เป็นมะเร็ง

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าตัวเอง ” เป็นมะเร็ง “

เป็นมะเร็ง รู้แล้วทำอย่างไรต่อ

ปัจจุบันสถิติผู้ป่วยมะเร็งทียังมีปริมาณเพิ่มขึ้นสูงขึ้นในทุกๆ ปี ในแต่ละวัน และ “มะเร็ง”  ยังคงเป็น 1 ใน 10 อันดับโรคร้ายที่เป็นภัยคร่าชีวิตคนไทยและผู้คนทั่วโลก โดยมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่ผู้คนทั่วโลกหวาดกลัว ด้วยอัตราการเสียชีวิตสูง และถือเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก

สำหรับคนไทยแล้ว มีความเชื่อว่าการ เป็นมะเร็ง ถือเป็น “โชคร้าย” และเป็นสัญญาณนับถอยหลังเวลาชีวิต เมื่อพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง หลายคนเกิดอาการช็อคทำอะไรไม่ถูก ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่พลาดโอกาสที่ดีที่สุดจากความสิ้นหวัง หมดกำลังใจ ไม่รู้จะเริ่มดูแลตนเองอย่างไรต่อไป จนบางครั้งเครียดจนปล่อยร่างกายโทรม เสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ในความเป็นจริงแล้วปัจจุบันมีวิวัฒนาการด้านการรักษาที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อตรวจพบเร็ว และรีบตั้งหลักวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายเป็นปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดระยะเวลารักษา

รับมือมะเร็งอย่างไร

ปัจจุบันวงการแพทย์พยายามแสวงหาหนทางในการปฏิบัติตัว และการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการพัฒนาเจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก ผสมผสานกับแนวทางการรักษาแผนทางเลือกทั้งแผนไทย แผนจีนแผนสมุนไพร ควบคู่ไปกับหัวใจสำคัญของการรักษา คือ “กำลังใจและความร่วมมือดีที่ของผู้ป่วย” รวมทั้งของญาติผู้ดูแล

นายแพทย์ธนุตม์ ก้วยเจริญพานิชก์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แนะแนวทางการตั้งรับสำหรับผู้ที่พบตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ดังนี้

เป็นมะเร็ง
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งแล้ว กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ต่อสู้กับโรคร้ายนี้ได้

1. “ตั้งสติ”และยอมรับความจริง การมีสติจะช่วยให้ผู้ป่วยมองทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา และรู้ว่าตนเองจะต้องทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้หายจากมะเร็ง แน่นอนว่าผู้ป่วยมักมีคำถามมากมายเกี่ยวกับโรคนี้ ดังนั้นผู้ป่วยควรปรึกษาคุณหมอเมื่อสงสัย ไม่คิดไปเอง ไม่วิตกเกินกว่าเหตุ ควรสอบถามและปรึกษาคุณหมอทุกอย่างเพื่อจะได้มีความรู้และความเข้าใจในการดูแลตนเอง ให้สามารถปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง และรักษามะเร็งให้หายขาด

2. “รู้จักชนิดมะเร็งที่เป็น”ต้องรู้ว่าเป็นมะเร็งชนิดอะไร อยู่ในระยะไหน มีการแพร่กระจายไปที่ไหนหรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ป่วยหาข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างถูกต้อง เช่น ข้อมูลอาหารสุขภาพของผู้ที่เป็นมะเร็ง อาการที่ต้องระวัง พฤติกรรมที่ต้องลด ละ เลิก เป็นต้น เมื่อผู้ป่วยรู้จักมะเร็งที่เป็น ก็จะทำให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี เพิ่มโอกาสให้หายขาดจากมะเร็งมากยิ่งขึ้น

