HOW TO CHECK คุณแพ้ยา “เพนนิซิลลิน” จริงไหม?
กราบเรียนคุณหมอสันต์ หนูอายุ 28 เป็นโรคไฟลามทุ่ง หมอต้องนัดไปฉีดยาที่โรงพยาบาลทุกวัน หมอบอกว่า ที่ต้องมาฉีดยาทุกวัน เพราะหนูแพ้ “เพนนิซิลลิน” จึงใช้ยากินไม่ได้ ต้องใช้ยาฉีดแทน ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยหนูได้ยาเพนนิซิลลินแล้วเกิดแพ้ เวียนหัว ตาลาย อาเจียน ตั้งแต่นั้นมาจึงบอกหนูทุกครั้งว่า แพ้เพนนิซิลลิน แต่ถ้าต้องมาฉีดยาอื่นแทนที่จะรักษาด้วยยากินได้อย่างนี้ หนูควรจะลองไช้ยาเพนนิซิลลินใหม่ได้ไหมคะ จะมีอันตรายถึงตายหรือปล่า ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ
A : เป็นธรรมดาครับ เมื่อผู้ปวยคนไหนถูกติดป้ายแพ้เพนนิซิลลินแล้ว ทั้งหมอ ทั้งคนไข้ก็จะเกิดอาการอึขึ้นสมอง คือ กลัวยาเพนนิซิลลินมาก มาดูหลักฐานวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้กันหน่อยดีไหม เรากลัวอะไร หรือเราแค่กลัวผีที่ไม่มีอยู่จริง
เอาในกรณีของคุณก่อนนะ ผมวินิจฉัยทางอากาศตามข้อมูลที่คุณให้มาได้เลยว่า คุณไม่ได้แพ้ยาเพนนิซิลลินดอก เพราะ อาการที่คุณเล่ามา หลังการได้ยาเพนนิซิลลินที่ว่า เวียนหัว คลื่นไสั อาเจียนนั้น เป็นอการผลข้างเคียง (Side Effect) ของยา ไม่ใช่
ปฏิกิริยาการแพ้ (Allergic Reaction) อาการที่คุณเล่ามานั้นเป็นอาการของระบบทางเดินอาหาร ไม่ใช่อาการของระบบภูมิคุ้มกัน
ในกรณีผู้ป่วยอื่น ๆ ที่ถูกติดป้ายแพ้เพนนิซิลลิน งานวิจัยพบว่า หากตั้งใจซักประวัติเป็นขั้นตอนจริงจังก็จะพบว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้แพ้เพนนิชิลลินดอก ปลดป้ายแพ้ยาออกได้เลย การชักประวัติ เป็นขั้นตอนจริงจังนี้ หากพยาบาลที่โรงพยาบาลไม่มีเวลาชักจริงจัง คุณชักตัวเองก็ได้ ดังนี้
- ตอนแพ้อายุเท่าไร (ถ้าแพ้ตอนอายุน้อยหรือนานมาแล้วก็มีแนวโน้มจะเชื่อไม่ได้)
- แพ้ยาอะไร ชื่อจริงชื่ออะไร ชื่อการค้าชื่ออะไร ยากินหรือยาฉีด (พราะยาบางตัว เอ่ยชื่อมาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เพนนิชิลลิน ยาบางตัว เช่น เบต้าแลคแตม ไม่ได้ชื่อเพนนิซิลลิน แต่เป็นเพนนิชิลลิน)
- ได้ยานานแล้งกี่ชั่วโมงกี่วันจึงมีอาการแพั (ตรงนี้เพื่อแยกเป็นแพ้แบบเฉียบพลันหรือไม่เฉียบพลัน)
- อาการที่แพ้เป็นอย่างไร หอบไหมหายใจเสียงวี้ดไหม ปากบวมเจ่อ หรือหน้าและคอบวมไหม มีผื่นผิวหนังหรือเปล่า เป็นแบบลมพิษ หรือแบบหนังไหม้แล้วหลุดลอก มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหรือเปล่า (ตรงนี้เพื่อแยกว่าอาการเป็นการแพ้จริง หรือเป็นผลข้างเคียงของยา ถ้าคลื่นไส้อาเจียนก็เป็นผลข้างเคียงยา)
