สาหร่ายวากาเมะ

ว่าด้วยเรื่องของ สาหร่ายวากาเมะ กับการลดความอ้วน

ด้วยไลฟ์สไตล์บวกกับบรรดาอาหารบุฟเฟต์ทำให้หลายคนน้ำหนักเกินได้ไม่ยาก และอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้อิ่มท้องคงหนีไม่พ้น สาหร่ายวากาเมะ ซึ่งสายเฮลท์ตี้บอกว่า กินให้หนำก็ไม่อ้วน แต่จะจริงหรือไม่นั้น เราไปหาคำตอบมาให้แล้ว

เช็กหน่อย อ้วนเกินไปมั้ย

โรคอ้วนตามแนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและดูแลรักษาโรคอ้วน ของสถาบันวิจัยและการประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ของคือโรคที่คนมีค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งคิดจากค่าน้ำหนักตัวหารด้วยส่วนสูงยกกำลังสองแล้วมีค่ามากกว่า 25.0

ในปัจจุบันคนไทยเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น จากข้อมูลสถิติของสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย พบว่า ในปีพ.ศ. 2556 พบว่า มีคนอ้วนรวมกันทั้งประเทศ 16 ล้านคน เป็นชาย 4.7 ล้านคนและหญิง 11.3 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก

สาหร่ายวากาเมะ กับการลดน้ำหนัก

โดยโรคอ้วนนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงของการพัฒนาเป็นโรคที่สำคัญต่างๆ ได้เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น

นอกจากนั้นยังทำให้สรีระของร่างกายดูไม่ดี ทำให้หลายคนพยายามหาวิธีลดน้ำหนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ซึ่งในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ มากมายที่อ้างว่าช่วยในการลดน้ำหนักได้ หนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสาหร่ายวากาเมะนั่นเอง

ซึ่งก่อนที่จะไปดูว่าสาหร่ายชนิดนี้สามารถช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือไม่ เราคงต้องไปรู้จักสาหร่ายชนิดนี้กันก่อนว่าคืออะไร

สาหร่ายวากาเมะ

สาหร่ายวากาเมะ (Wakame)

จัดเป็นสาหร่ายสีน้ำตาลชนิดหนึ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Undaria pinnatifida ซึ่งเป็นสาหร่ายที่พบในประเทศญี่ปุ่น โดยพบว่าในสาหร่ายวากาเมะนั้นมีสารอาหารต่างๆ มากมายทั้งโปรตีน โพลิแซคคาไรด์ เกลือแร่ วิตามินและยังมีไขมันในปริมาณน้อย นอกจากนั้นยังมีสารอื่นๆ อีกเช่น ฟูโคแซนทิน (Fucoxantin) ซึ่งในปัจจุบันมีการศึกษาถึงผลของสารชนิดนี้มากมายหนึ่งในนั้นคือ ฤทธิ์ในการต้านการเกิดความอ้วน (anti-obesity)

ฟูโคแซนทินเป็นสารแคโรตินอยด์ (carotenoid) ซึ่งเป็นสารที่ให้สีส้ม แดง หรือเหลือง ชนิดหนึ่งที่พบเป็นปริมาณมากในสาหร่ายสีน้ำตาลรวมทั้งในสาหร่ายวากาเมะด้วย โดย Maeda และคณะพบว่า กลไกในการเกิดฤทธิ์ในการต้านการเกิดความอ้วนนั้นเกิดจากการที่ฟูโคแซนทินกระตุ้นให้มีการสร้าง uncoupled protein-1 (UCP-1) ในเซลล์ไขมันสีขาว (White adipose tissue) ซึ่งปกติ UCP-1 นั้นจะมีหน้าที่ในการสลายไขมันเพื่อทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย โดยจะสามารถพบ UCP-1 ได้มากในเซลล์ไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ซึ่งมีจำนวนน้อยในร่างกายคน โดย UCP-1 พบได้น้อยในเซลล์ไขมันสีขาว ซึ่งพบเป็นส่วนมากในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นการเพิ่ม UCP-1 จึงทำให้มีร่างกายมีการสลายไขมันมากขึ้น

