เมื่อชีวิตคู่สั่นคลอน เพราะ เป็นโรคมะเร็ง
วันนี้เรานำประสบการณ์สุขภาพเกี่ยวกับผู้ที่ป่วย เป็นโรคมะเร็ง มาแบ่งปัน โรคนี้นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ลามไปถึงสภาพแวดล้อมในครอบครัว และชีวิตคู่ได้เลย มาอ่านเรื่องราวต่อไปนี้กันเลยค่ะ
ชีวิตคู่พังพินาศเพราะมะเร็ง
“ผมพบคนที่ใช่แล้ว” เขาบอกผ่านสัญญาณโทรศัพท์เสียงสั่นเครือ
“แล้วคนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปีอย่างฉันล่ะ” ฉัน ปราณี (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ถาม
เขาไม่ตอบ ได้แต่ย้ำประโยคเดิม ก่อนจะวางสายไปเบาๆ ด้วยความละอายใจ ทิ้งให้ฉันซึ่งเคยดำรงบทบาทภรรยานอนคว้างอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลตามลำพัง ผู้คนขวักไขว่ แต่ฉันกลับไม่เห็นใครเลยนอกจากตัวเองและอาการสาหัสสากรรจ์
ดูทีรึ ความเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดมะเร็งเต้านมที่ว่าหนักหนาแล้ว ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความเจ็บปวดในหัวใจขณะนี้
คำพูดเรียบๆ ของเขาก็คมกริบเสียยิ่งกว่ามีดหมอเล่มใด ประโยคสุดท้ายที่ดังก้องอยู่ในหูซ้ำไปซ้ำมานั้นจวกแทงหัวใจฉันครั้งแล้วครั้งเล่า
สายน้ำเกลือที่หยดผ่านสายลงมาสู่ร่างกายนั้นก็ผ่าวร้อนประหนึ่งยาพิษ ส่วนเลือดและน้ำเหลืองจากแผลบนอกซ้ายที่คุณหมอต่อสายให้ไหลลงไปในถุงโตงเตงข้างเตียงนั้นคือ น้ำตาที่ท้นทะลักออกจากอก
ใครเลยจะคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับฉันในเวลานี้…เวลาที่ต้องนอนรับการรักษา หลังจากตรวจพบว่ามะเร็งเต้านมข้างขวาที่เคยผ่าตัด ให้คีโม และฉายแสงไปเมื่อหลายปีที่แล้ว กลับมาเกิดขึ้นกับเต้านมข้างซ้าย
ฉันอาจไม่ใช่คนสวยเลิศ ดีเยี่ยม สมบูรณ์แบบในสายตาเขา แต่ความทุกข์ยากที่เราเคยกอดคอร่วมกันสร้างฐานะกันมาเกือบสิบปีน่าจะช่วยให้เขาสำเหนียกในสัจจะแห่งชีวิตได้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อความเครียดและการใช้ชีวิตแบบละเลยสุขภาพก่อมะเร็งเต้านมครั้งแรกให้
การที่เขาตัดสินใจเลือกผู้หญิงคนใหม่จึงเท่ากับเขาไม่ยอมรับความไม่แน่นอนของสังขาร ไม่ยอมรับความจีรังยั่งยืนของสัมพันธภาพอันดีงามระหว่างชีวิต
จริงอยู่ ระหว่างการบำบัดด้วยเคมีและรังสีครั้งที่แล้วฉันมีอาการแพ้มาก ชนิดที่เรียกได้ว่าปางตาย ความทุกข์ทรมานกายและใจทำให้ฉันโอดโอย อาจสร้างภาระ ไหนจะหน้าตาและร่างกายหรือก็ทรุดโทรม ผิวพรรณเคยผุดผาดกลับดำคล้ำหน้าอกโตที่เขาเคยภาคภูมิมีเหลือเพียงข้างเดียว
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งพบว่า เบื้องต้นผู้ชายชอบผู้หญิงที่หน้าตาและรูปร่าง โดยเฉพาะอวัยวะที่เน้นความเป็นผู้หญิงอย่างหน้าอกและสะโพก ส่วนกิริยาท่าทาง วาจา และนิสัยนั้นเป็นสิ่งที่ค่อยๆ เรียนรู้ ยอมรับ และปรับกันไป