- หลังแพ้เพนนิซิลลินแล้วเคยได้ยาเบต้าแลคแตม (Betalactam) หรือเปล่า เคยได้ยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin) หรือเปล่า (เพราะหากแพ้เพนนิชิลลินก็มักแพ้สองกลุ่มนี้ด้วย ถ้าไม่แพ้สองกลุ่มนี้ ก็มีแนวโน้มว่าอาจไม่ได้แพ้เพนนิซิลลินจริง)
ถ้าซักประวัติได้ว่าแพ้เพนนิชิลลินจริง ขั้นต่อมาก็มาแยกแยะว่า แพ้แบบเยบพลัน (ช็อก) หรือแบบรุนแรง (ผื่นหนังไหม้และลอก) หรือแพ้แบบเบาะ ๆ หากแพ้แบบเบาะ ๆ ผมแนะนำให้ทดลองกินยาเพนนิชิลลินดูใหม่ เพราะงานวิจัยพบว่าคนที่เคยแพ้เพนนิชิลลินจริง ๆ จะจะแน่นอนแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นหายแพ้ไปเอง กล่าวคือ งานวิจัยติดตามดูคนแพ้เพนนิชิลลินไปห้าปีแล้วลองให้กินยาใหม่ พบว่า ครึ่งหนึ่งหายแพ้ไปแล้ว และเมื่อติดตามดูไปสิบปี แล้วลองให้กินยาเพนนิซิลลินใหม่ ก็พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ หายแพ้ไปแล้ว
ฉะนั้น การแพ้ยา เช่น แพ้เพนนิซิลลินนี้ มันไม่ใช่อะไรที่ถาวร มันหายแพ้ได้ คนที่ไม่รู้ความจริงตรงนี้ ก็จะกลัวยาเพนนิชิลลินชนิดอึขึ้นสมองไปตลอดชีวิต ถึงแม้ว่าหากชักประวัติได้ว่าแพ้แบบเฉียบพลันหรือรุนแรง ผมก็ยังยืนยันแนะนำให้ทำการตรวจภูมิแพ้ ด้วยวิธีฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง(Penicillin Allergy Skin Testing : PAST) ในโรงพยาบาล เพราะงานวิจัยพบว่า ใน 100 คน ที่มีประวัติว่าแพ้เพนนิซิลลินที่เข้าทำการตรวจ PAST นั้น 98 คน ได้ผลตรวจว่าไม่ได้แพ้ยาเลย มีที่แพ้จริง ๆ แค่ 2 คน หรือ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนอีก 98 เปอร์เซ็นต์ปลดป้ายแพ้เพนนิชิลลินทิ้งได้เลย
สรุปว่า ผมเดาเอาว่า คุณไม่ได้แพ้เพนนิชิลลิน ให้คุณไปให้ประวัติหมอใหม่ว่า ตอนนั้นคุณกินเพนนิซิลลินแล้วคลื่นไส้อาเจียน ขอให้เอาประวัติแพ้เพนนิชิลลินของคุณออกเสีย ถ้าหมอเขากลัวก็ขอทำทดสอบ PAST
ถ้าหมอก็ไม่กลัว คุณก็ไม่กลัว ก็กลับไปกินยาเพนนิซิลลินใหม่ได้เมื่อใดก็ตามที่มีข้อบ่งชี้ว่าต้องกิน
เรื่อง นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ ภาพจาก Pixabay
ชีวจิต 527 – 22 สมุนไพรไทย ยาอายุวัฒนะใกล้ตัว
นิตยาสารรายปักษ์ ปีที่ 22 : 16 กันยายน 2563
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
บทความน่าสนใจอื่นๆ
เจาะลึกการดูแลผิว บำรุงข้อ ด้วยการ ใช้คอลลาเจน
เพิ่มคอลลาเจนให้ผิวด้วยครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมช่วยชะลอการเกิด ริ้วรอย
กินคอลลาเจน ได้ง่ายๆ หน้าเด้ง อ่อนกว่าวัย ด้วยอาหารผิวจากธรรมชาติ