สาธารณสุขออกเตือน โรคท้องร่วง ในเด็กและผู้ใหญ่
ท้องร่วง หรือโรคอุจจาระร่วงที่กำลังระบาดอยู่ ในขณะนี้ หากใครมีอาการหรือกำลังเป็นโรคอุจจาระร่วง กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า ให้ดื่มสารละลายโออาร์เอส และถ้าไม่จำเป็นห้ามกินยาหยุดถ่ายหรือยาปฏิชีวนะ และถ้ามีอาการรุนเเรง มีไข้สูง ควรรีบพบแพทย์ด่วน
อุจาระร่วงระบาดหนักทั่วประเทศ
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย มีฝนตกหนักสลับอากาศร้อน บางพื้นที่อากาศหนาว พบโรคอุจจาระร่วงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยมีเด็กป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงเข้ารับการรักษาในคลินิกประมาณ 131,000 รายต่อปี และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 56,000 รายต่อปี
ส่วนใหญ่เกิดจากสารพิษของเชื้อโรคหรือเรียกว่าอาหารเป็นพิษ ส่วนที่เหลือเกิดจากไวรัส พยาธิ และแบคทีเรีย โดยโรคอุจจาระร่วงที่พบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มักเกิดจากเชื้อไวรัส สถานที่ที่พบมากคือสถานสงเคราะห์เด็ก นอกจากนี้ อาจพบการติดเชื้อได้ในผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องได้
อาการอุจจาระร่วงที่ต้องระวัง
นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อว่า โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัส อาการจะรุนแรงมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย อุจจาระของผู้ป่วย ติดต่อทางการกินอาหาร นม น้ำดื่ม หรือการอมมือที่สัมผัสกับเครื่องใช้หรือของเล่นต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนเชื้อ มักจะมีอาการภายใน 2-10 วันหลังรับเชื้อ
โดยมีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน ต่อมาจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ ปนฟอง และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ถ่ายเหลว 3 ครั้ง/วัน หรือมากกว่า มีไข้สูงและอาเจียนร่วมด้วย และที่สำคัญยังพบอีกว่า ก่อนจะครบอายุ 5 ปีเด็กทุกคนจะมีการติดเชื้อซ้ำได้หลายครั้งอีกด้วย
วิธีการรักษาและป้องกันโรคอุจจาระร่วง
คุณหมอเเนะนำวิธีการป้องกันเเละรักษาโรคอุจจาระร่วงเบื้องต้นไว้ดังต่อไปนี้
- ผู้ป่วยโรคท้องร่วง ร้อยละ 95 ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากจะทําให้เชื้อแบคทีเรียที่มีตามธรรมชาติอยู่ในร่างกายเกิดการดื้อยาได้
- ไม่ควรกินยาหยุดถ่ายเพราะจะทำให้เชื้อโรคยังคงอยู่ในลำไส้
- ต้องให้เด็กดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส
- ถ้าอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง อุจจาระบ่อย และไม่สามารถดื่มน้ำทดแทนได้ เด็กจะมีอาการขาดน้ำรุนแรง หากรับการรักษาไม่ทันหรือไม่เหมาะสม อาจเกิดภาวะช็อกและอาจเสียชีวิตได้ ขอให้รีบพาไปพบแพทย์โดยทันที
- การป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ขอให้ผู้ดูแลเด็กล้างมือให้สะอาดก่อนปรุงอาหาร ชงนม หรือเตรียมอาหารให้เด็ก ก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากการใช้ห้องน้ำ
- สอนเด็กให้รู้จักล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ
- ดื่มน้ำที่สะอาดหรือน้ำต้มสุก
- ดูแลเด็กให้รับประทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่ๆ
อ่านเพิ่มเติม>>สมุนไพรป้องกันรักษาอาการท้องร่วง
6 สมุนไพรไทย รักษาโรคท้องร่วง ป้องกันดื้อยา
มีสมุนไพรแก้ท้องเสีย ท้องร่วง ตัวไหนบ้างที่จัดว่าเด็ด และมีสรรพคุณใช้รักษาอาการท้องเสียได้นั้น เราลองมาดูกันเลยครับ
ฟ้าทะลายโจร ขมเย็น
หลายคนอาจคุ้นชินกับการกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจร รักษาอาการหวัด เจ็บคอ หรืออาการไข้ตัวร้อน เเต่รู้หรือไม่ว่าฟ้าทะลายโจรยังสามารถกินรักษาอาการท้องเสียได้อีกด้วย เเต่ต้องเป็นอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว ที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อนะครับ
วิธีการกินที่ง่ายสุด : คือการกินในรูปแบบแคปซูล 500 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น หรือกินห่างกันทุกๆ 4 ชั่วโมง ก็ได้เช่นกัน เมื่อหยุดถ่ายหรืออาการดีขึ้นก็ควรหยุดกินฟ้าทะลายโจรทันที
อีกแบบหนึ่งคือ การกินในรูปแบบของยาต้ม ซึ่งการกินเเบบนี้จะหายไวกว่า เห็นผลชัดเจน แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ปริมาณสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ อาจจะไม่คงที่เหมือนการกินแบบเเคปซูล เพราะมีการควบคุมปริมาณสารสำคัญ
ใช้ฟ้าทะลายโจร 15 กรัม หรือ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ ปริมาณท่วมยา หรือ 2 ถ้วยตวง ต้มเดือด 15 นาที แล้วรินดื่ม ก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการ คล้ายคลึงกับการกินแบบแคปซูล
อ่านเพิ่มเติม
4 วิธีกินฟ้าทะลายโจร แบบถูกต้อง ได้ผลไว ไม่ต้องง้อยาแผนปัจจุบัน
ขมิ้นชัน เหลืองเข้ม
สมุนไพรสีเหลืองเข้ม จนถึงสีเหลืองอ่อน มีสารเคอร์คูมิน ช่วยรักษาอาการท้องเสียได้ เพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อ รวมไปถึงแก้อาการข้างเคียงจากระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติได้ เช่น อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ได้เช่นกัน รวมไปถึงช่วยสมานแผล รักษาโรคกระเพาะอาหาร และกรดไหลย้อนได้อีกด้วย
วิธีกินขมิ้นชัน: ก็คล้ายๆคลึงกับการกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจร คือ กินในรูปแบบเเคปซูล 250-500 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการท้องเสีย ปวดมวนท้อง และการกินในรูปแบบยาต้ม โดยการนำขมิ้นชัน 10-15 กรัม ใส่น้ำท่วมยา ต้มเดือด 15 นาที และรินดื่ม
หรือกินในรูปแบบของอาหาร เป็นซุปร้อนๆ เช่น ปลาต้มขมิ้น แกงส้มหรือแกงเหลือง เป็นต้น
ปล. ขมิ้นมีหลายชนิด แนะนำให้เลือกกินขมิ้นชัน มีสีเหลืองเเดงเข้ม ส่วนขมิ้นที่มีสีเลืองอ่อนๆ เรียกว่าขมิ้นอ้อย มักจะเข้าตำรับยาประจำเดือน บำรุงเลือดในผู้หญิง
อ่านเพิ่มเติม
3 ประโยชน์ดี ๆ ของการใช้ประโยชน์จากขมิ้นชัน
เปลือกมังคุด ราชินีผลไม้
มังคุดขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีผลไม้ไทย มีรสหวานเย็น แต่เปลือกของมังคุด มีรสฝาด ใช้เป็นสมุนไพรแก้ท้องเสียได้ เพราะมีสารแทนนินค่อนข้างสูง เปลือกมังคุดจะมีสีม่วงอ่อนจนถึงสีม่วงเข้ม
วิธีกิน: ให้นำเปลือกมังคุดที่เเคะเนื้อออกหมดแล้ว ไปตากเเดดให้เเห้ง หรืออบให้แห้งก็ได้เช่นกัน เพื่อเป็นการไล่น้ำออกจากเปลือกมังคุด สามารถทำให้เก็บได้นานมากขึ้น หรือใช้เปลือกสดๆ ต้มกับน้ำดื่มก็ได้เหมือนกัน
เมือได้เปลือกมังคุดตากแดดแล้ว นำไปบดให้ละเอียด เมื่อมีอาการท้องเสีย ให้ชงดื่ม 1-2 ช้อนชา ละลายกับน้ำต้มสุก หรือใช้โรยบนอาหารก็ได้เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม
อ่านต่อ>>สมุนไพรป้องกันรักษาอาการท้องร่วง(2)
ใบฝรั่ง แต่เป็นสมุนไพรไทย
ฝรั่งอาจจะมีรสหวานเย็น เปลือกมีความฝาดเล็กน้อย แต่สำหรับลูกอ่อน แก่ และใบของฝรั่งมีความฝาดสูงมาก กินแล้วสามารถช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร หรือช่วยรักษาอาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี
วิธีกิน: สามารถกินได้ทั้งใบสดและแห้ง สำหรับการกินสด แนะนำให้เลือกใบฝรั่งยอดอ่อนๆ สัก 2-3 ยอด เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืน หรือน้ำใบฝรั่งต้ม แล้วดื่มเป็นชา ใช้จิบแก้อาการท้องเสียได้
อ่านเพิ่มเติม
ใบชา ที่ไม่เย็นชา
เราอาจจิบชา เพื่อความสุนทรีย์ ดื่มด่ำความหอม และรวมไปถึงจิบชาเพื่อวัฒนธรรม ปรัชญาการดำเนินชีวิต แต่ครั้งนี้เรามาสอนจิบยาแก้อาการท้องเสีย กันดีกว่า เหตุผลที่ชาสามารถจิบ หรือดื่ม แก้อาการท้องเสียได้ ก็เป็นเพราะใบชามีสารแทนนินอยู่เป็นจำนวนมาก จึงถูกจัดว่าเป็นสมุนไพรแก้ท้องเสียด้วย
วิธีกิน: การจิบ หรือดื่มชาให้ได้สารแทนนินนั้นมันมีวิธีการของมันอยู่ คือ เราต้องเเช่ชา หรือต้มชา ให้นานมากที่สุด มากกว่า 5 นาทีขึ้นไป สารแทนนนินในใบชาก็จะค่อยๆออกมา นั้นแหละเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มเพื่อรักษาอาการท้องเสียของเราได้
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าใครไม่อยากท้องผูก เพราะดื่มชา ก็ไม่ควรเเช่หรือต้มชา นานจนเกินไปนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม
ชาขาว VS ชาเขียว เลือกอะไรสุขภาพเลิศสุด!
กล้วยดิบ ฝาดแต่ดี
เราสามารถกินกล้วยดิบ หรือแก่ๆ แก้อาการท้องเสียได้นะรู้ยัง (เอาจริงๆผมเขียนบ่อยมากเรื่องกล้วย) เเค่เราเลือกกล้วยให้ถูกสัดส่วนและระยะเวลาการสุกของกล้วยได้ถูกต้องก็สามารถแก้โรคต่างๆได้มากมาย
วิธีกิน: เราสามารถเลือกกินกล้วยดิบได้ง่ายๆ หลายรูปแบบ หายได้เร็วสุด ต้องกินในรูปแบบของยาน้ำ หรือเป็นยาชงแบบผงก็ได้ หรือถ้าใครฮาร์ดคอร์หน่อยๆ ก็หั่นกินดิบ เคี้ยวให้ละเอียดเเล้วกลืน หรือใช้กล้วยดิบไปแกง หรือบวดก็ได้นะ
อ่านเพิ่มเติม
รวมวิธีกินกล้วยที่ดีที่สุด รักษา 6โรคยอดฮิต ระบบย่อยอาหาร
กินสมุนไพรเป็นยา ก็ต่อเมื่อมีอาการท้องเสีย หรือ ท้องร่วง นะครับ
ข้อมูลอ้างอิง
https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/117067/