กล้วย กินง่ายกว่าปอก แถมประโยชน์สูงมาก
กล้วย เป็นผลไม้ที่คุ้นหน้า คุ้นตา และคุ้นปากกันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นผลไม้หาง่าย ราคาไม่แพง กินง่าย ไม่ยุ่งยาก หลายคนจึงเลือกทานในมื้อเร่งรีบ และนอกจากนั้นยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูงมากเลยนะคะ ช่วยในการดูแลสุขภาพในหลายๆ ด้านเลยทีเดียว
ข้อมูลโภชนาการ
กล้วยหอม 100 กรัม อุดมด้วย
พลังงาน 98 Kcal
น้ำตาล 19.16 กรัม
ไฟเบอร์ 1.5 กรัม
ฟอสฟอรัส 46 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 347 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 62 ไมโครกรัม
วิตามินเอ 5 ไมโครกรัม
วิตามินซี 27 มิลลิกรัม
จะเห็นได้ว่า สารอาหารที่สำคัญทีไ่ด้จากกล้วยหอมคือ ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยดูแลสุขภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้มากมายเลยค่ะ
![กล้วย กล้วยหอม](https://cheewajit.com/app/uploads/2023/02/iStock-509533014-1024x538.webp)
สุขภาพหัวใจ
หนึ่งในสารอาหารที่กล้วยมีสูงคือโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของหัวใจ และความดันโลหิต การกินกล้วยจึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือด และหัวใจ
สุขภาพลำไส้
อย่างที่รู้ว่าผงกล้วยดิบช่วยรักษากระเพาะได้ แต่กล้วยยังช่วยดูแลลำไส้ได้ เนื่องจากอุดมด้วยไฟเบอร์ในปริมาณสูง จึงทั้งทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดอาการท้องอืด ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ
อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้มากในกล้วย ไม่เพียงรักษาเซลล์ให้เป็นปกติ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์
ช่วยฟื้นฟูร่างกาย
หลังออกกำลังกาย ถ้าได้กินกล้วยจะดีมากๆ เพราะว่ากล้วยอุดมด้วยสารหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแมกนีเซียมที่ช่วยทำหน้าที่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ในร่างกาย จึงลดการเกิดตะคริว และคลายอาการปวดกล้ามเนื้อ และกล้วยก็เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่ายอีกด้วย
เมนูกล้วย
เพราะกล้วยเป็นเมนูคู่ครัวไทยมาช้านาน จึงไม่แปลกที่เราจะมีเมนูที่ทำจากกล้วยมาก โดยเฉพาะการทำเป็นของหวาน ของว่าง ที่สำคัญคือเป็นของกินเล่นที่มีประโยชน์สูง บางเมนูก็เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย วันนี้ชีวจิตนอกจากจะมีประโยชน์มาฝาก ก็มีสูตรมาให้ทำกันด้วยค่ะ
กล้วยต้ม
กล้วยที่นิยมนำมาคือ กล้วยน้ำว้าห่าม ค่ะ เห็นลูกเล็ก ๆ แบบนี้ถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าสุกให้แคลอรีสูงถึง 60 แคลอรีเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีน้ำตาลถึง 3 อย่างคือ ซูโครส ฟรุคโตส และกลูโคส ดังนั้นการกินเป็นกล้วยต้มที่เน้นใช้กล้วยน้ำว้าห่ามก็จะทำให้ได้รับน้ำตาลน้อยลงค่ะ
![กล้วย, เมนูกล้วย, กล้วยต้ม](https://cheewajit.com/app/uploads/2023/02/iStock-1310845116-1024x538.webp)
สำหรับประโยชน์ของกล้วยน้ำว้านั้นก็จะแตกต่างจากกล้วยหอมเล็กน้อย คือ
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จึงช่วยต้าน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี
- ช่วยในเรื่องการนอนหลับ เพราะในกล้วยน้ำว้ามีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างสารเซโรโทนิน ทำให้นอนหลับง่าย เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการนอนค่ะ
- ช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และยังลดปัญหาการซึมเศร้า ซึ่งเป็นอีกประโยชน์ที่ได้จากการมีทริปโตเฟน จนทำให้กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ที่กรมสุขภาพจิตแนะนำให้กินเพื่อลดปัญหาซึมเศร้าด้วย
- ลดความดันโลหิต โดยในกล้วยน้ำว้ามีโพแทสเซียมในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ความดันอยู่ในระดับที่สมดุล
สูตรกล้วยต้ม
- ต้มกล้วยน้ำว้าห่ามทั้งเปลือกในน้ำเกลือ แต่ถ้าอยากเพิ่มความหอมก็ใส่ใบเตยลงไปต้มพร้อมๆ กัน
- เมื่อเปลือกกล้วยเริ่มปริแยกก็ตักกล้วยออกมาแช่ในน้ำเย็นจัด
- เมื่อกล้วยเย็นแล้วก็ปอกเปลือก พร้อมทานค่ะ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความอร่อย ก็ทานคู่กับมะพร้าวขูดได้นะคะ
สมู้ตตี้กล้วย
เป็นสูตรเครื่องดื่มที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด เพราะอุดมด้วยสารทริปโตเฟน ที่ได้จากทั้งกล้วย และ เมล็ดทานตะวัน ผสานกับวิตามินบีรวมและแมกนีเซียมจากอินทผลัมและเอพริคอต ทำให้การทำงานของสมองดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้รู้สึกตื่นตัว สามารถเผชิญกับทุกสถานการณ์ที่ยุ่งยากได้อย่างดี
![](https://cheewajit.com/app/uploads/2023/02/iStock-1194152250-1024x538.webp)
ที่สำคัญคือเมนูนี้ ไม่ต้องเติมน้ำตาล น้ำเชื่อมเพิ่ม เพราะเราจะได้ความหวานฉ่ำจากทั้งกล้วยและอินทผาลัม ซึ่งดีกับร่างกายมากกว่าความหวานจากน้ำตาลแน่นอน
สมู้ตตี้กล้วย
ส่วนผสม
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 250 กรัม
- กล้วยหอมสุก 2 ผล
- อินทผลัม แกะเอาเมล็ดออก 2 ผล
- เอพริคอตแห้งหั่นหยาบ 2 ผล
- น้ำแข็งบด 1 ถ้วย
- เมล็ดทานตะวันอบสุกสำหรับแต่งหน้าเล็กน้อย
วิธีทำ
ปั่นส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นเมล็ดทานตะวัน) ด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้จนเนียนละเอียด เทใส่แก้ว โรยด้วยเมล็ดทานตะวันก่อนเสิร์ฟ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 700.42 กิโลแคลอรี
โปรตีน 8.45 กรัม ไขมัน 3.97 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 169.54 กรัม ไฟเบอร์ 13.56 กรัม
ข้อควรระวัง!
แต่ถึงกล้วยจะมีประโยชน์มากมายแค่ไหนก็ใช่ว่าทุกคนจะกินกล้วยได้นะคะ โดยผู้ที่ควรระมัดระวังการกินกล้วยคือ
- ผู้ที่มีอาการไมเกรน เพราะกล้วยอาจไปกระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้
- ผู้ที่มีอาการแพ้
- ผู้ที่กินยาที่เพิ่มระดับโพแทสเซียม
ข้อมูล healthline, bbcgoodfood, สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ทับทิม ผลสีแดงกับประโยชน์เหลือล้น
งานวิจัยแนะนำ กินอาหารอย่างไร ไม่ให้เป็นไขมันพอกตับ
10 ประโยชน์ของ ฟักทอง เมล็ดฟักทอง
ติดตามชีวจิตได้ที่
Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสาชีวจิต