สูตรลดความอ้วน แบบฉบับชีวจิต ทำตามง่าย ประหยัด เห็นผลจริง
สูตรลดความอ้วน มีมากมายให้เลือกนำไปใช้ แต่สูตรที่เราขอนำเสนอนี้ เป็นสูตร (ไม่) ลับ ฉบับชีวจิต ซึ่งจะช่วยฝึกวินัยในการดูแลใจและออกกำลังกายอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้กินน้อยลง
ในอดีต โรคอ้วนเคยเป็นปัญหาหนักเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เนื่องจากการดำเนินชีวิตประจำวันของอเมริกันชนนั้นเอื้อต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก โดยในปี 1999 มีคนเป็นโรคอ้วนกว่า 56.4 เปอร์เซ็นต์ แต่พอก้าวเข้าสู่ปี 2000 ยอดผู้ป่วยโรคอ้วนก็พุ่งขึ้นถึง 61 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมากในการแก้ปัญหาดังกล่าว
แต่จากผลการประชุมครั้งล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ระบุว่า ปัจจุบันโรคอ้วน กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบหนักต่อการให้บริการทางสาธารณสุขและสังคมในแถบภูมิภาคอื่นๆ ของโลกด้วยเหมือนกัน
ประเทศไทยเองก็กำลังเจอวิกฤติโรคอ้วนด้วยเช่นกัน แถมมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เผยผลการสำรวจโรงเรียนในกรุงเทพฯ พบว่าเด็กมีปัญหาโรคอ้วน ถึงหนึ่งในสี่ของนักเรียนทั้งหมด หรือประมาณร้อยละ 25 ซึ่ง ถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงมาก
นอกจากความอ้วนจะเป็นบ่อเกิดของสารพัดโรคแล้ว ยังส่งผลให้คนที่ประสบปัญหาดังกล่าวได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจและหาทางออกด้วยวิธีผิดๆ จนเกิดเรื่องเศร้าสลดอยู่ทุกบ่อย คอลัมน์ เรื่องพิเศษ ฉบับนี้จึงขอเป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับหนทางสู่สุขภาพดีให้หนุ่มสาวเจ้าเนื้อทั้งหลายด้วยวิธีการลดน้ำหนักตามแนวทางชีวจิต รับรองว่าปลอดภัยหายห่วงค่ะ
จุดเริ่มต้นของความอ้วน
จากกระแสวัฒนธรรมต่างๆ จากโลกตะวันตกที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของคนไทย ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี เรื่อยมาจนถึงพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก คนกินผักน้อยลง แต่หันไปกินอาหารขยะ ทั้งแป้งขาว ไขมัน และน้ำตาลมากขึ้น ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ก็ไม่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายสะสมแคลอรีมากขึ้น ซึ่งสวนทางกับการขับของเสียออกจากร่างกายที่ไม่สมดุลกัน
อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ต้นตำรับของชีวจิตจึงกล่าวว่า หากการกินอาหารเข้าไปและการขับถ่ายออกมาไม่สมดุลกัน กล่าวคือ กินเข้าไปในปริมาณมาก แต่ขับถ่ายออกมาน้อย ไม่พอดีกัน หนทางสู่ความอ้วนก็อยู่แค่เอื้อม ยิ่งถ้าทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องไกลตัวด้วยการอยู่นิ่งๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ทำงานในออฟฟิศ เมื่อเลิกงานแล้วมุ่งตรงกลับบ้านหรือแวะร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดข้างทาง กินเสร็จแล้วก็นอน เรื่องอาหารที่เข้าและออกไม่เท่ากันจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้อ้วน
นอกจากนั้นอาจารย์สาทิสยังแจกแจงถึงสาเหตุที่ทำให้โรคอ้วนกำลังเป็นปัญหาในไทยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นการเลียนแบบฝรั่งแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ‘ ถูกปลูกฝังการกินแบบผิดๆ มาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ยุคไอทีมักปลูกฝังให้ลูกกินอาหารจานด่วนแทนการปรุงอาหารกินเองที่บ้านมาตั้งแต่ขวบปีแรก แล้วก็ติดเป็นนิสัยเรื่อยมา จนถึงอายุ 30 โดยไม่เคยสังเกตว่าร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง เมื่ออายุมากขึ้นโรคอ้วนจะตามมา
การกินอาหารนอกบ้านแบบผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารขยะที่ประกอบไปด้วยจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมัน เช่น พิซซ่า ไอศกรีม ช็อกโกแลต น้ำอัดลม ขนมเค้ก ฯลฯ และยังไม่ออกกำลังกาย กิจกรรมยอดนิยมของวัยรุ่นไทย ตอนนี้ได้แก่ นอนดูทีวี เล่นเกมและคอมพิวเตอร์อยู่กับบ้านมากกว่าการออกกำลังกาย
อ่านต่อหน้า 2