แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ไม่ว่าอะไรจะเกิด ชีวิตต้อง “Keep walking” เสมอ
ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยเจอะเจอกับ “ปัญหา” ยิ่งเติบโตขึ้น มีบทบาทหน้าที่เพิ่มมากขึ้น…โอกาสที่จะพบเจอปัญหาก็ย่อมมีมากขึ้นไปด้วย แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นักแสดงสาววิกสามพระรามสี่ที่แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการด้วยบท “ขม” หรือ “เด็กขม” ในละครดราม่าเรื่องเยี่ยม ดงผู้ดี เมื่อหลายปีก่อน ให้นิยามคำว่า “ปัญหา” ตามสไตล์เด็กสถาปัตย์ว่า “ปัญหาคือกำแพงที่เข้ามาบดบังไม่ให้เรามองเห็นทางข้างหน้า”
แต้วอธิบายว่า กำแพงในที่นี้อาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจของเราเองหรือปัจจัยอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อไรที่พบเจอกำแพงกั้นขวางระหว่างทาง ขอให้ตั้งสติให้ดีอย่าตกใจ แล้วค่อยๆ คิดหาหนทางแก้ไข บางทีอาจจะต้องหาทางปีนข้ามไป บางทีต้องเดินอ้อมไปบ้าง หรือบางครั้งอาจต้องทลายกำแพงลง ฯลฯ แต้วมั่นใจว่า ไม่ว่าวิธีใดก็ตามแต่ ถ้าใจไม่ท้อและไม่หมดหวังเสียอย่าง เราต้องผ่านกำแพงนี้ไปได้แน่ๆ เพราะชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้าเสมอ อย่างที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า “Keep walking”
สิ่งมีค่าที่สุดของทุกชีวิต
ปกติแต้วจะไปไหนมาไหนกับคุณพ่อบ่อย ยิ่งพอท่านเกษียณราชการด้วยแล้ว คุณพ่อจะทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งแต้วตลอด ระหว่างทางเราสองพ่อลูกก็มักจะมีเรื่องพูดคุยกันเสมอ มีทั้งที่คุณพ่อสอนเองบ้าง แต้วมีเรื่องมาปรึกษาขอความคิดเห็นจากท่านบ้าง ถึงแม้บางครั้งคุณพ่อจะอธิบายยาวไปหน่อย แต่แต้วก็ชอบการอธิบายของท่านมาก เพราะท่านมักจะสอดแทรกปรัชญาชีวิตและธรรมะไว้ในนั้นด้วยเสมอๆ อย่างเรื่องปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คุณพ่อก็จะสอนให้แต้วเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของทุกชีวิตก็คือ “ลมหายใจ”
พอเราเติบโตขึ้น เราก็ต้องมีบทบาทในสังคม มีความเกี่ยวพันกับผู้คนมากขึ้น ปัญหาก็ย่อมต้องมีมากไปด้วย ปัญหาบางอย่างเราอาจจะคิดว่า “มันหนักหนา ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว” แต่ขอให้ลองคิดดูว่าปัญหานั้นมากระทบลมหายใจหรือเปล่า เรายังหายใจได้ไหม
ถ้าคำตอบคือ “ไม่ เรายังหายใจได้” ก็อย่าเอาปัญหานั้นมาแบกไว้จนไม่เป็นอันทำอะไร เพราะทุกปัญหามีทางออก ยิ่งถ้ามองให้ลึกไปกว่านั้น เราต้องเข้าใจว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอาจไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จ แต่คือ “การใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่า” ดังนั้นถ้าเราพยายามสุดๆ แล้ว ยังแก้ปัญหานั้นไม่ได้ ก็ยอมรับแล้วปล่อยวางเสีย อยู่กับทุกลมหายใจอย่างมีความสุข ใช้ทุกลมหายใจอย่างมีค่า
เมื่อ “ความไม่เข้าใจ” เปลี่ยนเป็น “ความท้าทาย”
ตอนแรกที่ได้เข้ามาทำงานกับช่อง 3 แต้วไม่รู้และไม่เข้าใจเลยว่าการแสดงคืออะไร เกือบทุกครั้งที่ไปเข้าฉาก แต้วจะเกิดคำถามขึ้นในใจตลอด เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องแสดงออกไป ไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของการแสดง จนกระทั่งได้มาร่วมงานกับ พี่อ๊อฟ–พงษ์พัฒน์ ในละครเรื่อง ดงผู้ดี แต้วถือว่าตัวเองโชคดีมากๆ เพราะพี่อ๊อฟส่งแต้วไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) ก่อนเปิดกล้องถึงสามเดือน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทัศนคติของแต้วที่มีต่อการแสดงเปลี่ยนไป…
