5 เทคนิคการพูด กับลูกน้องที่ทำให้คุณประสบกับความล้มเหลว
คนที่มี เทคนิคการพูด และความรู้เฉพาะทางที่ยอดเยี่ยมแต่สร้างคนให้เจริญเติบโตไม่ได้นั้นมีปัญหาอะไรหรือ มาลองยกตัวอย่างดูกันสักหน่อย
1. ประเภทอธิบายไม่พอ… เป็นคนที่บอกว่า “จงศึกษาโดยดูแผ่นหลังของข้า” คนที่มีความรู้ฝึงลึก (Tacit Knowledge) แต่อธิบายความรู้ของตนเองเป็นคำพูดไม่ได้ และคนที่กำลังหยุดนิ่งอยู่ที่ความรู้จากประสบการณ์ (ความรู้เชิงประจักษ์) โดยไม่มีแม้กระทั่งความรู้ฝังลึก จะไม่สามารถสอนคนอื่นพร้อมกับอธิบายอย่างมีตรรกะได้ นอกจากนี้ยังมีคนที่บอกว่า “ยังไงก็ตาม ควรทำตามที่ข้าบอก” เพราะพูดไม่เก่ง ถ้าอยู่ด้วยกันกับคนเหล่านี้เป็นเวลานานอาจถ่ายทอดเทคนิคได้ แต่ตราบใดก็ยังไม่จ้างงานก็คงยากจะสร้างคน ถึงแม้จะมีระบบฝึกงานแบบกินนอนอยู่ด้วยกันก็ตาม
2.ประเภทพูดยาว… เป็นคนที่พูดวกวนไปเรื่อย ๆ ฝ่ายเดียว ไม่ใส่ใจว่าคู่สนทนาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ หัวข้อสนทนากระุโดดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้วก็ยังคุยต่อไปเรื่อย ๆ อย่างสบายอกสบายใจ สิ่งที่พูดไปนั้นก็มีส่วนที่จะอ้างอิงได้บ้าง แต่คนส่วนใหญ่มีความรู้สึกต่อการพูดยาว ๆ ว่าเหมือน “ถูกจับกุม”
3. ประเภทคุยโว… เป็นคนที่เหมือนจะรู้สึกดีกับการบอกว่าตนเองทำอย่างนี้มา หรืออย่างนี้มา หรือทำอย่างนี้แล้วประสบความสำเร็จ ถ้าอยู่ในระดับที่พอดีฝ่ายที่ได้รับการสอนจะรู้สึกเคารพ แต่ถ้ามากเกินไปก็จะเกิดปฏิกิริยาว่า “เล่าให้ฟังแต่เรื่องในอดีต กลุ้มใจจัง” “อยากให้พูดเรื่องที่น่าจะเข้ากับพวกเราตอนนี้” เหตุที่เรียกว่าการคุยโวเพราะเรื่องราวที่พูดต่างจากความจริงส่วนใหญ่ในปัจจุบัน
4. ประเภทเทศนา… เป็นคนที่เทศนาในระหว่างพูดโดยไม่รู้ตัว ด้วยความที่ชอบยกหัวข้อซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ควรสอนตอนนี้เลยขึ้นมาพูดว่า “โดยพื้นฐาน แกเป็น…” และวิจารณ์ลักษณะตามธรรมชาติของมนุษย์และท่าทางของฝ่ายตรงข้าม ผู้ฟังจงรับฟังด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยเชื่อ เสี้ยวนาทีที่เริ่มเทศนาก็จะลบล้างความสัมพันธ์ระหว่างการสอนและการได้รับการสอนไปหมด
5. ประเภทอุปมามากเกินไป.. เป็นคนที่ร้อยเรียงเรื่องอุปมาอุปไมยเข้าด้วยกันมากเกินไป พยายามถ่ายทอดข้อมูลสำคัญให้อีกฝ่ายฟังด้วยเรื่องอุปมา แต่ตราบใดที่ไม่ได้เก่งมาก เรื่องอุปมานั้นก็กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจยากทั้งเรื่องและความหมาย คนประเภทนี้กระตือรือร้นที่จะสร้างเรื่องอุปมาขึ้นมา ส่วนมันจะส่งไปถึงบุคคลอื่นหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
” แม้ยังยกตัวอย่างอื่น ๆ ได้อีก แต่เท่านี้คนส่วนมากก็คงตรงกับข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ”
ที่มา : ทิ้งคนเก่าที่ไม่เก่ง มาเป็นคนใหม่ที่เจ๋งกว่า โดย ยูคิโอะ โอคุโมะ สำนักพิมพ์อมรินทร์ฮาวทู
ภาพ : www.pexels.com
บทความน่าสนใจ
ฌอง ฟรองซัวส์ ชองโปลียง ผู้พิชิตความลับแห่งแดนไอยคุปต์
คนไข้ลาวเงินหมด คิดกลับไปตายบ้านเกิด หมอไทยช่วยกันลงขันยื้อชีวิตไว้ได้
ทำไมต้องเลิกกับแฟนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไขความลับแห่งใจที่เชื่อว่ายังหารักแท้ไม่เจอ
ช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญ ถ้าได้เจอสิ่งที่ใช่ ไกด์ วัย 70 ปี ผู้เคยเป็นช่างก่อสร้างมาก่อน