เพราะความฝันได้นำพาฉันมาจนถึงจุดนี้ : พญ. สาธิตา สีพาชา

หลังจากมีการแชร์เรื่องราวของแพทย์หญิงท่านหนึ่งที่ได้รับพระราชทานชั้นสายสะพาน (ปม.) ไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา เธอได้เล่าเส้นทางชีวิตเธอซึ่งไม่ธรรมดาเลยกว่าเธอจะได้เป็นคุณหมอตามความฝันของเธอในวัยเด็ก เชื่อว่าเส้นทางชีวิตของ พญ. สาธิตา สีพาชา จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจได้ดีเลยทีเดียว

เธอมีชีวิตที่ลำบากมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นครอบครัวชาวนา สิ่งที่ประทับใจในวัยเด็กคือสามารถสอบชิงทุนการศึกษาได้ 200 บาท ในระหว่างเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา พอเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นต้องปั่นจักรยานไปเรียน ซึ่งโรงเรียนห่างจากบ้าน 24 กม.จนเพื่อน ๆ เรียกเธอว่า “วัลลี”

เธอเป็นเด็กเรียนดี คุณครูจึงพาไปสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนสาธิต คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเธอสอบได้ที่ 34 จาก 60 คน แต่ฝันสลายเมื่อคุณพ่อไม่มีเงินส่งเธอเรียน เพราะไหนจะค่าหอพัก ค่าชมรมผู้ปกครองแรกเข้า 10,000 บาท สุดท้ายเธอสอบติดที่โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์

เธอไม่มีโอกาสเรียนพิเศษเหมือนเพื่อน ๆ เพราะช่วงปิดเทอมช่วยคุณน้าขายก๋วยเตี๋ยวที่กรุงเทพฯ ทำให้มีเงินถึง 1,100 บาท พอขึ้นเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เธอวางแผนเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอมีความฝันอยากเป็นคุณหมอ เลยมีความตั้งใจอยากสอบติดคณะแพทยศาสตร์

เธออยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบเป็นเวลา 1 ปีเต็ม และก็ได้สอบติดคณะแพทยศาสตร์จริงตามที่ฝัน ที่โรงเรียนไม่มีใครคิดว่าเธอจะสอบติดได้ นอกจากคุณครูที่สอนวิชาชีววิทยาเท่านั้นที่เชื่อมั่นในตัวเธอ ถึงเธอจะสอบผ่านแต่กลับไม่ผ่านสัมภาษณ์ เธอจึงติดสำรองอันดับที่ 15 เธอรู้สึกว่าเหมือนฟ้าฝ่าลงมากลางใจ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับมัน และตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบใหม่อีกครั้ง

และแล้วเหมือนฟ้าเป็นใจ ขณะที่เธอช่วยคุณแม่ขายของชำอยู่นั้น กระดาษแผ่นหนึ่งก็ปลิวมาติดที่เท้า ปรากฏว่าเป็นโทรเลขแจ้งให้เธอไปรายงานตัวเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝันของเธอกลายเป็นจริงแล้ว เธอสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ได้สำเร็จ

เหมือนจะเป็นความโชคดีแต่ก็มีความโชคร้ายอยู่ด้วย เมื่อคุณครูสองท่านที่เคยบอกกับเธอว่า ถ้าเธอสอบติดคณะแพทยศาสตร์จะไปค้ำประกันให้เธอในวันรายงานตัว แต่กลายเป็นว่าทุกคนโกหกเธอ แต่แล้วเธอก็พากเพียรเรียนจนจบภายใน 6 ปี แต่ด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ได้พอมีพอกินนัก เธอต้องกู้กยศ. ซึ่งเป็นหนี้อยู่ทั้งหมดร่วม 5 แสนกว่าบาท เธอใช้ทุนจนหมดภายใน 3 ปี แถมยังสร้างบ้านให้คุณแม่หนึ่งหลัง และเธอก็มุ่งเรียนต่อด้านกุมารเวชเพื่อให้ได้เป็นกุมารแพทย์ ระหว่างที่เธอเรียน เธอได้ตั้งท้องลูกคนโตด้วย เมื่อเธอคลอดลูกแล้วทำให้เธอต้องเรียนไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย บางทีอ่านหนังสือไปพร้อมกับไกวเปลกล่อมลูกน้อย

เธอสอบผ่านได้วุฒิบัตรกุมารแพทย์ แล้วมาทำงานใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน เธอได้สร้างระบบการทำงานในด้านกุมารเวชให้กับโรงพยาบาลชุมชนแห่งนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับเธอเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากเธอได้เป็นนายแพทย์ปฏิบัติการ ชำนาญการ 6 จนตอนนี้เป็นนายแพทย์ชำนาญระดับ C 9 แล้ว