คอนลาเจน เลือกแบบไหน ให้ได้ผล
คอลลาเจน เป็นอีกหนึ่งไอเท็มของยุคนี้ที่ไม่ว่าวัยไหนก็ต่างให้ความสนใจ เพราะสรรพคุณที่ช่วยทั้งในเรื่องของความสวย ความงาม ความยืดหยุ่นของผิว ไปจนถึงเรื่องของไขข้อ แต่ก็เพราะคุณประโยชน์มากมาย จึงทำให้ต้องเลือกชนิดของคอลลาเจนและส่วนประกอบ เพื่อให้ผลที่ได้ตรงกับที่ต้องการ
ทำไมต้องเสริมคอลลาเจน
คอลลาเจนคือเส้ยใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ยึดเกาะสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยเสริมความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้กับอวัยวะต่างๆ โดยมีอยู่ในผิวหนัง เส้นผม เล็บ กระดูกอ่อน ข้อต่อ รวมไปถึงหลอดเลือด ที่สำคัญคือร่างกายของเราสามารถสร้างขึ้นได้เองอีกด้วย แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็สังเคราะห์คอลลาเจนได้ลดน้อยลง ทำให้เกิดความเหี่ยวย่น ไม่นุ่มเด้ง รวมถึงทำให้เกิดการเสื่อม และอักเสบในกระดูกอ่อน และที่น่าตกใจคือ
ร่างกายผลิตคอลลาเจนน้อยลง เมื่ออายุเพียง 30 ปีเท่านั้น!
เท่ากับว่า เมื่ออายุ 30 ผิวพรรณ และกระดูกอ่อนของเราก็จะเข้าสู่ภาวะร่วงโรย เกิดริ้วรอยอย่างตีนกา ริ้วรอยบนหน้าผากแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงควรเสริมคอลลาเจนเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
สำหรับประเทศไทยนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้เคยแนะนำปริมาณคอลลาเจนที่ควรได้รับต่อวัน สำหรับผู้ที่ไม่แพ้อาหารทะเล หรือสารสกัดจากปลา ว่าควรได้รับ 10,000 mg/day
รู้จักคอลลาเจน
ขนิดของคอลลาเจน
เมื่อมีคอลลาเจนอยู่ในหลายๆ อวัยวะ ซึ่งแต่ละส่วนก็เป็นชนิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นแล้ว หากมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการกินคอลลาเจน ก็ควรเลือกให้ถูกชนิด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ โดยคอลลาเจนมีด้วยกัน 5 ชนิด คือ
คอลลาเจนชนิดที่ 1 (type I) เป็นคอลลาเจนที่พบได้มากที่สุด คิดเป็น 90% ของคอลลาเจนในร่างกาย ช่วยในการเสริมความสร้างความยืดหยุ่นให้กับเนื้อเยื่อ ให้ผิวนุ่มเด้ง ไร้ริ้วรอย และช่วยในการสมาแผล เรียกได้ว่าเป็นคอลลาเจนแห่งความสวย ความงามเลยล่ะค่ะ
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (type II) พบในกระดูกอ่อน เป็นส่วนประกอบของอวัยวะที่มีกระดูกอ่อนๆ เช่น หู จมูก เป็นต้น นอกจากนั้นยังพบมากใน หลอดลม กระดูกซี่โครง ทำหน้าที่ลดความเสื่อมของกระดูกอ่อน และอาการที่เกี่ยวกับข้ออักเสบ พบได้ในกระดูกอ่อน และหมอนรองกระดูก
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (type III) เป็นคอลลาเจนที่มักพบคู่กับคอลลาเจนชนิดที่ 1 คือในบริเวณผิวหนัง นอกจากนั้นยังพบได้ใน ผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
คอลลาเจนชนิดที่ 4 (type IV) เป็นคอลลาเจนที่พบได้ในเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ มีหน้าที่แปลกกว่าคอลลาเจนอื่นๆ คือ ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และเส้นเลือด
คอลลาเจนชนิดที่ 5 (type V) เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ พบในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย และเส้น
ขนาดของคอลลาเจน
นอกจากชนิดคอลลาเจนแล้ว ขนาดของโมเลกุลก็มีความสำคัญในการเลือกซื้อเช่นเดียวกัน เนื่องจากความเล็ก ความใหญ่ของโมเลกุลนี้มีผลต่อการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นแล้ว ก่อนเลือกซื้อจึงต้องเลือกดูเพื่อไม่ให้เป็นการกินคอลลาเจนที่สูญเปล่า
1. Collagen Peptide เป็นคอลลาเจนที่มีขนาดโมเลกุล 3000- 5000 ดาลตัน มีอนุภาคใหญ่
2. Collagen Tripeptide คือเป็นคอลลาเจนที่มีมีขนาดโมเลกุล 500- 1000 ดาลตัน ดูดซึมได้ดีกว่า 3-5 เท่าเมื่อเทียบกับคอลลาเจนทั่วไป
3. Collagen Dipeptide คือเป็นคอลลาเจนขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด 200 ดาลตัน ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีและเร็วที่สุด