ไม่นึกว่าการมีอยู่หรือหายไปของอวัยวะนั้นจะก่อผลลัพธ์ต่อผู้ชายบางคนได้มากมายขนาดนี้
ฉันทราบเรื่องนี้เมื่อสองเดือนที่แล้ว หลังคลำพบก้อนใต้หัวนมข้างที่เหลือ เมื่อไปตรวจในอีกสองสัปดาห์ถัดมาพบว่าเป็นก้อนเนื้อผิดปกติที่บรรจุเซลล์มะเร็งไว้ คุณหมอบอกว่าวิทยาการปัจจุบันก้าวหน้าแล้ว จึงเลือกได้ว่าจะตัดออกบางส่วนแทนการจำใจตัดทั้งเต้าเหมือนเมื่อหลายปีก่อนหรือไม่ ฉันพยายามโทรศัพท์หาสามีที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดเพื่อขอความคิดเห็น แต่เขาไม่ยอมรับสายเลย
เมื่อวันผ่าตัดใกล้เข้ามา
สุดท้าย ด้วยความห่วงใย คุณหมอต้องการให้เร่งผ่าตัดโดยด่วน ฉันจึงเดินทางไปจังหวัดหัวเมืองภาคอีสานเพื่อขอคำตอบจากปากเขา
หากสิ่งที่พบคือ ผู้หญิงคนหนึ่งมาใช้ชีวิตร่วมชายคา ร่วมห้องและร่วมเตียงกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีฉัน
วันนั้นฉันพาร่างกลับมากรุงเทพฯได้อย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อสองวันก่อนฉันมาปรากฏตัวหน้าศัลยแพทย์และขอให้เขาตัดออกทั้งเต้า
ฉะนั้น แม้ไม่ได้ยินเสียงสามีจากโทรศัพท์เมื่อครู่ ฉันก็รู้ชะตากรรมตัวเองดี ไม่มีใครอยากเลือกเส้นทางอันแสนโดดเดี่ยว หากต้องยอมรับเมื่อเกิดขึ้นแล้ว
สังเกตความเสี่ยง เพิ่มการป้องกัน
โรคมะเร็งเป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคชีวจิตเชื่อว่าเกิดจากการกินผิด และใช้ชีวิตผิดซึ่งหากเมื่อถามหาปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมว่ามีอะไรบ้างนั้น พลตรีนายแพทย์สุรพงศ์ สุภาภรณ์ หน่วยศัลยกรรมมะเร็ง กองศัลยกรรมโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ให้คำตอบว่า
เพศ
ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ชาย 100 – 200 เท่า เพราะผู้หญิงมีฮอร์โมนเอสโทรเจน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นหรือเปลี่ยนแปลงเซลล์ปกติของเต้านมให้กลายไปเป็นเซลล์มะเร็ง
ผู้หญิงที่ไม่แต่งงาน ไม่มีลูกหรือมีลูกเมื่ออายุเกิน 30 ปีหรือไม่ให้ลูกกินนมแม่จะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากกว่าคนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายจะไม่สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้
วิธีป้องกัน : เมื่อเลี่ยงการเป็นผู้หญิงไม่ได้ เวลามีลูก ควรให้ลูกกินนมตัวเอง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เหตุผลต้องรู้ ก่อนตรวจหายีน มะเร็งเต้านม
ประสบการณ์สุขภาพ : สาวใจสู้ รักษามะเร็งเต้านมให้หายขาด
4 ข้อเท็จจริง “มะเร็งเต้านม” ที่น้อยคนจะรู้
สูตรป้องกันมะเร็งเต้านม ฉบับใช้ได้ตลอดชีวิต