พระนางธัมมทินนาเทวี สตรีผู้ได้รับความเคารพจากรุกขเทวดา
พระเจ้าพรหมทัตทรงเข้าพระทัยผิดคิดว่าสิ่งที่พระองค์บนบานไว้กับรุกขเทวดาได้สัมฤทธิ์ผล จึงจับคนมาบูชายัญ แต่แล้วก็มีสตรีนางหนึ่งช่วยให้ทุกคนพ้นจากการถูกบูชายัญ สตรีนางนั้นคือ พระนางธัมมทินนาเทวี
ครั้งพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงได้ยินเสียงประหลาดในยามวิกาล ทรงตกพระทัยมากจึงโปรดให้ปุโรหิตทำนายว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายหรือไม่ ปุโรหิตเห็นเป็นช่องทางหาลาภสักการะจึงทูลพระองค์ว่า “เป็นลางบอกเหตุว่าจะเกิดภัยขึ้นกับมหาราช แต่วิธีแก้ยังพอมีคือพระองค์ต้องประกอบพิธีบูชายัญด้วยคนและสัตว์อย่างละ 100 ชีวิต”
เมื่อพระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบจึงตรัสโน้มน้าวพระสวามีไม่ให้ทรงประกอบพิธีบูชายัญ เพราะการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นหนทางไปสู่ทุคติภูมิ พระนางทรงชักชวนพระเจ้าปเสนทิโกศลไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาเพื่อทูลถามที่มาของเสียงประหลาดที่แท้จริงว่าเป็นตามที่ปุโรหิตทำนายหรือไม่
พระบรมศาสดาทรงเฉลยว่าเป็นเสียงของสัตว์นรก 3 ตนจากโลหกุมภีนรก สัตว์นรกเหล่านี้ต้องการให้ชนทั้งหลายทราบว่านรกมีอยู่จริง ไม่อยากให้ใครต้องทำอกุศลกรรมอีกเลย จากนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญพระนางมัลลิกาเทวีที่ได้ช่วยเหลือชีวิตผู้คนและสัตว์ทั้งหลายที่จะตกเป็นเหยื่อให้พิธีกรรมนี้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าเมื่อในอดีตชาติ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงจะสังหารชนหมู่มากเพื่อสังเวยรุกขเทวดา แต่มีสตรีนางหนึ่งเตือนสติพระองค์ไว้ ครั้งสมัยพระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระชาติเป็นเจ้าชายแห่งกรุงพาราณสี เจ้าชายได้ตรัสบนบานต่อรุกขเทวดาว่า หากตนได้ครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา จะนำเลือดของพระราชาและพระราชินีจาก 101 เมืองในชมพูทวีปมาถวายเป็นเครื่องสังเวย
วันเวลาผ่านไปพระเจ้ากรุงพาราณสีสวรรคตลง เจ้าชายได้ขึ้นครองราชสมบัติและสถาปนาเป็นพระเจ้าพรหมทัต พระองค์ทรงจำคำตรัสบนบานได้จึงทำสงครามจับพระราชาและพระราชินีทั้ง 101 พระองค์มาบูชายัญ
รุกขเทวดาไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นในบริเวณต้นไทรที่ตนสถิต จึงไปขอความช่วยเหลือจากเทวดาทั้งหลายทั่วจักรวาล แต่ก็ไม่มีเทวดาองค์ใดทำลายพิธีบูชายัญของพระเจ้าพรหมทัตได้ จนกระทั่งท้าวสักกะเทวราชทรงชี้แนะว่า ในบรรดาพระราชาและพระราชินีทั้งหลายในชมพูทวีป มีพระนางธัมมทินนาเทวีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับพระเจ้าพรหมทัตได้
