ต้านอนุมูลอิสระ …เคล็บลับชะลอวัย
ก่อนที่จะเริ่ม ต้านอนุมูลอิสระ เรามาทำความรู้จักกับอนุมูลอิสระกันก่อนดีกว่า “อนุมูลอิสระ” (Free radical) เกิดจากปฎิกริยาออกซิเดชั่นของออกซิเจนในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย กลายเป็นสนิมไปเกาะเซลล์ต่างๆ และกัดกร่อนเซลล์ให้เสื่อมสภาพเร็ว เปรียบได้กับคราบควันพิษจากการเผาเชื้อเพลิงของโรงงาน หากเกิดเพียงเล็กน้อย ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผิวหมองคล้ำ แต่เมื่อไหร่ที่ร่างกายต้องเผชิญกับปัจจัยอื่นรุมเร้า ก็จะมีปริมาณอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเฉียบพลัน จนเกินกว่าจะรับมือไหว และหากยิ่งทิ้งไว้เนิ่นนาน อวัยวะต่างๆ จะเกิดความเสื่อม หรือแสดงออกทางผิวหนังที่เหี่ยวย่น ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขยากมาก
ทำไงดี ไม่อยากแก่?
เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องแบกรับปริมาณสารอนุมูลอิสระเกินขนาด จนเป็นสาเหตุแห่งความแก่ คุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระดังนี้
- กิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เช่น ออกกำลังกายหักโหมจนเกิดอาการเหนื่อยหอบ อย่างการวิ่งมาราธอน ยกน้ำหนัก
- กินอาหารที่ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานมาก เช่น ของทอด อาหารกลุ่มไขมันชนิดอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ที่ให้แคลอรีสูง หรือสิ่งที่มีอนุมูลอิสระสูง เช่น ของปิ้งย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงมลภาวะและสารเคมี นอกจากมลพิษทางอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่เราหายใจเข้าไปแล้ว สารเคมีที่ปลอมปนอยู่ในอาหาร เช่น ยาฆ่าแมลง ผงชูรส สีสังเคราะห์ ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ส่วนแสงแดดที่เราต้องเจอทุกวัน ก็ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระบริเวณผิวหนัง ซึ่งเป็นด่านแรกที่รับแสงนั่นเอง
- เครียด สมองถือเป็นอวัยวะที่ผลิตอนุมูลอิสระสูง เนื่องจากทำงานหนัก และมีการเผาผลาญพลังงานมาก เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งสารเคมีบริเวณสมองส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- พักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับช่วยให้อวัยวะส่วนใหญ่ได้หยุดพัก และช่วยให้อวัยวะที่ต้องทำงานตลอดเวลา เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นการลดการเกิดอนุมูลอิสระได้ทางหนึ่ง ดังนั้น หากพักผ่อนน้อย ร่างกายจึงต้องผลิตพลังงาน และทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากตามไปด้วย
มากินสารต้านแก่กันดีกว่า
แม้คุณจะพยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมก่ออนุมูลอิสระซักเท่าไหร่ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายก็จะลดลง จึงจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมเพื่อลดการเกิด และสะสมสารต้านอนุมูลอิสระไว้เสียตั้งแต่วันนี้
- แคโรทีนอยด์ เป็นเม็ดสีชนิดละลายในไขมัน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้เมื่อผ่านการปรุงสุก พบในผักสีส้ม เหลือง แดง เขียวเข้ม เช่น เอพริคอต ฟักทอง แคนตาลูป แครอท พีช บรอกโคลี
- ฟลาโวนอยด์ เป็นเม็ดสีชนิดละลายน้ำ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินซีและอีถึง 50 เท่า พบมากในดาร์กช็อกโกแลต องุ่นแดง และชาเขียว
- แอนโธไซยานิน ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ พบในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
- โคเอนไซม์คิวเทน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี พบได้ในแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า
- วิตามินซี เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่เสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่นในไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ได้แก่ ไขมันชนิดอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ พบมากในฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม เชอร์รี่ เสาวรส ทับทิม ซึ่งควรรับประทานแบบผลสด เพราะวิตามินซีจะถูกทำลายเมื่อถูกความร้อนและแสงแดด
- วิตามินอี เป็นวิตามินชนิดละลายในไขมัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระในอวัยวะที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ เช่น สมอง ตับ พบมากในน้ำมันพืข โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ถั่วลิสง วอลนัต อัลมอนด์
- แร่ซิลีเนียมและสังกะสี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่เสริมการทำงานของวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของเซลล์ พบมากในเนื้อแดง อาหารทะเล และถั่วเปลือกแข็ง
นอกจากจะเลือกรับประทานอาหารที่มากด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อชะลอความเสื่อมโดยรวมแล้ว เรายังสามารถเติมสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดปัญหาผิวได้ตรงจุด โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีวิตามินอี วิตามินซี โคเอนไซม์คิวเทน ซึ่งแม้จะช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องทำความเข้าในในหลักการ และวิธีการใช้ที่ถูกต้องด้วย
- วิตามินหรือสารบำรุงดังกล่าวอาจสูญสลายเมื่อถูกความร้อน จึงควรเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ไว้ในตู้เย็นเพื่อคงคุณค่าของสารบำรุงไว้
- ไม่ควรทาผลิตภัณฑ์พร้อมกันหลายชนิด เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์จะซึมลงสู่ผิวได้ในปริมาณจำกัดแล้ว ส่วนประกอบของครีมที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของวิตามินหรือสารต้านอนุมูลอิสระในครีมเสื่อมสภาพหรือสูญสลายไป
- อาจเลือกใช้ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น สตรอว์เบอร์รี่บดผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติพอกหน้า เพื่อเพิ่มวิตามินซีให้แก่ผิวโดยตรง
รีบเติมสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ความสวยยั่งยืนจากภายใน ส่งผลให้ผิวพรรณที่แลดูอ่อนวัยอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ
บทความน่าสนใจ :