ประสบการณ์ที่ 2 : สติมา ปัญญาเกิด
ความเจริญก้าวหน้าด้านการงานเป็นสิ่งที่ทุกคนถวิลหา ยิ่งใครประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งได้เปรียบ ยิ่งมีหน้ามีตาในสังคม ทว่าชีวิตของ คุณฝน อายุ 24 ปี ได้พิสูจน์แล้วว่า ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“หากมองย้อนไป เรากดดันมาตั้งแต่เรื่องการเรียน เพราะต้องแบกรับความคาดหวังของคนอ่นื มาตลอด คนรอบข้างคาดหวังกับเราเยอะมาก เรียนวิศวะจบแล้วต้องเป็นวิศวกรสิ ทุกคนคิดอย่างนั้น แต่ในที่สุดเราก็ตัดสินใจเข้าทำงานที่บริษัทไอทีชั้นนำแห่งหนึ่ง ไปทำเป็นเอเจนซี่ ตอนนั้นรู้ตัวว่าการทำงานเอเจนซี่ต้องอยู่ท่ามกลางความท้าทายสูง แต่มีข้อดีตรงที่งานจะไม่มีคำว่าน่าเบื่อ เพราะมีความท้าทายตลอดเวลา ทุกวันจะมีปัญหาให้เรียนรู้และแก้ไขตลอด
“ตอนนั้นเข้าไปทำในตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบมาก คือ Account Manager งานต้องเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ก็กดดันตัวเองอีก จนบางทีคิดว่า ทำไมเราทำได้แค่นี้ ทำไมไม่มีคนช่วย ทำเองหมดทุกอย่าง อย่างทำสไลด์ก็ต้องสวย ต้องยอมรับว่าเราขึ้นเร็ว ซึ่งก็ทำให้แรงกดดันจากคนรอบข้างสูงตามไปด้วย”
คุณฝนยอมรับว่าตอนนั้นเธอเข้าขั้นบ้างานมาก ชีวิตมีแต่งาน เกิดมาเพื่องานความกดดันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเหมือนเครื่องยนต์ที่น็อก
“เมื่อเครียดและกดดันจนถึงจุดหนึ่ง อาการเราแย่มาก มีอาการเบลอ หลงๆ ลืมๆ เริ่มทำงานพลาด ก็ยิ่งเครียดใหญ่ ที่น่ากลัวคือ เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นตามผิวหนัง ช่วงนั้นพันมือไปทำงานมือแตก นิ้วแตก เลือดไหล เท้าก็แตก รู้สึกกดดันหนักๆ เข้าก็มีอาการร้องไห้เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ร้องไห้ได้ทุกที่เลย คือเรามองว่าเราไม่มีค่า ทำอะไรก็พลาดไปหมด กลับจากที่ทำงานถึงบ้านก็นอนร้องไห้ งานไม่เสร็จก็ลุกขึ้นมาทำงานจนเสร็จ แล้วก็นอนร้องไห้จนหลับไป”
ในที่สุดคุณฝนก็ตัดสินใจโทร.ปรึกษาเพื่อนถึงปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเธออยู่ในขณะนั้น
“สิ่งที่ดีที่สุดเลยคือโทร.หาเพื่อน การหายจากโรคซึมเศร้าครั้งนี้ จะว่าผ่านมาได้เพราะเพื่อนก็ได้เพราะเพื่อนรับฟังเราทุกอย่าง ให้กำลังใจ ช่วยคิดโดยที่เพื่อนไม่ตัดสินเรา ซึ่งการฟังในลักษณะนี้ช่วย
ให้อาการเราดีขึ้นมากๆ พอได้ระบายทุกอย่าง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
“หลังจากคุยกับเพื่อน ในที่สุดก็ตัดสินใจไปหาหมอ แล้วเราก็ได้สติจากคำพูดของหมอ คือหมอชวนเราคิดตามเพื่อหาสาเหตุให้ได้ หมอให้เราคิดว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากอะไร ถามไปถามมาก็ได้คำตอบว่า ปัญหาเกิดจากความคาดหวังของเราเองจากนั้นหมอก็ลองให้เราคิดตามต่อไปว่า แล้วถ้าสมมติว่ามีมีดอยู่ในมือเราล่ะ เราจะกำไหม เราก็ตอบไปว่า ถ้ากำเราก็เจ็บ หมอจึงบอกว่า ดังนั้นอะไรที่ทำให้เราเจ็บ เราก็ปล่อยสิ่งนั้นไปเสีย”
คุณฝนกลับมาตั้งสติที่บ้านและดำเนินการปลดล็อกตัวเอง
“พอเรามีสติเราจะเห็นอะไรชัดขึ้น ก็ให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า ปัญหาในที่ทำงานที่ทำให้เราเกิดอาการเหล่านี้คือ เรามีทัศนคติและจริตในการทำงานไม่ตรงกับทีมในที่ทำงาน เราจะจมอยู่อย่างนี้ไม่ได้ แต่เราไม่โกรธใคร กลับรู้สึกขอบคุณ แถมยังได้เขียนไดอะรี่ขอบคุณทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นไว้ด้วย
หลังจากนั้นก็ตัดสินใจแจ้งหัวหน้างานว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ขอลาออกเพื่อมาตั้งหลัก”เมื่อเข้าใจตัวเองดีขึ้นก็จัดการกับอาการซึมเศร้าได้ง่ายขึ้นนั่นเอง