หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท, วัยทำงาน, โรคจากการทำงาน, รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

ประสบการณ์สุขภาพ : รับมือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ฉบับคนทำงาน

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กับวัยทำงาน

แค่ได้ยินชื่อ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หลายคนคงขยาดและรู้สึกว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตเยอะมากๆ เราจะทำอย่างไร เมื่ออาการนี้เกิดขึ้นมาในวัยทำงาน ที่ต้องใช้ร่างกายหาเลี้ยงชีพ ลองมาอ่านประสบการณ์การเอาชนะภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทของหนุ่มคนหนึ่งกันค่ะ

อาการสะสมจากวิถีชีวิตประจำวัน

ด้วยอาชีพสถาปนิกที่ต้องเดินทางไปตรวจไซต์งานตามต่างจังหวัด  ขับรถวันละไม่ต่ำกว่า 3 – 4 ชั่วโมงโดยไม่ได้พัก วิถีชีวิตของคนทำงานหนักเช่นเขาจึงทำให้โรคภัยถามหาโดยไม่รู้ตัว

คุณศรายุทธ  ศรีทิพย์อาสน์  หรือคุณโอ๋  อายุ 39 ปี สถาปนิกหนุ่มและอาร์ตไดเร็คเตอร์งานชุก  ซึ่งครั้งหนึ่งต้องเผชิญกับโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท  ทำเอาชีวิตวุ่นวายอยู่ระยะหนึ่งเลยทีเดียว

“ผมชอบทำนู่นทำนี่ครับ  มีนิสัยชอบทำงาน  ด้วยอาชีพสถาปนิกก็อยู่ไม่ติดที่  ไหนจะมีกิจกรรมต่างๆที่ต้องยกของและย้ายของ  บางครั้งก็ยกผิดท่า  ทำเอาหลังยอกหลายครั้ง  แต่พอไปหาหมอ  ได้ยามากิน  อาการเหล่านี้ก็หายไป  ผมจึงกลับมาใช้ชีวิตอย่างไม่ระมัดระวังเช่นเดิม  พอเป็นบ่อยๆเข้า  ยาที่หมอให้มาเริ่มไม่ช่วยแล้ว  ตอนนั้นแหละที่เริ่มรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ”

ในช่วงนั้นคุณโอ๋ก็ทำงานในกองบรรณาธิการนิตยสาร และเป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มที่เกี่ยวกับงานสถาปนิกอยู่ด้วย โดยในหนึ่งวันจะนั่งทำงานในท่าเดิมๆติดต่อกันประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงแล้วพักเที่ยงทีเดียว  จากนั้นก็กลับมาทำงานต่อ

อีกทั้งพอกลับถึงบ้านก็ยังมานั่งประจำโต๊ะเพื่อทำงานฟรีแลนซ์ต่ออีก เรียกได้ว่าใช้ร่างกายและมันสมองแทบตลอดเวลา

“เมื่อกินยาแล้วไม่หาย  อาการไม่ดีขึ้น  แถมยังมีอาการชาลงมาที่ปลายขา  จึงไปตรวจเช็กให้ละเอียด  ก็พบว่าเป็นอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทขาข้างซ้าย  แน่นอนว่าพฤติกรรมการใช้งานร่างกายอย่างไม่ถูกต้องน่าจะมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้กระดูก  กล้ามเนื้อ  เส้นเอ็นต่างๆบริเวณหลังอ่อนแอ

“หลังเข้ารับการผ่าตัด  ผมต้องนอนพักนิ่งๆไปพักใหญ่ๆ  กินยาบำรุงปลายประสาท  ทำกายภาพบำบัด  บริหารกล้ามเนื้อหลังและยืดเส้นประสาทเพื่อฟื้นฟูร่างกาย  แต่นั่นแหละครับ  พอมันเป็นไปแล้ว  ต่อให้รักษาจนหาย  เราก็จะรู้สึกว่าบริเวณหลังก็ยังเป็นจุดอ่อนของร่างกายไม่ได้กลับมาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์”

 

 

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.