เมื่อพูดถึงSourdough (ซาวโดวจ์) หลายคนอาจจะพอคุ้นชื่อกันมาบ้าง แต่ยังมีอีกหลายคนที่ นึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร และมันมีประโยชน์อย่างไร ทุกข้อสงสัยที่อยากรู้ วันนี้แอดได้หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ก่อนอื่นแอดจะพาไปรู้จัก “ซาวโดวจ์ หรือขนมปังเปลือกแข็ง” คือขนมปังที่เกิด จากหมักของยีสต์ด้วยวิธีธรรมชาติ เลยทำให้รสชาติที่มีออกไปในทางเปรี้ยว ซึ่งเราสามารถทำเป็นขนมปังเปล่าๆ ไม่ใส่อะไร หรือจะใส่ธัญพืชอย่างผลไม้ แห้ง ลูกเกด หรือถั่วเข้าไป เพื่อเพิ่ม texture ก็ได้เช่นกัน
วันนี้เราได้ คุณศิรินภา เฟย์ หรือ คุณเปิ้ล เจ้าของคลาสเรียน artisansourdough_by_applefahey มาบอกเล่าถึงขั้นตอนการทำ รวมถึงให้ ความรู้ต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้างตามมาดูกัน
ประโยชน์ของซาวโดวจ์
ในซาวโดวจ์มีสารต้านอนุมูลอิสระสารต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรีย บางชนิด และมีพรีไบโอติกส์ ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ในระบบทางเดิน อาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และทำให้การขับถ่ายของเราดีมากขึ้น
อีกด้านคือความเปรี้ยวของแป้งซาวโดวจ์ที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ส่งผลให้ ขนมปังซาวโดวจ์เก็บได้นานโดยไม่ต้องเติมสารกันเสีย เนื่องจากกรดแลคติค (Lactic) ที่แบคทีเรียผลิตจะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิดที่ ทำให้ขนมปังเสีย โดยช่วยลดปริมาณไฟเตต (Phytates) (มีคุณสมบัติในการ ยั้บยั้งการดูดซึมของแร่ธาตุบางชนิด) ซึ่งพบในธัญพืชอย่างข้าวสาลี
นอกจากนี้ เอทานอลที่ยีสต์ในซาวโดวจ์ผลิตได้ ก็ไปยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย อื่นที่ทำให้เกิดการบูดเน่า ดังนั้นผู้ที่แพ้สารกันเสียจึงสามารถรับประทานขนมปัง ซาวโดวจ์ได้อย่างสบายใจ
ส่วนผสมหลักของการทำซาวโดวจ์ มีอยู่ไม่กี่อย่าง คือ แป้งสาลี หรือแป้งโฮลวีท (ในส่วนของแป้งสามารถปรับได้ตามใจชอบ แต่ถ้าจะเน้นเรื่องของสุขภาพ แนะนำว่าควรใช้แป้งไม่ขัดสี) เกลือ และ ซาวโดวจ์ สตาร์ทเตอร์ (คือยีสต์ ธรรมชาติ ที่เกิดจากการหมักแป้งและน้ำ)
การทำยีสต์เพื่อทำขนมปัง
- แป้ง 50 น้ำ 50 สัดส่วนเท่ากัน คนผสมให้เข้ากัน
- 2. ทิ้งไว้ในขวดโหลที่สะอาดประมาณ 24 ชั่วโมง
- จากนั้นจดลงสมุดบันทึกเวลาการเลี้ยงไว้ เพื่อจดเวลาการให้อาหาร ว่าให้อาหาร (แป้ง +น้ำ) ไปแล้วตัวยีนส์ใช้เวลาในการขึ้นตัว ซึ่งแต่ละคนจะใช้เวลาการเลี้ยงยีสต์ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพแวดล้อม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการจดบันทึก
สังเกตว่ายีสต์พร้อมสำหรับการไปทำแป้งแล้ว