นอกจากนั้น Maeda และคณะยังได้ศึกษาในหนูทดลองโดยในให้หนูทดลองกินอาหารที่มีไขมันสูงแล้วแบ่งเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มที่ได้รับฟูโคแซนทินและกลุ่มที่ไม่ได้รับฟูโคแซนทินโดยติดตามน้ำหนักของหนูทดลองเป็นเวลา 5 สัปดาห์ พบว่าในกลุ่มหนูที่ได้รับฟูโคแซนทินมีน้ำหนักขึ้นน้อยกว่ากลุ่มหนูที่ไม่ได้รับฟูโคแซนทิน และพบว่ากลุ่มที่ได้รับฟูโคแซนทินมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกับหนูที่เป็นกลุ่มควบคุมที่ได้รับอาหารในแบบปกติอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการศึกษาในสัตว์ทดลองที่พบว่า ฟูโคแซนทินอาจมีกลไกที่อาจมีส่วนช่วยในการลดความอ้วน แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาในคนทำให้ไม่ทราบกลไกนี้เกิดขึ้นจริงในคนหรือไม่ และหากเกิดขึ้นได้จริงจะต้องรับประทานสาหร่ายวากาเมะ หรือสารสกัดฟูโคแซนทินในปริมาณเท่าใด และเป็นเวลานานเพียงใด จึงจะสามารถลดความอ้วนในคนได้

จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาหร่ายวากาเมะนั้นช่วยลดน้ำหนักในคนได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามก็ยังสามารถนำสาหร่ายวากาเมะมารับประทานได้ เพราะเป็นแหล่งอาหารที่ดี มีไขมันน้อยและสามารถใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนได้

เมนูจาก วากาเมะ

  1. ต้ม หรือซุป เช่น ซุปมิโซะ , อุด้งวากาเมะ , ซุปวากาเมะญี่ปุ่น หรือแม้แต่ ซุปไข่สาหร่ายวากาเมะ เป็นต้น หรือจะนำมาลวกจิ้มทานกับน้ำจิ้มสุกี้ก็อร่อยสุดๆ
  2. ยำ หรือสลัด เช่น ยำสาหร่ายวากาเมะ หรือสามารถนำไปผสมเข้ากับผักอื่นๆ ก็ย่อมได้
  3. ผัด หรือทอด วากาเมะสามารถนำมาใส่ผัดรวมกับเนื้อสัตว์ ผัก และเส้น เช่น เส้นโซบะ หรืออุด้ง เพื่อรสชาติที่อร่อยมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สาหร่ายวากาเมะผัดไข่ , อุด้งผัดวากาเมะ , วากาเมะทอดกรอบ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาทำเป็นหน้าซูชิ หุงคลุกกับข้าวสวย หรือใส่ในไข่ตุ๋นก็ได้ ทั้งหมดนี้เข้ากันสุด ๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบเลย!

ข้อควรระวัง

  แม้ว่าสาหร่ายวากาเมะจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่วากาเมะนั้นก็มีข้อควรระวัง ที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากวากาเมะมีปริมาณโซเดียมที่สูง แนะนำว่าควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานเยอะจนเกินไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่เป็นโรคไต หรือความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังในการทาน และหากทานมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติได้

นอกจากนี้ควรเลือกซื้อสาหร่ายวากาเมะจากแหล่งน้ำที่สะอาด มีมาตรฐาน เป็นสาหร่ายที่สดใหม่ ไม่มีสี หรือกลิ่นที่ผิดปกติอีกด้วยค่ะ

ข้อมูลจาก

  • หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • MR.K Kimchi

บทความอื่นที่น่าสนใจ

ติดตามชีวจิตได้ที่

Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.