วอลนัท กินอย่างไร ?
แนะนำวิธีกิน วอลนัท โดย คุณหมอดวงรัตน์ แพทย์แผนปัจจุบันคนเก่งที่มีความเชี่ยวชาญในพืชสมุนไพร และผักผลไม้มากๆ ท่านหนึ่งของประเทศ มีคำแนะนำดีๆ สำหรับคนที่กังวลเรื่อง ความชราของวัย และความเสื่อมของสมอง …เข้ากับเทรนด์สุขภาพยุคนี้
คุณหมอจะว่าอย่างไรบ้าง… ไปติดตามพร้อมกันค่ะ
หากผู้เขียนเจ็บป่วย จะใช้เวลาในการรักษานานกว่าตอนยังเป็นสาว ๆ อีกทั้งยังเจ็บป่วยง่าย และร่างกายอ่อนล้าหรือเพลียง่ายขึ้น ที่สำคัญเจ็บแล้วมีอาการเรื้อรัง เลยต้องพยายามบริหารร่างกาย เพื่อคงความแข็งแรงยาวนานที่สุด แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม แค่รักษาไม่ให้เสื่อมไปไวกว่านี้เท่านั้นเอง
…สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือ การเสื่อมของสมองค่ะ
ผู้เขียน และเพื่อน ๆ เริ่มมีอาการนึกอะไรไม่ค่อยออก หลงลืมได้ง่าย และแล้ววันหนึ่งหมอใกล้ตัว ก็มาถามว่าถั่วอะไรนะที่ลองกินที่เชียงใหม่แล้วอร่อย ๆ พี่อยากกินอีก คำพูดของหมอเด็กใกล้ตัวที่เปรยออกมา ระหว่างนั่งกินอาหารกลางวันด้วยกัน ตอนแรกผู้เขียนก็นึกชื่อไม่ออก โอ้ อาการความจำเสื่อมมาเยือนอีกแล้วค่ะ แต่พอคุณหมอเด็กบอกว่าที่จะนำมาเขียนในชีวจิตไง ก็เลยนึกออกค่ะ วอลนัทหรือเรียกอีกชื่อว่ามันฮ่อนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ ผู้เขียนได้ลองกินวอลนัทมาก่อนหน้านั้นแล้วค่ะ เป็นของขบเคี้ยวร่วมกับถั่วชนิดต่าง ๆ มีโปรตีน และพลังงานสูง กินนิดเดียวก็อิ่ม แต่ในความเป็นจริงมันหยุดไม่ได้กินเพลินเลยค่ะ ถ้าเพลินก็อ้วนสิคะ ท่านผู้อ่านกินได้ แต่ต้องเบรคเป็นค่ะ ผู้เขียนชอบกินวอลนัทกับถั่วต่าง ๆ และใส่เมล็ดธัญญพืชนานาชนิดผสมไปด้วย เวลานั่งประชุมแล้วหิวก็หยิบเข้าปากนิดหน่อยค่ะ และต้องท่องในใจว่ากินนิดเดียวนะ ไม่งั้นจะอ้วน ถ้ากินมากเย็นนั้นต้องออกกำลังกายหนักเลยค่ะ เพราะความอ้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เดี๋ยวจะไม่ชราอย่างมีคุณภาพค่ะ (ฮา)
สาเหตุที่คนปัจจุบันหันมากินวอลนัทกันมากขึ้น เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ในทุกระบบและช่วยชะลอความเสื่อมของสมองไปด้วยมีคนกล่าวไว้ว่า กินถั่ววอลนัทช่วยเพิ่มความจำ (แต่จริง ๆ คือช่วยชะลอความเสื่อม) นอกจากจะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์แล้วยังช่วยให้ผิวพรรณสวย และผมเป็นเงางาม สรุปว่ายิ่งกินยิ่งแก่ช้านะคะ คริคริ
อีกทั้งมีรายงานวิจัยพบว่าคนที่บริโภคถั่ววอลนัทช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมได้นอกจากนี้ถั่ววอลนัทยังช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลจึงช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือดได้
วิธีกินวอลนัท ให้ได้คุณค่ามากที่สุด คือ
1. กะเทาะเปลือกและเอาเมล็ดมากินทันทีจะได้สารอาหารที่สมบูรณ์
2. เลือกเมล็ดที่แกะมาแล้วและบรรจุในถุงสุญญากาศกินวันละ 4 – 5 เมล็ดก็เพียงพอแล้วค่ะ จะกินวอลนัทอย่างเดียวหรือนำไปใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ค่ะ
ผู้เขียนเคยเห็นผลิตภัณฑ์ วอลนัท ไปผสมกับขิงชงดื่ม ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และชะลอความเสื่อของสมองแบบว่าทูอินวันค่ะ
แต่ท่านผู้อ่านไม่จำเป็น ต้องเลือกแบบชงดื่มนั้นก็ได้ค่ะ แค่กินวอลนัทอย่างเดียวก็ส่งผลดีต่อสุขภาพแล้วค่ะ แต่การหาซื้ออาจยุ่งยากและมีราคาแพง ซึ่งต้องบอกว่าแพงมาก เพราะเราเป็นผู้สูงอายุ รายได้ไม่มีก็ต้องอยู่แบบพอเพียง การดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงตามวัย ขอให้ยึดหลัก กินออกกำลังกาย และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
ที่สำคัญอย่าลืมทำใจสบาย ๆ เท่านี้ก็ถือว่าชราอย่างมีคุณภาพแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ
อ่านเพิ่มเติม
แก้สมองล้า ด้วยถั่ววอลนัทและนมวอลนัท แก้เครียดและบำรุงสมอง
10 อาหารคู่ ข้าวกล้อง รักษา 10 โรคฮิตคนไทย
Top 9 ปลาไทยเทศที่มีโอเมก้า 3 สูงมากๆ