วิธีการใช้ ยาหยอดตา
ก่อนเราจะหยิบ ยาหยอดตา ทุกครั้ง ควรตรวจสอบชนิดยาให้ถูกต้องว่า หยิบมาถูกขวด และอย่าลืมเช็กวันหมดอายุ ซึ่งปกติยาหยอดตาที่เป็นแบบขวดหลังจากเปิดใช้งานแล้ว จะอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือน หากเกินกว่านี้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเชื้อโรคมากขึ้น
สำหรับใครที่มียาหยอดตาหลายชนิด และไม่รู้ว่าจะต้องหยอดตัวไหนก่อนหลัง แนะนำว่า
– เริ่มต้นจาก หยอดยาตาที่มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ก่อน
– จากนั้นค่อยไล่ลำดับไปยาหยอดตาที่มีสารแขวนลอย (สังเกตจาก เมื่อหยอดลงไปในตาแล้ว รู้สึกเหมือนมีสีน้ำนมขาวขุ่น – แนะนำว่าก่อนหยอดควรเขย่าขวดทุกครั้ง)
– ปิดท้ายด้วยยาหยอดตาที่เป็นลักษณะเจล หรือขี้ผึ้ง
ทั้งหมดนี้ควรจะใช้ระยะเวลาการหยอดที่ห่างกันอย่างน้อย 5 – 10 นาที
ซึ่งการหยอดยาที่ถูกต้อง ก่อนเริ่มจะหยอดเราต้องล้างมือให้สะอาด และเช็ดมือให้แห้ง หากเป็นการนั่งหยอดตา ให้แหงนหน้าประมาณ 45 องศา จะช่วยให้หยอดตาได้ง่ายขึ้น แต่หากเป็นลักษณะการนอน ให้นอนหงายราบหน้าตรง และใช้มือข้างที่ไม่ถนัดดึงเปลือกตาลง เหลือตามองบน จากนั้นใช้มือข้างที่ถนัด ถือขวดยาลอยอยู่เหนือดวงตา (ระวังอย่าให้สัมผัสกับดวงตาหรือขนตา) หยดเพียงแค่ 1 หยด จากนั้นหลับตาประมาณ 1 นาที ให้มันซึมเข้าสู่ดวงตา
แต่ถ้าใครใช้ยาหยอดตาบางชนิดแล้วรู้สึก เคืองตา แสบตา มีอาการตาแดง เปลือกตาคล้ำ ตาบวม ให้หยุดยา และนำยาไปปรึกษาจักษุแพทย์ทันที
นอกจากนี้การดูแลขวดน้ำยาหยอดตาก็สำคัญ หรือการหยอดตาที่ไม่ถูกต้อง ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อาจนำมาสู่ปัญหาในอนาคตได้ ข้อควรห้ามที่ควรรู้คือ
– อย่าใช้ของมีดคม หรือการลนไฟเพื่อเปิดขวดยาหยอดตา
– อย่าเอาเข็ม หรือกรรไกรมาเจาะปลายขวดยา
– พยายามอย่าให้นิ้วมือ โดนปลายขวดยา
– ไม่ควรใช้ยาหยอดตา เกิน 1 เดือน
– อย่าซื้อยาหยอดตาที่ไม่ได้มาตรฐานมาหยอดตาโดยเด็ดขาด
– หากยาหยอดตามีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
– ห้ามใช้ยาหยอดตาร่วมกับคนอื่น
ที่มา : si.mahidol.ac.th
เนื้อหาเพิ่มเติมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ตาแห้ง อาการไม่ร้ายแรง ที่เป็นง่าย แต่เราไม่อยากให้เป็น
ต้อลม โรคดวงตาที่ควรระวัง ก่อนลุกลามจนยากจะรักษา
โรคตาแห้ง เกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาระยะกลางและระยะใกล้ต่อเนื่อง