ในขณะที่พระเจ้าพรหมทัตกำลังจะสังหารพระนางธัมมทินนาเทวี รุกขเทวดาได้ปรากฏกายขึ้น พระเจ้าพรหมทัตทรงปีติหลงคิดว่ารุกขเทวดาแสดงตนเพื่อรับเครื่องสังเวย พระราชาตรัสให้พระนางธัมมทินนาเทวีกราบรุกขเทวดา แต่พระนางทรงไม่แสดงความเคารพ รุกขเทวดาทราบว่ามีเพียงพระราชินีพระองค์นี้เท่านั้นที่จะยุติพิธีกรรมอันเลวร้ายนี้ได้ จึงแสดงความเคารพต่อพระนางแทน ทำให้พระเจ้าพรหมทัตกริ้วที่เทวดาที่พระองค์ทรงบูชาต้องแสดงความเคารพต่อคนธรรมดา
พระนางธัมมทินนาเทวีกรรแสง พระเจ้าพรหมทัตตรัสถามว่า “เจ้ากรรแสงด้วยเหตุใด” พระนางตรัสตอบว่า “ไม่อยากให้พระองค์ต้องเป็นเหมือนหม่อมฉัน” พระราชาตรัสถามด้วยความสงสัยว่า “อย่างไรหรือ” พระนางธัมมทินนาเทวีทรงสามารถระลึกอดีตชาติได้ จึงตรัสเรื่องราวในอดีตชาติถวายพระเจ้าพรหมทัตว่า
“หม่อมฉันเคยเกิดเป็นกุลธิดาและได้แต่งงานไปสู่เรือนของสามี และแล้วสหายของสามีมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน ดิฉันต้องทำอาหารเลี้ยงสหายของสามี จึงให้นางทาสีไปซื้อเนื้อที่ตลาด ปรากฏว่าเนื้อหมด ดิฉันจึงต้องฆ่าแม่แพะเพื่อนำเนื้อของมันมาทำอาหาร กรรมที่ดิฉันได้ฆ่าสัตว์ในครั้งนั้น ส่งผลให้ดิฉันต้องตกนรก ถูกไฟนรกเผาไหม้อย่างทุกข์ทรมาน นายนิรยบาลก็ตัดศีรษะของหม่อมฉันครั้งแล้วครั้งเล่าตามจำนวนขนบนตัวของแม่แพะที่หม่อมฉันฆ่า แต่หากพระองค์ทรงสังหารพระราชาและพระราชินีหลายพระองค์ถึงเพียงนี้ พระองค์ทรงต้องได้รับการลงทัณฑ์ในนรกอย่างหนักยิ่งกว่าหม่อมฉัน”
พระเจ้าพรหมทัตถึงกับตกพระทัยในเรื่องที่ได้สดับแล้วตรัสว่า “พระแม่เจ้าได้รับทุกขเวทนาถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเราสังหารชนหมู่มาก คงต้องทุกข์ทรมานกว่าพระแม่เจ้าเป็นเท่าทวี” หลังจากนั้นพระเจ้าพรหมทัตทรงขอขมาพระราชาและพระราชินีทั้งหลาย และทรงส่งพระองค์เหล่านั้นกลับบ้านเมืองอย่างปลอดภัย
ต่อมาพระเจ้าพรหมทัตได้กลับพระชาติมาเกิดเป็นพระเจ้าปเสนทิโกศล ส่วนพระนางมัลลิกาเทวีก็คือพระนางธัมมทินนาเทวีเมื่อในอดีตพระชาติ ส่วนรุกขเทวดาพระองค์นั้นก็คือพระบรมศาสดานั่นเอง
ที่มา :
อรรถกถา ธรรมบท เรื่องบุคคลคนใดคนหนึ่ง
ภาพ :
บทความน่าสนใจ
สุมนา เจ้าหญิงผู้ได้สัมผัสพระนิพพาน
พระนางมัลลิกาเทวี พระราชเทวีผู้เรียนธรรมะโดยเคารพ
ร้องเสียงเหมือนหมูก่อนตาย วิบากกรรมของพ่อค้าขายหมู