3. “เตรียมความพร้อม”ทั้งกำลังกาย กำลังใจ ของผู้ป่วยและคนในครอบครัว โดยเรื่องแรกที่ผู้ป่วยต้องเตรียมพร้อมคือเรื่องของอารมณ์ เพราะการเป็นมะเร็งไม่ใช่เรื่องดี ไม่มีใครอยากเป็นมะเร็ง ผู้ป่วยอาจจะมีอาการตกใจ เสียใจ กังวล สับสน ว่าทำไมต้องเป็นเราที่เจอเรื่องนี้ แต่มันคือความเป็นจริงที่ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากผู้ป่วยและญาติยอมรับความจริง แล้วเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อก้าวไปสู่การรักษา คู่กับการมีครอบครัวที่พร้อมสนับสนุนและดูแล จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถวางแผนตัดสินใจเข้ารับการรักษาต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ

นอกจากการเตรียมความพร้อมในขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ครอบครัวสามารถช่วยผู้ป่วยได้คือการให้กำลังใจ เพราะกำลังใจจากคนที่เรารักนั้นเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ปลอบประโลมจิตใจ ว่าไม่ได้เผชิญเรื่องนี้เพียงลำพังตัว หากแต่ยังมีครอบครัว เพื่อน รวมทั้งคนใกล้ชิด ที่จะอยู่เคียงข้าง คอยจับมือฝ่าฟันช่วงเวลาเหล่านี้ไปด้วยกัน นอกจากกำลังใจจากคนรอบข้างแล้ว กำลังใจของผู้ป่วยเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะกำลังใจจากคนรอบข้างคงไม่มีความหมาย ถ้าใจของเจ้าตัวไม่สู้ตั้งแต่แรก ดังนั้นขอให้ผู้ป่วยอย่าท้อหรือสิ้นหวัง และเข้มแข็งเข้าไว้ เพื่อที่จะฝ่าฟันเรื่องนี้ไปให้ได้

4. “เลือกสถานที่การรักษา” ที่มีความพร้อม และอยู่ใกล้บ้าน สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะสิ่งที่สำคัญของการรักษาคือ การรักษาอย่างต่อเนื่องระยะยาว ดังนั้นการที่เลือกสถานที่รักษาที่เดินทางได้สะดวกก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยไม่เหนื่อยกับการรักษา ไม่เหนื่อยกับการเดินทางไปกลับที่ใช้เวลานาน การเลือกสถานที่รักษาที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับมะเร็งชนิดที่ผู้ป่วยเป็นเป็นพิเศษ ก็จะยิ่งเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย และเพิ่มโอกาสที่จะรักษามะเร็งได้หายขาดมากขึ้น การเริ่มปฏิบัติตนตามข้อเสนอแนะเบื้องต้น ถือเป็นการเพิ่มความเข้าใจของผู้ป่วยที่มีต่อโรคมะเร็ง ทำให้มีการรับมือที่ดี เตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย และกำลังใจที่ดี พร้อมเข้ารับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่โอกาสที่จะหายเป็นปกติ สิ่งสำคัญควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอทุกปี

เป็นมะเร็ง ต้องรู้ ก่อนใช้แพทย์ทางเลือก

หลายครั้งที่ผู้ป่วยมะเร็ง เมื่อรับรู้ว่าแล้วตัวเองมีเนื้อร้ายนี้อยู่ หลายครั้งนอกจาการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว อาจจะมีสนใจแพทย์ทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้โรคลุกลามได้ วันนี้แอดจึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจแพทย์ทางเลือก โดย นายแพทย์แอนดรูว์  ไวล์  ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น พ่อมดด้านการแพทย์ทางเลือกชาวอเมริกัน (ผู้ก่อตั้งศูนย์การแพทย์ผสมผสานแอริโซนา แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นนักเขียนด้านการแพทย์ผสมผสานที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หนังสือที่นำมาแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ได้แก่ กินดีอยู่ดี,  พลังบำบัด)

เป็นมะเร็ง
การรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างมากนะคะ

เขาได้แนะนำแนวคิดในการเข้ารับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกไว้ในหนังสือ พลังบำบัด  สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้ป่วยทุกท่าน สามารถนำไปปรับใช้ประกอบการตัดสินใจเข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดี เราจึงสรุปข้อมูลมาฝากกันดังนี้

