วิธีคิดบวก แบบชาวพุทธ เพื่อสุขภาพใจที่ดี

การคิดบวก จะช่วยให้เรามองเห็นแต่สิ่งดีจะทำให้เห็นโอกาสในวิกฤต ซึ่งนำไปสู่หนทางที่ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ซึ่งแตกต่างจากคนที่ชอบคิดลบอย่างสิ้นเชิง ลองมาทำความรู้จักกับ วิธีคิดบวก แบบชาวพุทธกันเถอะ

คำพูดที่ทำให้กลายเป็นคนคิดลบ

คำว่า “ทำไม่ได้” “ไม่แน่ใจ” “อย่าดีกว่า” “จะไหวหรือ” “ไม่กล้าหรอก” ฯลฯ คำเหล่านี้เปรียบเสมือนใบมีดอันคมกริบที่จะ ตัดแขนงใยประสาทที่เชื่อมระหว่างสมองส่วนรับกับสมองส่วนสั่งการ ให้ขาดสะบั้นออกจากกัน นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเรียนรู้ขนาดไหน ก็ไม่มีทางสร้างผลผลิตจากความรู้นั้นออกมาได้ หรือแม้แต่จะสอน สิ่งที่ตัวเองรู้ให้คนอื่นเข้าใจก็ยังทำไม่ได้ เพราะการสอนต้องพูด ใช้ท่าทางประกอบ ซึ่งต้องอาศัยสมองส่วนสั่งการ

ข้อเสียของการเป็นคนคิดลบ

การคิดลบทำให้เกิดความกลัว ซึ่งจะบั่นทอนแรงบันดาลใจ อย่างรุนแรง แม้ว่าความกลัวจะมีประโยชน์ในการสร้างแรงขับ เช่น กลัวสอบตกทำให้ขยันอ่านหนังสือ แต่พลังอันเกิดจากความกลัว ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นพลังที่มีพื้นฐานมาจากการขาดสติ ยิ่งกลัว ยิ่งขาดสติ นอกจากนั้นแรงขับอันเกิดมาจากความกลัวยังไม่ยั่งยืน เช่น นักกีฬาที่ลงแข่งด้วยความกลัวแพ้ เขาจะขอแค่เสมอก็พอใจ แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีจิตที่มุ่งมั่นต่อชัยชนะ เมื่อขาดจิตที่มุ่งมั่น ในที่สุด ก็จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้

สำหรับในทางการแพทย์พบว่า ขณะที่คิดลบ ปริมาณเลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองจะลดลงอย่างมาก อันเป็นผลเนื่องมาจากฮอร์โมน ที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว เกิดความเครียด ความดันขึ้นสูง ตรงกันข้าม กับคนที่กำลังคิดบวก ในสมองจะมีแต่เอนดอร์ฟินและโดพามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เลือดมาเลี้ยงสมองมากขึ้น มีความสุข มีสติ เกิดปัญญา แน่นอนว่า เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น โครงข่าย ใยประสาทก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ ก็จะทำได้อย่างถูกต้องในทางพุทธศาสนา การคิดลบจะไปสกัดความรู้สึกดี ๆ ซึ่งเป็น กรรมฝ่ายดีที่ฝังอยู่ในจิตไม่ให้แสดงผล เพราะกรรมเก่าฝ่ายดี มีสภาพเป็นบวก และการรับอารมณ์ของกลุ่มดวงจิตฝ่ายบวกจะ แสดงผลผ่านสมองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อผุดขึ้นมาก็จะถูกสกัด จากความเป็นลบของสมองทันที

วิธีคิดบวก

โปรแกรมให้สมองเกิดการซึมซับคุณสมบัตินั้นไว้ และแสดงออก ในอนาคต ทุกคนต้องมีส่วนเสีย แต่พยายามให้ความสนใจเฉพาะ ส่วนดี และนำส่วนนั้นเข้าสู่สมอง ขณะที่วอลต์ ดิสนีย์ วาดรูป มิกกี้เมาส์ตัวแรกออกมา สมองส่วนรับความรู้สึกจะป้อนเฉพาะ จุดบวกของตัวหนู นั่นก็หมายความว่า ขณะที่วอลต์ ดิสนีย์ เห็น หนูตัวจริง เขาสนใจเฉพาะจุดที่ดี จุดที่เด่นบนตัวหนู การรู้จักเลือกมองแต่สิ่งที่ดีจะทำให้เห็นโอกาสในวิกฤติ ซึ่งจุดนี้ สำคัญมากต่อการจะประสบความสำเร็จ เพราะทำให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น การเห็นแบบนี้จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย

ข้อมูลจากหนังสือ คู่มือแสวงพรสวรรค์ สำนักพิมพ์ Amarin Dhamma