เมื่อทราบถึงคุณสมบัติของทั้งชนิด และขนาดโมเลกุลในคอลลาเจนแล้ว ก็จะทำให้เราเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น อย่าง ALLURE COLLAGEN ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ที่เน้นไปทางด้านความสวย ด้วยสโลแกน ปลดปล่อยความสวยในตัวคุณ ด้วยคุณค่าของทั้งคอลลาเจน และส่วนผสมอื่นๆ แต่ก็ยังคงมีคอลลาเจนทั้ง 2 ชนิด ชนิดที่ 1 ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณ ความสวยความงานของร่างกาย และคอลลาเจนชนิดที่ 2 ตัวช่วยในเรื่องข้อเข่าเป็นส่วนประกอบด้วย
สำหรับ ALLURE COLLAGEN เป็นคอลลาเจนที่พิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบตั้งแต่น้ำที่นำมาใช้ ก็ต้องเป็นน้ำจาก แม่นำอิโบะ ในจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีคุณภาพสูง มีธาตุเหล็กต่ำ รวมถึงใช้ความร้อนเพียงครั้งเดียว เพื่อให้โมเลกุลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ถูกทำร้ายน้อยที่สุด และทำให้กลิ่นคาวน้อย จึงดื่มง่ายอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว ในส่วนของคอลลาเจน ALLURE COLLAGEN เลือกใช้คอลลาเจนทั้ง 3 แบบคือ คอลลาเจนเปปไทด์, คอลลาเจน ไตรเปปไทด์ และคอลลาเจนไดเปปไทด์ จึงดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย อีกทั้งยังรวมคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติมากถึง 35 ชนิด เข้าไว้ด้วยกัน
สารสกัดตัวเด่นๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน แต่มีใน ALLURE COLLAGEN มีมากมาย เช่น สารสกัดจากมะเขือเทศสีขาว (PEARL TOMATO) ปกติมะเขือเทศสีแดงก็ว่าประโยชน์สูง แต่มะเขือเทศสีขาวนี้มีดีกว่านั้นอีกค่ะ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย
- ไฟโตอีน (Phytoene)
- ไฟโตฟลูอีน (Phytofluene)
- Colorless carotenoids
ซึ่งสารอาหารสำคัญเหล่านี้ช่วยในด้าน
- ป้องกันการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติในร่างกาย
- ปรับสีผิวให้ขาว กระจ่างใสขึ้น
- ลดการสร้างเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ
- ป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ
- ลดความแห้งกร้านและความหยาบกร้านของผิว
- ทำให้ผิวดูอ่อน เยาวน์ขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี ทับทิมสีขาว ซึ่งมีสารอาหารสำคัญมากกว่าทับทิมสีแดง โดยจะช่วย
- ควบคุมการสร้างเม็ดสี
- ปกป้องเซลล์
- เพิ่มพรีโปรไบโอติกส์ให้กับผิว
- เพิ่มจำนวนโปรไบโอติกส์ ให้กับผิว
- ลดสิว ป้องกันจุลินทรีย์ร้าย
นอกจากนั้นยังมีผลไม้ยอดนิยมของสาวๆ อย่าง สตรอเบอร์รี่สายพันธุ์โทจิโอโตเมะ จากประเทศญี่ปุ่น มีกลิ่นที่หอมแบบเฉพาะของสายพันธุ์โทจิโอโตเมะ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากมีวิตามินซีสูงมาก มี AHA ในปริมาณที่กำลังบำรุงผิวได้พอดี ทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ซึ่งยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงสดใสกว่าวัย
และถ้าเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผิวสวย ที่ขาดไม่ได้คือส่วนผสมที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวอย่างเซราไมด์ ที่ได้จากรำข้าวและจมูกข้าวที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น จึงช่วยทั้งกักเก็บ คืนความชุ่มชื่น และยังช่วยต้านริ้วรอยได้อีกด้วย
ไม่เพียงมีวัตถุดิบแปลกใหม่หายาก แต่วัตถุดิบคลาสสิกมากด้วยคุณประโยชน์ ALLURE COLLAGEN ก็ไม่ทิ้ง ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากเบอร์รี่ 7 ชนิด โคเคนไซน์ คิวเทน ที่ช่วยทั้งในเรื่องความสวย ความงาม ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดีอีกด้วย
ด้วยคุณค่าจากสารสกัดมากมาย จึงเหมือนเป็นการผสานกำลังจากธรรมชาติ ช่วยให้ฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ ชะลอการเกิดริ้วรอย เสริมสร้างคอลลาเจน คืนความชุ่มชื่นลดความแห้ง หยาบ กร้าน ปรับสีผิว เพิ่มพรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกส์ให้กับผิวอีกด้วย