ตำรับยาอายุวัฒนะ

2 ตำรับยาอายุวัฒนะ กับคำถามช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้จริงหรือ ?

ตำรับยาอายุวัฒนะ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้จริงหรือ ?

ในตำราแพทย์แผนโบราณของไทยมี ตำรับยาอายุวัฒนะ อยู่มากมายหลายตำรับ ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีสรรพคุณที่ดี ช่วยให้เกิดสมดุลของธาตุในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพ
ของร่างกายในด้านต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย

โดยตำรับยามักมีองค์ประกอบของตัวยา ที่ช่วยให้เกิดความอยากอาหาร บำรุงร่างกาย การขับถ่ายของเสีย การนอนให้เป็นปกติเป็นหลัก บางตำรับอาจมีตัวยาแก้ปวดเมื่อย บำรุง
กำลัง หรือแม้แต่เสริมสมรรถภาพทางเพศก็มี ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ที่จะใช้ยา

ตัวอย่างตัวยาสมุนไพร ที่มักพบในตำรับยาอายุวัฒนะ เช่น เปลือกต้นทิ้งถ่อน เปลือกต้นตะโกนา แห้วหมู บอระเพ็ด เมล็ดข่อย พริกไทย ขิง ดีปลี กระเทียม กระชาย สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม เถาวัลย์เปรียง มะตูม เป็นต้น

ในปัจจุบัน มีนักวิจัยหลายท่านทำการศึกษาตำรับยาดังกล่าวข้างต้น และพบว่าสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ให้ทำงานปกติ เพราะเมื่อเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ทำงานดี โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดี ก็จะไม่เกิดความเจ็บป่วย หรือแม้แต่เจ็บป่วยก็สามารถฟื้นสภาพได้เร็ว บางคนดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม มีร่างกายแข็งแรง สมองแจ่มใส นอนหลับได้ดี ระบบการย่อยการขับถ่ายเป็นปกติ อารมณ์แจ่มใส

นักวิจัยที่ทำการศึกษาวิจัยพบว่า เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันลดลง และความชราก็มาเยือนง่ายขึ้น ในบางรายอายุยังไม่มาก แต่ก็มีความเสื่อมเกิดขึ้น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย ร่างกายอ่อนเพลียไม่ค่อยมีกำลังบางราย เกิดการพร่องของฮอร์โมนหรือฮอร์โมนแปรปรวน

มีการศึกษาในระดับยีนพบว่า “เทโลเมียร์” (Telomere) ซึ่งเป็นส่วนปลายของโครโมโซมมีผลต่อความเสื่อมของร่างกายและเซลล์ ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานได้น้อยลงหรือประสิทธิภาพลดลง เหตุจากเทโลเมียร์ที่อยู่ส่วนปลายของโครโมโซมหดสั้นลง ระบบภูมิคุ้มกันเกิดการเปลี่ยนแปลงทีเซลล์ทำงานลดลง จำนวนเม็ดเลือดขาวชนิด Macrophage ที่ทำหน้าที่จับกินเชื้อโรคทำงานน้อยลง ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงและติดเชื้อได้ง่าย

ทางการแพทย์แผนไทยมองว่าบุคคลที่เข้าสู่ปัจฉิมวัยนั้นธาตุต่าง ๆ จะเสื่อมถอยลงได้ง่าย โดยสังเกตจากอาการที่ค่อย ๆ ปรากฏทีละน้อย เช่น การขับถ่ายไม่ดีหรือขับถ่ายยากขึ้น แขนขาไม่ค่อยมีกำลังเหมือนเดิม ปวดเมื่อยเป็นประจำ การย่อยไม่ค่อยดีเหมือนเดิม ในบางรายถ้าไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็จะมีร่างกายผ่ายผอมไม่แข็งแรง และมักเจ็บป่วยบ่อย บางคนเป็นหวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย

ดังนั้นในทางการแพทย์แผนไทย จึงมักให้เสริมความแข็งแรงของร่างกายและปรับสมดุลร่างกายโดยการให้อาหารปรับธาตุบำรุงร่างกาย และให้กินยาอายุวัฒนะเพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยวิธีธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับสมดุลจนอยู่ในภาวะปกติ โดยสามารถสังเกตอาการได้ เช่น เคยรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรงทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำงานหนัก แต่หลังจากรับประทานยาอายุวัฒนะ แล้วอาการอ่อนเพลียง่ายหายไป รู้สึกสดชื่น แข็งแรง จากที่เคยเป็นหวัดอยู่บ่อย ๆ ก็ป่วยน้อยลง หรือเคยแขนขาเย็นหรือไม่มีกำลัง ก็กลับมาอุ่นสบายและมีแรงมีกำลังมากขึ้น

อาจสันนิษฐานได้ว่า การปรับสมดุลของร่างกายไม่ว่าจากอาหารหรือจากยาอายุวัฒนะ
ส่งผลต่อการชะลอความเสื่อมของเทโลเมียร์ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
ภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

2 ตำรับยาอายุวัฒนะช่วยสุขภาพเลิศ

ระบบภูมิคุ้มกันทางแพทย์แผนไทย จะอยู่ในระบบเลือดและน้ำเหลือง ถ้าเลือดและน้ำเหลืองไม่ดีก็เจ็บป่วยติดเชื้อง่าย หรือเป็นแผลหายยาก เป็นหวัดเป็นไข้บ่อย ถ้าใครต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงควรปฏิบัติตัวตามหลักปฺฏิบัติที่ได้กล่าวข้างต้น หรืออาจหายาอายุวัฒนะมารับประทาน ในครั้งนี้จะขอยกสูตรตำรับยาที่ใช้กันทั่วไปมาให้ได้ลองทำและนำไปใช้ในการช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสร้างภูมิคุ้มกันแบบแพทย์แผนไทย

สูตรตำรับยาอายุวัฒนะ 1

ส่วนประกอบ บอระเพ็ด เมล็ดข่อย เปลือกต้นทิ้งถ่อน เปลือกต้นตะโกนา แห้วหมู มะตูม สมอไทย สมอพเิเภก มะขามป้อม ขิง ดีปลี พริกไทย สิ่งละเสมอภาค บดผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเม็ดเท่าเม็ดถั่วเขียว
วิธีรับประทาน ครั้งละ 5 เม็ด ก่อนนอน วันละครั้ง

สูตรตำรับยาอายุวัฒนะ 2

ส่วนประกอบ กระเทียม พริกไทย ขิง ดีปลี เถาวัลย์เปรียง กระชาย แห้วหมู บอระเพ็ด มะตูม สิ่งละสองบาท สมอไทย สมอพิเภก สมอดีงู มะขามป้อม สิ่งละหนึ่งบาท บดผงผสมน้ำผึ้งปั้นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว
วิธีรับประทาน ครั้งละ 3 – 5 เม็ด ก่อนนอน วันละครั้ง

ยาอายุวัฒนะทั้งสองตำรับ มีสรรพคุณบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย บำรุงร่างกายบำรุงธาตุ ช่วยให้ขับถ่ายปกติ แก้ปวดเมื่อย

เมื่อร่างกายแข็งแรงเป็นปกติอยู่ในภาวะสมดุล ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายก็จะทำงานเป็นปกติและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดเลือดขาวที่เป็นเสมือนทหารป้องกันก็มีความแข็งแรงต่อสู้กับเชื้อโรคได้

ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า แพทย์แผนไทยมองแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันไปถึงความสัมพันธ์ของระบบต่าง ๆ ในร่างกายที่ต้องทำงานประสานสอดรับกัน และอยู่ในภาวะสมดุลธาตุ โดยมีปัจจัย 5 ข้อดังกล่าวข้างต้นเป็นส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ดี

เรื่อง พทป.วันทนี เจตนธรรมจักร ภาพ iStock เขียนลงเว็บ เนื้อทอง ทรงสละบุญ

ชีวจิต 527 – 22 สมุนไพรไทย ยาอายุวัฒนะใกล้ตัว

นิตยาสารรายปักษ์ ปีที่ 22 : 16 กันยายน 2563
บทความน่าสนใจอื่นๆ

HOW TO เลือกซื้อแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และ วิธีทิ้งหน้ากากอนามัย ในช่วงโควิด

ห้องน้ำสาธารณะ ใช้อย่างไร ให้ปลอดภัย ลดเสี่ยงโควิด19

เช็ก! โรคหอบหืด หรือ โควิด -19 กันแน่

Happy Hypoxia อาการแปลก ในผู้ป่วยโควิด 19 เหนื่อยปุ๊บ เสียชีวิตฉับพลัน

การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยวิธีนอนคว่ำ ?

เหลือเชื่อ! พบแม่ติดโควิดคลอดลูกมีภูมิต้าน

สิทธิโชค ศรีโช วิหคคืนรังอีสาน กับสวนครัว เกษตรอินทรีย์ อิ่มท้อง อิ่มใจ สู้ภัย โควิด

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.