยความที่ทุกคนในครอบครัวมีทักษะการทำอาหาร เลยมาคิดว่าทำไมเราไม่ทำกินเอง ก็เริ่มลองทำอาหารเพื่อสุขภาพกินกันตั้งแต่ตอนนั้น รวมถึงอยากแบ่งปันอาหารดีๆ ให้กับคนอื่นๆ ได้กินด้วย จึงคิดเปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อให้คนรักสุขภาพได้มีตัวเลือกมากขึ้น
“ร้านนี้เปิดช่วงหลังโควิด ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนที่โควิดระบาดไปไหนไม่ได้ ทุกคนในครอบครัวก็ถือโอกาสได้ทดลองคิดค้นสูตรอาหาร เราได้ทดลองว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ จุดหนึ่งที่เราสังเกตได้ในอาหารไทยคือไม่ค่อยมีถั่ว เราพึ่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ตลอด ถั่วกลายเป็นวัตถุดิบที่อยู่ในของหวานแทบทั้งหมด เวลาที่ทำอาหารไทยบางเมนูเราแค่กลับมาคิดใหม่ว่าเมนูที่เราคุ้นเคยนั้นสามารถใช้อะไรทดแทนเนื้อสัตว์ได้บ้าง เช่น นำเห็ดมาทำเป็นข้าวยำแหนมเห็ด ใส่ถั่วลิสงทอดในแกงส้ม หรือนำเต้าหู้มายีทำเป็นผัดกะเพรา เราจะทดลองทำอาหารจนกว่าจะได้สูตรที่ดีที่สุด ก่อนจะทำออกมาเป็นเมนูให้ลูกค้าได้กิน”

ทั้งหมดนี้นี่คือที่มาของร้าน Kina Kind Cuisine ร้านอาหารที่พร้อมรังสรรค์เมนูอาหารที่ปรุงจากพืชล้วนๆ ที่ไม่เพียงอร่อยแต่ยังดีต่อสุขภาพ
เชื่อว่าใครที่ได้แวะมาที่ร้านนี้ต้องรู้สึกแบบเดียวกันคือ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เป็นกันเอง รู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน เป็นร้านอาหารสไตล์โฮมเมด บรรยากาศที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยดีเทลที่ให้ความอบอุ่น ร่มรื่น สบายตา ตกแต่งภายในด้วยวัสดุเปลือยและไม้ธรรมชาติ มีกลิ่นอายเกาหลีผสมนอร์ดิก
เมนูแนะนำ
Kina Kind Cuisine เสิร์ฟความ อร่อย แบบชาววีแกน สำหรับใครที่ไม่ชอบกินผัก อยากให้ลองแวะมาชิมเมนูที่ปราศจากเนื้อสัตว์ของทางร้านดูก่อน รับรองว่าต้องติดใจ
คุณปูเป้ต้องการให้ร้านนี้เป็นหนึ่งใน Cuisine ที่ได้มานั่งกินอาหารอร่อยๆ เป็นอาหารแพลนต์เบสที่ไม่ต่างจาก Japanese Cuisine หรือ Italian Cuisine เป็นเมนูที่รังสรรค์จากพืชผักธรรมชาติล้วนๆ ที่สำคัญปลอดสารเคมี แถมยังรสชาติอร่อย กินแล้วอาจลืมไปเลยว่าจานนี้ไม่มีเนื้อสัตว์

เมนูแรกที่มาแล้วต้องลอง “Tomato Trio” ใครที่ไม่ชอบกินมะเขือเทศต้องลอง เพราะอาจเปลี่ยนใจ จานนี้เค้าใส่มะเขือถึง 3 สไตล์ คือ มะเขือเทศสด มะเขือเทศตากแห้ง(Sun Dried Tomato) และมะเขือเทศตุ๋นในน้ำมันมะกอกและโรสแมรี่ ท็อปด้วยวีแกนครีม เวลากินคู่กันแล้วครีมมี่มากๆ หอมกลิ่นโหระพาเวลาเคี้ยวเป็นรสชาติแบบอูมามิที่ลงตัว

อีกจานที่อยากให้ลองกินต่อเนื่องกันเลยคือ “พาสต้า Cappelletti Truffle” มองผ่านๆ คล้ายๆ เกี่ยวนึ่ง แต่ไม่ใช่ ด้านในของพาสต้าเป็นผักโขมอละอัลมอนด์ ราดด้วยครีมทรัฟเฟิลซอส และชีสวีแกนที่ทำมาจากถั่วเหลือง ท๊อปปิงด้วยแอปเปิ้ลสด จานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวที่ทำให้กับลูกสาว แต่อร่อยอย่างเหลือเชื่อ

ใครอยากได้ความแซ่บ ต้องลอง “Rice Yum (ข้าวทอดแหนมเห็ด)” รสชาติจัดจ้านแบบพอดี ปกติจะทำเป็นข้าวทอด แต่ทางร้านดัดแปลงมาเป็นข้าวที่เอาไปผัดกับแหนมเห็ด ใส่เครื่องเคียงสมุนไพรมาเต็มจานทั้ง ขิง หอมแดง ผักชีไบเลื่อย กินคู่กับใบชะพลูเข้ากันดี

นอกจากอาหารคาว ขนมก็อร่อยไม่แพ้กัน เมนูแนะนำ “Strowberry & Co” ที่ประกอบด้วย Crumble ไอศกรีมพีชเชอร์เบท ช็อกโกแลตครีมชีสวีแกน และ Butter Balls รสชาติเปรี้ยวอมหวาน อร่อย สดชื่น
Kina Kind Cuisine ตั้งอยู่เลขที่ 988 ตำบลหนองปรือ เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เปิดบริการเวลา 11.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ) โทร. 065 151 4228
บทความอื่นที่น่าสนใจ
บ้าน 100 ปี คาเฟ่ & ฟาร์ม ร้านอร่อย ดีต่อสุขภาพ
ชีวจิตชวนชิม หน้าต่างเขียว ร้านอาหารสุดคลีน วิวหลักล้าน
รวมร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ปีใหม่นี้ ต้องผอม+สตรอง!!
ติดตามชีวจิตได้ที่