โรคหอบหืด หรือ โควิด -19 มาเช็กอาการด่วน!
โรคหอบหืด มีอาการคล้ายคลึงกับอาการของโรคระบาดที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ก็คือ โควิด-19 หลายคนสงสัยว่าตัวเองเป็นหอบหืดหรือติดโควิดไปแล้วกันแน่ วันนี้เราก็จะพาทุกท่านมาเช็กอาการให้แน่ชัดกันค่ะว่า เป็น หอบหืด หรือโควิดกันแน่
นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย ศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล ให้ข้อมูลไว้ว่า อัตราการเสียชีวิตในไทยปีละ 7,000คน ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก เพราะว่าโรคนี้สามารถรักษาได้ หายได้ ถ้ารักษาเร็วมีโอกาสหายได้สูง โดยอัตราการเสียชีวิตในผู้ใหญ่จะมากกว่าเด็กประมาณ 5 เท่า และกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญคือคนไข้ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากการพ่นยาทำได้ยากกว่า อาการรุนแรงกว่า และหลายคนชินกับอาการหอบโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคหืดอีกด้วย
ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 ตอนนี้ ทำให้หลายคนอาจสงสัยถึงอาการที่คล้ายคลึงกันของโรคหอบหืดและโควิด เพียงแต่ผู้ที่ป่วยหอบหืด ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง เพราะในกรณีโรคหอบหืดนั้นมักจะมีอาการไอในตอนกลางคืน มีน้ำมูกบ้างแต่ไม่มีไข้ ต่างจากโควิด -19 จะมีไข้สูง เพราะหากมีอาการหอบหืดแล้วให้ตรวจสอบโดยให้ผู้ป่วยพ่นยาฉุกเฉิน เพื่อรักษาอาการ แต่หากไม่หายจากอาการข้างต้น คุณหมอมีคำแนะนำว่าให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด -19
เรามาเช็กอาการของ โรคหอบหืด กับโควิด -19 กันดีกว่าค่ะ
โรคหอบหืด
- ไอ
- มีเสมหะ
- แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ
- หายใจไม่อิ่ม หายใจมีเสียงหวีด
ส่วนใหญ่จะเป็น ๆ หาย ๆ ในตอนกลางคืนและตอนเช้ามืด หรือหลังการสัมผัสสิ่งที่กระตุ้น
โควิด -19
อย่างที่เราทราบกันนะคะ ว่าอาการหลัก ๆ ก็คือ
- มีไข้สูง
- ไอแห้ง เจ็บคอ
- อ่อเพลีย
- ปวดเมื่อยตามตัว
- ท้องเสีย
- ปวดศีรษะ
- หายใจลำบากหรือแน่นหน้าอก
- สูญเสียการรับรสและกลิ่น
ปัจจุบันทางสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย ได้ออกข้อแนะนำการปฏิบัติ 5 ประการในสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 อ้างอิงตามองค์การหืดโลก ดังนี้
1.ห้ามหยุดยา-ลดยา และต้องพ่นยาอย่างสม่ำเสมอ เพราะเสียงหอบกำเริบ (ลดการมาโรงพยาบาลให้น้อยที่สุด)
2.หลีกเลี่ยงยาพ่นประเภทฝอยละออง หรือ Nebulization เนื่องจากมีโอกาสที่ผู้ป่วยโรคหืดที่ติดเชื้อโควิด-19 จะแพร่กระจายเชื้อได้ และแนะนำให้ใช้ยาพ่น MDI with spacers (อุปกรณ์พ่น) ทำให้ได้ริเริ่มโครงการ “หยุดหอบ ป้องกัน Covid-19 ด้วย Thai Kit Spacer” โดยแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ 500 ถึง 600 แห่ง และยังร่วมมือกับสถาบันพลาสติกฯ ทำนวัตกรรม Spacers พ่นยาขณะใส่เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยวิกฤติที่ต้องพ่นยารักษาโรคหืดควบคู่ด้วย หรือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถทำ DIY Spacers ใช้เองด้วยงบประมาณ 30-40 บาท ดูได้ทางเพจ Asthma Talks by Dr.Ann
3.คนไข้ต้องเข้าใจและมีแผนปฎิบัติการดูแลในยามฉุกเฉิน (Asthma Action Plan) เพื่อรู้วิธีการปฏิบัติตัวและสังเกตอาการ โดยปกติสูตรการพ่นยาฉุกเฉิน ทุก 15 นาที x 3 ครั้ง ถ้าดีขึ้นพ่นห่าง 6 – 8 ชั่วโมงจนดีขึ้นไป 2-3 วัน ซึ่งคนไข้หลายคนจำผิด หรือจำไม่ได้ว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร ต้องมีการใช้ Asthma Action Plan (ใน Application : Asthma Care) ดูแลและสังเกตอาการที่บ้าน ลดความเสี่ยงมาโรงพยาบาล คนไข้โรคหืดมาแพทย์ก็ต่อเมื่อมีอาการหอบทุกๆวัน ซึ่งหมายถึงการรักษาตัวเองไม่ดีนั่นเอง
4.หลีกเลี่ยงการทำหัตถการเป่าปอด ลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ ถึงแม้ว่าจะพบคนไข้โรคเกิดที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้มีจำนวนมากก็ตาม
5.การดูแลคนไข้ผ่าน Telemedicine โรคหืดสามารถที่จะตรวจดูอาการและรักษาผ่านทางไกลได้ โดยส่งยาไปที่บ้านหรือรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน
จะเห็นได้ว่า โรคหอบหืด และ โควิด -19 จะมีอาการที่ค่อนข้างคล้ายกัน ดังนั้นแล้ว เราจึงอยากให้ทุกท่านคอยตรวจเช็กดูอาการเบื้องต้น หากมีอาการดังที่กล่าวมา ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนัลสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
…………………………………………………………………………………………..
เรียบเรียงข้อมูลโดย : นางสาวลลิตา ศรีหาบุญมา
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีอย่างง่าย ดูแล+ป้องกัน โรคระบบทางเดินหายใจ (หวัด ภูมิแพ้ หอบหืด)