สังเกตได้จากตอนเลี้ยงต้องทำสัญลักษณ์ไว้ ฟองอากาศต้องขึ้นมากกว่า 2 เท่า จึงจะนำไปทำขนมได้ กระบวนการทำงานของยีสต์คือ จะทำงานจากข้างล่างขึ้น ฟองอากาศก็จะไล่ขึ้นไปจากด้านล่างไปสู่ด้านบน เราก็จะดูฟองอากาศจากข้างบน และดูข้างหน้า ในช่วงแรก ๆ ยีสต์อาจจะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ขนมปังอาจจะไม่ฟูมาก ยีสต์สามารถดูความแข็งแรงได้จากความฟูหรือความดีดของขนมปัง หรือจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น แป้งดี หรือการหมักดีนั่นเอง
ซึ่งยีสต์จะทำงานได้ดีและแข็งแรงในอุณหภูมิ 23 – 28 องศา แต่ถ้าไม่อยากให้ ยีสต์โตเกินไป เราสามารถเก็บยีสต์ไว้ในตู้เย็นได้ สภาพจะเหมือนจำศีล ยีสต์จะกินน้อย และค่อย ๆ โต
ขั้นตอนการทำ ซาวโดวจ์
1.ทำการ refresh starter โดยการนำยีสต์ที่แข็งแรงมาเติมน้ำกับแป้ง แล้วพัก ไว้ก่อนประมาณ 1 ชั่วโมง (แต่ใครจะใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงก็ได้) เมื่อพักเรียบร้อยตัวแป้งเราจะเรียกว่าโดวจ์
2.จากนั้นใส่ยีสต์เพิ่มลงไปนวดกับแป้งโดวจ์ที่เราพักไว้ ใช้เวลานวดประมาณ 5 – 6 นาที
3. เติมเกลือลงไป นวดต่อประมาณ 3- 4 นาที เพื่อให้ตัวเกลือละลาย จากนั้นพัก โดวจ์ไว้ประมาณ 30 – 45 นาที ในอุณหภูมิห้อง
4. นำโดวจ์ที่พักไว้ออกมา เพื่อทำการยืดและพับครั้งที่ 1 (Stretch and Fold) โดยใช้มือทั้งสองจับแป้งยืดขึ้นมาและพับลงไป เพื่อให้เนื้อแป้งมีความเนียน และเป็นการพัฒนาโครงสร้างของกูลเตนในแป้ง จากนั้นพักประมาณ 30 – 45 นาที และทำการ ยืดและพับครั้งที่ 2 และพักอีกประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
5. นำโดวจ์มาทำการ Coil fold (การยืดและพับ) แต่ขั้นตอนนี้จะเป็นการดึง ฟอร์ม หรือตบฟอร์มตัวโดวจ์ให้ขึ้นรูป และเพิ่มความแน่นของตัวโดวจ์ โดยจะทำทั้งหมดสองครั้งเช่นกัน แต่ละครั้งจะใช้เวลาการพักประมาณ 30 – 45 นาที
6. เอาโดวจ์ออกมาทำการ pre-shape คือการนำโดวจ์มาขึ้นรูปคร่าวๆ พักไว้ 20 นาที จากนั้นนำโดวจ์ของเรามาขึ้นรูปใส่ตะกร้า หรือภาชนะที่เราเตรียมไว้ และนำไปเข้าตู้เย็นต่อ 14 – 16 ชั่วโมง
7. นำโดวจ์ออกจากตู้เย็น และทำการกรีดโดวจ์ เพื่อให้โดวจ์ขยายตัวในขณะที่อบ สามารถกรีดตกแต่งเป็นรูปต่างๆ ได้
8. เข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส ประมาณ 40 นาที (ควรเปิดให้เตาอบ ทำงานก่อนสักพัก เพื่อที่เวลาโดวจ์เข้าเตาอบ จะได้มีอุณหภูมิที่คงตัวอยู่ที่ 250 องศาเลย)
9. นำซาวโดวจ์ออกจากเตาอบ แล้วรอให้เย็นประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ค่อย ทำการหัน
สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปดูข้อมูล หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ :
Instagram: artisansourdough_by_applefahey
Facebook: Artisan Sourdough
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ฝรั่งผลไม้ฤดูฝน กินเถอะ ประโยชน์เยอะมาก