หลาย ๆ คนมักติดพูดคำว่า “ขอโทษ” ง่ายและบ่อยเกินไป เช่น “ขอโทษที่รบกวนนะคะ แต่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” ขอโทษในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเรา ไม่อยู่ในความควบคุมของเรา ขอโทษในสิ่งที่ไม่สมควรที่จะขอโทษ เช่น ขอโทษที่เรามีความรู้สึกอ่อนไหวมากเกินไป ขอโทษเมื่อมีคนมาชนเรา หรือแม้กระทั่งการขอโทษที่เราพูดขอโทษออกไป หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยว่าการขอโทษบ่อยเกินไปก็สามารถส่งผลเสียต่อเรา แต่รู้ไหมคะ ว่าอาการแบบนี้ ทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า Sorry Syndrome
ก่อนที่เราจะพูดถึงผลเสีย ลองมาดูกันก่อนว่าทำไมเราถึงพูดขอโทษบ่อยๆ
สาเหตุอาจเป็นเพราะเราอยากให้คนอื่นชอบ อยากได้ความเห็นอกเห็นใจ อยากที่จะดูสมบูรณ์แบบ หรืออาจเกิดจากที่เราอยากหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และการถูกตำหนิ ทำให้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็มักจะพูดขอโทษไว้ก่อนเสมอ อาการนี้เรียกกันว่า ‘Sorry Syndrome’
Sorry Syndrome คืออะไร?
Sorry Syndrome เป็นอาการที่ต้องขอโทษตลอดเวลา แม้แต่ในเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หรือในเรื่องที่เราไม่คิดว่าผิดจริงๆ สัญญาณของการเป็น Sorry Syndrome สามารถดูได้จาก
- ขอโทษในเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้
- ขอโทษแทนการกระทำของคนอื่น
- ขอโทษในสถานการณ์ประจำวันปกติ
- ขอโทษกับวัตถุไม่มีชีวิต
- ขอโทษในเรื่องที่เราไม่คิดว่าผิด
- ขอโทษเมื่อพยายามแสดงออกหรือมีจุดยืนในตัวเอง
การขอโทษมากเกินไปทำให้คำขอโทษจริงๆ ดูไร้ค่า และจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่คู่ควรที่จะมีความเชื่อ ความต้องการ หรือคำพูดที่จะสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ นอกจากนั้น การขอโทษอยู่ตลอดเวลาอาจทำให้เราเกิดความรู้สึกเศร้าและเสียพลังใจ เพราะมันเป็นการที่ส่งข้อความออกไปว่า “ขอโทษที่เป็นตัวฉัน”
เหมือนอย่างที่ Tara Swart นักประสาทวิทยาและผู้เขียนหนังสือ The Source: Open Your Mind, Change Your Life ได้กล่าวว่า “การขอโทษเมื่อเราทำผิดมีคุณค่าอย่างแท้จริง แต่การขอโทษโดยไม่จำเป็นอาจเป็นจุดอ่อนทั้งในที่ทำงานและในความสัมพันธ์ส่วนตัว” เพราะคนอื่นจะไม่เชื่อถือในคำพูดของคุณอีกต่อไป
4 ขั้นตอนในการหยุดขอโทษเกินเหตุ
- เข้าใจตัวแปรที่มากระตุ้น ลองวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เรามักพูดคำว่าขอโทษออกมา เช่น ขอโทษบ่อยขึ้นตอนอยู่กับครอบครัว หรือกับเพื่อนร่วมงานที่ทำงาน ดูว่าอะไรคือตัวแปรที่ทำให้ขอโทษบ่อยๆ
- หยุดคิดก่อนตอบสนอง ถ้ารู้สึกว่าคุณอาจจะเริ่มพูดว่า “ขอโทษ” ในเรื่องที่ไม่ได้เป็นคนผิด ลองพยายามชะลอตัวเองลงก่อน เพื่อหยุด และหายใจเข้าตัดสินใจพูดอะไรออกไป
- แทนด้วยคำว่าขอบคุณ บางสถานการณ์ที่จริงๆ เราไม่ได้ผิดเลย แต่อาจจะยังคงมีความรู้สึกผิดอยู่และอยากแสดงออก ลองเปลี่ยนคำที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเสียหาย เป็นการด้วยคำว่าขอบคุณแทนได้ เช่น พูดว่า “ขอบคุณมากที่รอ” แทนที่จะพูดว่า “ขอโทษที่ทำให้ต้องรอ”
- เรียนรู้ที่จะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
– เตือนตัวเองว่าไม่เป็นไรที่เราจะมีความคิดเห็น
– ใช้ประโยคที่เริ่มต้นด้วย “ฉัน” เพื่อแสดงความรู้สึกและความต้องการของเรา แทนที่จะเริ่มด้วยการขอโทษ
– ยืนหยัดในตัวเองและปฏิเสธเมื่อจำเป็น
– ฝึกการยืนยันตัวเอง เช่น “ฉันมีคุณค่าและสมควรได้รับความเคารพ”
Sorry Syndrome ต้นเหตุโรคซึมเศร้า
การขอโทษบ่อยๆ อาจทำให้เรามีอาการวิตกกังวลโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะมันทำให้คนพูดรู้สึกเหมือนหมดพลัง และมัวแต่กังวลกับความผิดพลาดจนไม่กล้าทำอะไรเลย เพราะคำว่าขอโทษบางครั้งอาจแปลได้ว่า “ขอโทษนะที่ฉันเป็นคนแบบนี้ คิดแบบนี้ ทำแบบนี้ หรือพูดแบบนี้” และเมื่อพูดบ่อยๆ ก็เหมือนเป็นการสะกดจิตตัวเองว่าเราไม่มีอะไรดี ทำอะไรก็ผิดเสมอ ซึ่งพอเรามีความคิดแบบนี้บ่อยๆ จะทำให้เราเป็นคนที่เห็นคุณค่าในตัวเองต่ำลง หรือ Low Self-Esteem
ซึ่งคนที่มีภาวะเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำมักรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่มีใครรัก ขาดความมั่นใจ ทำให้มีปัญหาในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังไม่เชื่อคำชมที่ผู้อื่นมีต่อตนเอง และมีความรู้สึกเกลียดตัวเอง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่หนักกว่าอย่างโรคซึมเศร้า (Depression) หรือโรควิตกกังวล (Anxiety) ได้
เพราะว่า Self-Esteem คือ ความรู้สึกที่เราชอบและมีความสุขกับตัวเอง ทำให้เรามองเห็นคุณค่าและให้เกียรติตัวเอง คนที่มี High Self-Esteem จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ และจะไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์ที่แย่ หรือทำสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสูญเสียคุณค่าของตัวเอง
ในทางกลับกัน คนที่มี Low Self-Esteem ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเมื่อเจอวิกฤติในชีวิต พวกเขามักจะตีความว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง และมองว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หรือไม่ดีพอนั่นเอง
ดังนั้นการปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะสามารถทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้น ลดการขอโทษที่ไม่จำเป็น และลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่นๆ ตามมาได้ ลองใช้ดู แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง
ข้อมูลจาก
- higherechelon
- psychologytoday
- istrong
เรื่องอื่นๆ ที่่นาสนใจ
รวม “ความไม่รู้” เพื่อหา หนทางดับทุกข์ โดย คุณ พศิน อินทรวงค์
เมื่อเราลองใช้ เสียงเพลงบำบัด กายสบาย ใจสงบ
4 เมนูคลายเครียด อร่อย ทำง่าย ช่วยจิตใจให้อารมณ์ดี