4 แพลตฟอร์ม ดูแลผู้สูงอายุ ใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว
มุมมองคนทั่วไปมักมีภาพจำที่ว่า ผู้สูงอายุมักมีวิถีชีวิตที่ไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าจะเป็นความคิดที่ว่าผู้สูงอายุมักมากับอาการเจ็บป่วย เป็นวัยไม้ใกล้ฝั่งไร้แรงขับเคลื่อนชีวิต ไม่สามารถคิดและตัดสินใจด้วยตัวเองได้ กระทั่งต้องพึงพาคนอื่น เป็นภาระกับลูกหลาน
ปัจจุบันปริมาณผู้สูงอายุทั่วโลกจากการสำรวจของสหประชาชาติ มีประมาณ 962 ล้านคน หรือคิดเป็น 12.7%ของค่าเฉลี่ยทั้งหมด จึงเรียกได้อย่างเต็มปากว่าตอนนี้โลกของเรา รวมถึงประเทศไทยเองนั้นได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว
ขณะที่ประเทศไทยเรานั้นมีผู้สูงอายุถึง 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด และยังมากกว่าประชากรเด็กเสียด้วยซ้ำ ทำให้หลายธุรกิจหันมาตระหนักถึงคนกลุ่มนี้มากขึ้น คนที่ดูแลตัวเองไม่ไหว และต้องการความเอาใจใส่มากกว่าคนทุกวัย ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมามากมายที่จะช่วยคลี่คลายความยากลำบากในการใช้ชีวิต รวมถึงช่วยประคับประคองให้ผุ้สูงอายุมีชีวิตที่สุขสบาย
วันนี้เราจะพาทุกๆ คนไปทำความรู้จักกับ 4 Startup ด้าน Health Tech ชั้นนำของเมืองไทย ที่ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจเพื่อตอบโจทย์คนสูงวัย รวมถึงช่วยดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
1.ReFIT
แพลตฟอร์มสำหรับสายสุขภาพอย่างแท้จริง ที่จะช่วยจับคู่นักกายภาพบำบัดเข้ากับคนไข้ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มที่ถือกำเนิดขึ้นจากเหล่านักกายภาพบำบัดที่ช่วยกันจัดทำขึ้นมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ คนที่มีอาการปวดเมื่อย ทั้งออฟฟิศซินโดรม รวมถึงผู้สูงอายุต่างๆ ที่ต้องการการรักษาอย่างถูกวิธี ต้องการคำแนะนำในการปรับกิจกรรมการใช้ชีวิต
ผู้ที่จะเข้ามาให้คำแนะนำนั้นจะเป็นนักกายภาพจริงๆ ทุกคน ซึ่งนักกายภาพในประเทศไทยนั้นมีมากกว่า 30,000 คน และทยอยเข้ามาในแพลตฟอร์มนี้มากกว่า 1,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในเบื้องต้นนี้ทาง REFIT จะช่วยเข้ามาจับคู่นักกายภาพบำบัดกับผู้ป่วย ให้นักกายภาพเดินทางไปหาถึงบ้านและพูดคุย สอบถามข้อมูล รวมถึงให้คำแนะนำ และทำกายภาพบำบัด ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะดีขึ้นอย่างเห็นผลในทุกๆ วันแน่นอน
2.PharmaSafe
แอปพลิเคชั่นสาย Health Care ที่ไม่ช่วยแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น แต่แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถใช้บริการได้ เป็นสุดยอดแอปพลิเคชั่นที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยในการใช้ยาอัจฉริยะ ซึ่งภายในแอปนี้จะมีข้อมูลยาของผู้ใช้งานทุกอย่าง ทั้งเรื่องของการแจ้งเตือนการทานยา แจ้งเตือนการนัดพบแพทย์ และแจ้งเตือนการแพ้ยา หรือยาที่มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วย
นอกจากนี้ภายในแอปพลิเคชั่นยังรวบรวมข้อมูลยาที่ผู้ใช้งานได้รับมา จึงเหมาะอย่างมากสำหรับสังคมผู้สูงอายุที่ต้องดูแลตัวเองในขณะที่ลูกหลานออกไปทำงานนอกบ้าน
โดยเรายังสามารถตั้งค่าต่างๆ ในสมาร์ทโฟนของผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน ท่านจะได้รับยาครบกำหนดตามที่แพทย์สั่ง
3.ZeekDoc
ปัญหาหนักใจมากที่สุดในการไปหาหมอก็คือ เรามักจะไปหาหมอประจำที่เราคุ้นเคย เพราะไม่รู้ว่ามีหมอที่ไหนอยู่ใกล้ๆ บ้าง ซึ่ง Zeekdoc เข้ามาตอบโจทย์ปัญหานี้ โดยการสร้างเว็บไซต์สำหรับค้นหาหมอใกล้บ้าน และนัดหมายได้ทันที เป็นการค้นหาแพทย์แบบเจาะลึกถึงประวัติ ตลอดจนถึงความเชี่ยวชาญ
เหมาะสมอย่างมากในการมองหาแพทย์ที่จะมารักษาผู้สูงอายุที่บ้าน เพราะมั่นใจได้ว่าแพทย์ทุกคนที่เลือกมา จะสามารถวินิจฉัย ตรวจโรค และรักษาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีบริการให้คำปรึกษา และทำนัดผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้เลยทันที ประหยัดเวลาในการไปโรงพยาบาล ต่อคิว และช่วยให้ผู้สูงอายุไม่ต้องเหนื่อยไปนั่งรอเป็นเวลานาน ทำให้การหาหมอกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
4.Chiiwii Live
บ้านไหนที่มีผู้สูงอายุติดเตียง ไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้ การเลือกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ให้คำปรึกษาแบบวิดีโอคอลของ Chiiwii Live ดูจะตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว เพราะเป็นการให้คำปรึกษาจากคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ผ่านวิดีโอคอล การโทรและการแชทภายในแอปพลิเคชั่นทันที
เราสามารถเลือกวันเวลาในการนัดโทรพูดคุยได้เลยทันที สามารถปรับใช้ได้กับทั้งผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาเฉพาะในเรื่องต่างๆ ที่ไม่กล้าไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลโดยตรง รวมทั้งยังเอื้อประโยชน์สำหรับคนที่ไม่ต้องการไปเสียเวลานั่งรอนานๆ ที่โรงพยาลอีกด้วย
Startup ทั้ง 4 รายนี้นับเป็นหนึ่งในสัญญาณอย่างดีที่กำลังบอกว่า คนไทยไม่ทอดทิ้งผู้สูงอายุ และเป็นการจุดประกายให้มี Startup สาย Health Care อีกมากมายถือกำเนิดขึ้นมาเติมเต็มในจุดที่ยังคงขาดอยู่
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยซึ่งกำลังเตรียมรับการเข้าสู้สังคมผู้สูงอายุนั้น จะต้องมีการเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของงเทคโนโลยีมาปรับใช้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นการให้บริการดูแลผู้สูงอายุผ่านแอปพลิเคชัน อำนวยความสะดวกในการส่งผู้ดูแลอยู่เป็นเพื่อน ซื้อของ เป็นต้น
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