  1. ให้พิจารณาวิธีการรักษาด้วยสถิติการหาย ให้ขอข้อมูลที่มีการเผยแพร่เพื่อสนับสนุนการแพทย์สาขาที่คุณสนใจ ซึ่งอาจมีอยู่ไม่มากนักหรืออาจไม่มีเลย คุณจะลองไต่ถามดูจากนักบำบัดสาขาอื่นๆ ก็ได้
  2. หาคำตอบให้ได้ ว่าวิธีการบำบัดสาขาที่คุณสนใจนั้น มีความเสี่ยงที่จะก่อสารพิษแก่ร่างกาย หรือเป็นอันตรายอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่
  3. ขอชื่อและที่อยู่ของผู้ที่เคยรับการบำบัด ด้วยการแพทย์สาขานั้น ๆ จนสามารถหายจากมะเร็งได้ ซึ่งหากนักบำบัดไม่มีชื่อผู้ป่วยที่เคยหายจากมะเร็งเพราะเขาเลยแม้แต่คนเดียว ก็ระวังไว้ก่อน

ดูแลมะเร็ง เริ่มได้ที่ตัวเอง

นอกจากเรื่องพิจารณาความน่าเชื่อถือของการใช้แพทย์ทางเลือก เพื่อรักษามะเร็ง นายแพทย์แอนดรูว์ ยังได้แนะนำการดูแลตัวเอง เมื่อ เป็นมะเร็ง เอาไว้อย่างสนใจ โดยมีคำแนะนำ 4 ข้อ คือ

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน เนื่องจากมะเร็งเป็นสัญญาณที่ร่างกายสะท้อน ให้คุณเห็นว่าระบบบำบัดของคุณบกพร่องไปมากแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมะเร็งระยะแรกหรือระยะใดก็ตาม ต้องถือว่ามะเร็งเป็นโรคที่มีการดำเนินของโรคอย่างเป็นระบบ จึงต้องปรับปรุงตนเองทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อที่จะฟื้นฟูภูมิคุ้มกันและกอบกู้สุขภาพกลับมาใหม่
  2. เริ่มต้นด้วยการกิน และออกกำลังกาย อย่างน้อยที่สุด นายแพทย์แอนดรูว์ยืนยันว่าต้องเปลี่ยนอาหารการกิน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินวิตามินที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระใช้สมุนไพรต่างๆ โดยเฉพาะตัวที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หัดทำสมาธิ ทั้งแบบสร้างจินตนาการ และแบบสมาธิภายใต้การชี้นำ เพื่อช่วยให้ระบบบำบัดสยบมะเร็งเอาไว้ให้ได้
  3. หากำลังใจ ด้วยการเสาะหาคนที่เคยเป็นมะเร็งและรอดชีวิตมาได้ ถ้าเป็นไปได้ให้หาตัวผู้ที่ผ่านการเป็นมะเร็งชนิดเดียวกับคุณมาด้วยจะยิ่งดี หรือหาหนังสือเกี่ยวกับการรอดพ้นจากมะเร็งมาอ่านก็ได้ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มกำลังใจและความเชื่อมั่นในศักยภาพการบำบัดมะเร็งของมนุษย์เรา
  4. แสวงหานักบำบัดที่เชื่อถือได้ และขอความช่วยเหลือทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าระบบบำบัดสุขภาพอาจจะกำจัดมะเร็งไม่ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็ช่วยได้ เช่น จะช่วยชะลอการเฟื่องฟูของมะเร็งหรือยับยั้งมะเร็งไว้ เพื่อช่วยให้คุณยังคงมีสุขภาพดีอยู่ได้ครับ

ที่มา

  • โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา
  • หนังสือ พลังบำบัด  สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปอมอ = เป็นมะเร็ง (เพราะไม่เชื่อหมอ) ตอนที่ 1, ตอนที่ 2

กฎเหล็ก ป้องกันมะเร็งเต้านม

ปรับ 7 พฤติกรรม แก้มะเร็งเม็ดเลือดขาว

ติดตามชีวจิตได้ที่

Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.