ช่วงบ่ายๆ หลายคนรู้สึกง่วง ลองมา งีบ กันสักนิด จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
งีบ คือการนอนหลับระยะเวลาสั้นๆ เพื่อชดเชยเวลาที่เรานอนไม่เพียงพอ ช่วงระยะเวลาของการนอนงีบ จะมีผลต่อสุขภาพ ทั้งด้านสมองและร่างกาย ทำให้รู้สึกตื่นตัวได้อย่างรวดเร็ว คลายตึงเครียด ทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส นอกจากนี้ระบบร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การงีบเพียง 10 นาที จะทำให้เราตื่นตัวพร้อมทำงานต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง ซึ่งการหลับไม่นาน มีประสิทธิภาพมากกว่าการนอนนานๆ 30 นาที – 1 ชั่วโมง
งีบระหว่างวันดีอย่างไร
- ก่อให้เกิดการตื่นตัวทั้งด้านสมองและร่างกายในการทำงาน มีความกระตือรือร้น อาการร่วงโรยต่างๆ จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ลดความเครียด หรือความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
- ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
- การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าร้อยละ 40 การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีและมีความพร้อมมากขึ้น
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
- งานศึกษาขององค์การ NASA ที่ได้ใช้นักบินอวกาศในการทดลอง พบว่าการงีบหลับเพียง 40 นาทีต่อวันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากถึง 34%
- การศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการงีบหลับและความดันโลหิต พบว่ามนุษย์วัยกลางคนที่ได้งีบหลับระหว่างวันจะมีความดันโลหิตต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้งีบหลับ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
- การวิจัยในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ยืนยันเกี่ยวกับการค้นพบที่ว่า ผู้สูงอายุที่งีบหลับเป็นประจำจะมีความดันต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้งีบหลับถึง 5% เลยทีเดียว
เวลาที่เหมาะสม เพื่อการงีบระหว่างวัน
- นอนหลับ 10 – 20 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานและคืนความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองโปร่ง เพราะอยู่ในช่วงระยะ non – rapid eye movement (NREM) ซึ่งเป็นการหลับที่ไม่มีการกรอกตา แบบรวดเร็ว
- นอนหลับ 30 นาที เป็นเวลานอนที่ไม่เป็นผลดีกับร่างกาย เพราะจะยังคงรู้สึกง่วง มึนงง เหมือนกับนอนไม่พอ และยังคงไม่พร้อมที่จะทำงาน ซึ่งกว่าอาการนี้จะหายไปก็ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีต่อมา
- นอนหลับ 60 นาที เป็นช่วงที่ดีต่อความจำ ซึ่งเรียกว่าอยู่ในช่วง Slow – wave sleep เป็นการหลับลึกที่ยังคงความง่วง แต่สมองสามารถเสริมความจำดีไว้ได้
- นอนหลับ 90 นาที เป็นการนอนที่ครบรอบ กล่าวคือ มีหลับลึกและไม่ลึกมากนัก อาจมีการฝันบ้าง ช่วยให้อารมณ์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และไม่งัวเงียเหมือนช่วง 30 – 60 นาที
งีบหลับ แบบนี้
- ใช้เวลาแค่ 30 นาที หากนอนนานกว่านี้จะส่งผลให้เข้าสู่ระยะหลับลึก เมื่อตื่นขึ้นมาสมองจะเฉื่อยลง ไม่รู้สึกเต็มอิ่มและสดชื่นเท่ากับการนอนระยะสั้นๆ
- ควรนอนในช่วง 13.00 น. - 15.00 น. เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด
- ไม่ควรนอนหลังจากเวลา 17.00 น. เพราะจะทำให้นอนไม่หลับในเวลากลางคืน
- นอนด้วยความสบายใจ หากคิดจะนอนแล้ว ไม่ต้องรู้สึกผิดหรือละอายใจควรปิดไฟ นอนราบ จัดการงีบให้เต็มที่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี้ในการพักผ่อนร่างกาย จะเป็นการพักสมองที่มีคุณภาพมากที่สุด 30 นาทีทองนี้อาจช่วยให้การทำงานอีกครึ่งวันสนุกและมีประสิทธิภาพอย่างที่คุณคาดไม่ถึงค่ะ
ฝึกตัวเองให้งีบ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีนิสัยงีบช่วงพัก ยกเว้นว่าคุณจะมาจากประเทศอย่างสเปนหรือกรีซที่การงีบช่วงบ่าย หรือคำว่า “siesta” เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
กาย เมโดวส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนและผู้ก่อตั้ง Sleep School เผยว่า การงีบก็เหมือนกับการว่ายน้ำ หรือการขี่จักรยานที่ต้องอาศัยการฝึกฝน เขาแนะนำให้ทุกคนใช้วิธีตั้งเวลา เพื่อไม่นอนนานเกินไป และเมื่อทำแบบนี้ซ้ำๆ สัก 3 เดือน ร่างกายก็จะจดจำเป็นนิสัยว่าช่วงเวลานั้นๆ มีไว้สำหรับงีบ
สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่บังคับตัวเองให้หลับ แค่ไปนอนสบายๆ บนเตียง หรือนั่งเอนบนเก้าอี้ ปิดม่านให้ห้องมืดลงหรือไม่ก็ใส่ที่ปิดตา พยายามอยู่นิ่งๆ และก็พักผ่อน นอกจากนี้ ควรจะหยุดดูมือถือหรืออ่านอีเมลสัก 5 นาที ก่อนที่จะงีบ
ผลวิจัย พบว่า การใช้เวลางีบระหว่างวันเกินกว่า 30 – 45 นาที หรือการงีบช่วง 11.00 น. นอกจากจะไม่ส่งผลดีกับร่างกายแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างเช่นทำให้ช่วงกลางคืนนอนไม่หลับ และอาจมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย
งีบ VS. โรค
คนไข้โรคลมหลับก็ได้รับประโยชน์จากการงีบหลับเช่นกัน โรคลมหลับเป็นโรคที่มีลักษณะอาการทำให้ร่างกายง่วงนอนตลอดเวลา “ร่างกายได้รับการโจมตีจากภาวะง่วง” ไม่ว่ากำลังทำกิริยาใดใดอยู่ก็ตามเช่น พูดคุย รับประทานอาหารหรือขับรถก็จะเกิดอาการง่วงขึ้นมากะทันหัน การงีบหลับจะช่วยลดอาการของภาวะร่างกายได้รับการโจมตีจากความรู้ง่วงนอนได้บ้าง
สรุปง่ายๆ การงีบหลับในยามบ่ายเป็นระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยฟื้นคืนพลังกายและความตื่นตัว แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องของระยะเวลาในการงีบหลับและสถานที่ การงีบหลับจะมีประโยชน์สำหรับหลายคนรวมถึงผู้ที่ทำงานเป็นกะ ผู้ทำงานเกี่ยวกับการขับรถและผู้ป่วยเป็นโรคง่วงหลับจะได้รับประโยชน์จากการงีบหลับเป็นอย่างมาก ส่วนผู้ที่ไม่ควรงีบหลับคือ ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับและผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ข้อมูลจาก
- BBC
- สสส.
- คอลัมน์เกร็ดสุขภาพ (มือโปร) นิตยสารชีวจิตฉบับ 428
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ข้อควรระวัง ในการใช้ ขี้เหล็ก แทนยานอนหลับ
นอนไม่พอ ทำลายสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก
เช็กหน่อย! ง่วงนอนบ่อย ง่วงตลอดเวลา เสี่ยงป่วยหลายโรค