เซลีนา โกเมซ นักร้องสาว เจ้าของเพลงฮิตติดชาร์ต Come & Get It และอดีตแฟนสาวของนักร้องหนุ่ม จัสติน บีเบอร์ เผยในงานบิลบอร์ดว่า สาเหตุที่เธอหายหน้าหายตาไปจากงานต่างๆในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะเธอเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
เซลีนาต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ทำให้ต้องหยุดงานต่างๆ รวมถึงทัวร์คอนเสิร์ตใน 2 ปีที่ผ่านมา โดยโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเอสแอลอี โรคลูปัส หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อโรคพุ่มพวง เป็นโรคเรื้อรังที่สามารถส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของร่างกาย เช่น ผิวหนัง ข้อต่อ เลือด และไต นอกจากนี้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจะทำงานผิดปกติ โดยร่างกายทำงานต่อต้านภูมิคุ้มกันตัวเอง สร้างออโตอิมมูนขึ้นมาจู่โจมเนื้อเยื่อ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า มีไข้ น้ำหนักลด ปวดข้อ มีผื่น สูญเสียการได้ยิน เกิดภาวะโลหิตจาง ท้องอืดผิดปกติ และมีแผลเปื่อนในปาก
แพทย์หญิง ดร.โจแอน เมอร์ริลล์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคลูปัสแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง จะมีความเสี่ยงอาการเส้นเลือดในสมองแตก เลือดแข็งตัวบริเวณขา หรือแม้กระทั่งหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทำให้นักร้องสาวต้องหายหน้าหายตาไปพักรักษาตัวจนกระทั่งมีอาการดีขึ้น
ดร.โจแอนยังกล่าวอีกว่า การรักษาด้วยเคมีบำบัด ช่วยหยุดอาการร้ายแรงของโรคนี้ได้อย่างรวดเร็ว และยังใช้ปริมาณยาน้อยกว่าโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม อาการของโรคไม่สามารถคาดเดาได้ อาจเป็นๆหายๆ บางครั้งมีอาการน้อยมาก และบางครั้งอาจมีอาการสาหัส แต่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ที่มา: สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN)
เครดิตภาพ Unsplash/ Pixabay.com