COVID-19 เช็กอาการด้วยตัวเอง นี่เราติดหรือยังนะ? – ชีวจิต

เช็กอาการด้วยตัวเอง  นี่เราติดโควิด ( COVID-19 ) หรือยังนะ…

ชวน เช็กอาการด้วยตัวเอง รับมือ  Covid-19 ไวรัสตัวร้ายที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น  หลายคนถามตัวเองอยู่เสมอเมื่อมีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว  ไอบ้าง จามบ้าง ประสาทจะเสีย กลัวถูก COVID-19 เล่นงาน นี่เราติดโควิดแล้วหรือยัง …. แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร วันนี้เราเอาวิธีการสังเกตอาการตัวเองมาฝากกันค่ะ

Covid-19  คืออะไร

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลไว้ว่า ไวรัสโคโรนา (Coronavirus)  เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า  “โควิด-19” (COVID-19)

อาการที่พบบ่อย

  1. มีไข้ มีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  2. มีอาการทางเดินหายใจข้อใดข้อหนึ่ง อาจจะมีเพียงอาการเดียว หรือมากกว่านั้น ได้แก่  เจ็บคอ ไอ  มีน้ำมูก  หายใจเร็ว  หอบเหนื่อย มีอาการปอดอักเสบ
  3. ร่างกายอ่อนเพลีย
  4. ปวดเหมื่อยกล้ามเนื้อ

อาการอื่น ๆ ที่พบ

ปวดหัว

ท้องเสีย

คลื่นไส้ อาเจียน

สูญเสียการได้กลิ่นและรับรสชั่วคราว

ตาแดง

มีผื่นขึ้น

บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

  • เด็กเล็ก (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)
  • ผู้สูงอายุ
  • คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคปอดเรื้อรัง
  • คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือกินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่
  • คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนที่อ้วนมาก)
  • ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง  มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ
  • ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
  • ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น

หากมีอาการหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องทำยังไง?

ต้องรีบเข้ารับการตรวจสอบโรคอย่างละเอียด ให้ข้อมูลที่แน่ชัดโดยไม่บิดเบือน

หากไปในพื้นที่เสี่ยงมา ให้ทำการกักตัวเป็นเวลาอย่างต่ำ 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ

วิธีการป้องกัน Covid-19

  1. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
  2. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
  3. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ( อ่านเพิ่มเติม วิธีการเลือกซื้อหน้ากากอนามัย )
  4. ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT,  กลอนประตูต่าง ๆ  ราวบันไดเลื่อน ฯลฯ
  5. ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
  6. พยายามอย่าเอามือสัมผัสหน้า  งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
  7. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
  8. รับประทานอาหารสุก สะอาด ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
  9. สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา

ถ้ารู้ถึงอาการที่พบแล้ว หากมีอาการใดอาการหนึ่งให้รีบเช็คตัวเอง หรือกักตัว พยายามไม่ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือบุคคลกลุ่มเสี่ยง สวมแมสทุกครั้งที่อยู่ข้างนอก หมั่นล้างมือเป็นประจำนะคะ  เราจะผ่านโควิดไปด้วยกันค่ะ

……………………………………………………………………………….

ที่มา : http://www.tosh.or.th/covid-19/index.php/covid-19-3

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ลลิตา ศรีหาบุญมา

———————————

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เรื่องหัวใจ ดูแลให้ดีช่วงโควิด 19

เสริมภูมิ ให้ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19…ด้วยพืช ผัก ผลไม้และเครื่องเทศ

Virtual COVID-19 Clinic ปรึกษาแพทย์ออนไลน์โรคโควิด-19

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.