หม่อมน้อยสอนให้แต้วเข้าใจถึงหัวใจของการแสดง วิธีการแสดงที่ถูกต้องที่ไม่ใช่การสมมุติว่าเราต้องแสดงอารมณ์อย่างนี้อย่างนั้น แต่คือการสวมวิญญาณตัวละครลงไปจริงๆ ต้องคิดและทำอย่างตัวละครให้ได้ เมื่อได้ครูดีและมีวิชาติดตัวแล้ว คำถามที่เคยค้างคาใจต่างๆ ก็เริ่มหมดไป กลายเป็น “ความท้าทาย” เข้ามาแทนที่ นั่นจึงทำให้แต้วสนุกกับทุกๆ วันที่ไปทำงาน ยิ่งทำก็ยิ่งสนุก และยิ่งนานวันก็ยิ่งรักการแสดงมากขึ้นๆ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องใดๆ ก็ตามแต่ ถ้าเราทำด้วย “ความเข้าใจ” แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นย่อมจะ “ดีกว่า” การทำด้วยความไม่เข้าใจแน่ๆ ได้มากกว่าที่คิด
ธรรมชาติของเด็กสถาปัตย์ส่วนใหญ่ (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มักจะไม่ค่อยชอบไปสุงสิงกับใครมากมายนัก แต้วเองก็เหมือนกัน…มักจะใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อนในคณะตลอด
พอขึ้นปี 3 ก็เริ่มมีหลายคนมาแนะนำให้แต้วไปสมัครเข้าร่วมกลุ่มตัวแทนนิสิตจุฬาฯ เผื่อจะได้ทำกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยดูบ้าง ตอนแรกแต้วก็ลังเล จะเอาอย่างไรดี เพราะงานนี้มีแต่คนสมัครเยอะมาก แถมยังเก่งๆ ทั้งนั้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่า “ลองดู ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นประสบการณ์ว่าอย่างน้อยเราก็ได้ลองทำแล้ว”
การคัดเลือกเป็นไปอย่างยาวนาน ในที่สุดแต้วก็ได้รับเลือกให้เข้ากลุ่มตัวแทนร่วมกับเพื่อนๆ อีก 11 คน เท่านั้นยังไม่พอ แต้วยังได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนคือ ได้รับเลือกให้เป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีด้วย แม้ใจหนึ่งจะภูมิใจมากๆ แต่อีกใจก็คิดว่า “โห! หน้าที่นี้มันสูงส่งเกินไปสำหรับเราหรือเปล่า” แต่ในเมื่อได้รับเลือกให้ทำแล้ว แต้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด
เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต้วก็ได้รู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่แต้วได้รับไม่ใช่แค่การได้นั่งเสลี่ยง ทำหน้าที่อัญเชิญพระเกี้ยว แต่คือการได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ต่างคณะ ได้ทำงานร่วมกันอย่างจริงๆ จังๆ และได้รู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้เราเรียนรู้ ไม่จำกัดอยู่แค่คณะที่เราเรียนเท่านั้น
แต้วคิดว่า เกียรติยศเป็นความภาคภูมิใจที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ประสบการณ์และมิตรภาพก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่คุณต้อง “กล้า” พาตัวเองออกไปสัมผัสและแสวงหามันก่อน…ก็เท่านั้นเอง
Secret Box
อย่าดูถูกตนเองด้วยคำว่า “ทำไม่ได้”
หากว่าคุณยังไม่ได้ “ลอง” ลงมือทำก่อน
บทความน่าสนใจ
วิธีรับมือกับปัญหาในแบบของ ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
แพนเค้ก-เขมนิจ กับ การเรียนรู้บนโลกที่ไม่หยุดนิ่ง
“สุขกับปัจจุบัน” มิว นิษฐา จิรยั่งยืน
นาย ณภัทร แจกไม้กอล์ฟแสนรักให้น้องๆ ที่ขาดแคลน หล่อ นิสัยดี และใจบุญ!!!
อีกมุมของ เจมส์ มาร์ พระเอกวัยใสหัวใจธรรมะ
คิดดี ทำดี เคล็ดลับสร้างความสุขและความสำเร็จ ในสไตล์ เจมส์ จิรายุ
แฮร์ริสัน ฟอร์ด ดาราฮอลลีวูด รุ่นใหญ่ ทำบุญถวายพระพุทธรูปแด่วัดที่สปป.ลาว
เอาชนะความไม่สมบูรณ์ของร่างกาย สู่นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ อับดี โอมาร์