ป้องกันกรดไหลย้อน ด้วยการเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
ปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ ซึ่งอัตราของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า กรดไหลย้อนมีสาเหตุมาจากอะไร ชีวจิต ขอแนะนำวิธี ป้องกัน กรดไหลย้อน โดยการหลีกเลี่ยงไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันค่ะ
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
รองศาสตราจารย์ดร.สุจิตรา ทองประดิษฐ์โชติ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสาเหตุของโรคว่า
“สาเหตุหลักของโรคนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง เช่น มีการคลายตัวของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทั้งที่ไม่มีการกลืน หรือเกิดจากความดันในหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่างลดลง ทำให้ไม่สามารถต้านแรงดันในช่องท้องและการบีบตัวของกระเพาะอาหารได้”
“นอกจากนี้ยังพบว่า โรคกรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับความอ้วน โรคเบาหวาน และโรคไส้เลื่อนกระบังลมซึ่งสิ่งที่จะทำให้อาการของโรคกำเริบมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการดำรงชีวิตของแต่ละคน”
3 พฤติกรรมต้องห้าม ทำโรคกำเริบ
สำหรับวิธีการเยียวยาผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ในช่วงแรกคุณหมออาจให้กินยาเพื่อแก้อาการราว 1 – 3 เดือน แต่หลังจากนั้นวิธีป้องกันและรักษาโรคได้ดีที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รองศาสตราจารย์ดร.สุจิตราอธิบายพฤติกรรมต้องห้ามที่ทำให้อาการกำเริบไว้ในบทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน โดยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดังนี้
1. การกิน
การกินเป็นปัญหาสำคัญของผู้มีอาการกรดไหลย้อน รองศาสตราจารย์ดร.สุจิตราแนะนำการกินที่ไม่ถูกต้องไว้ดังนี้
- กินมากไป การกินอาหารปริมาณมากเกินไปในแต่ละมื้อ นอกจากจะทำให้คุณอ้วนแล้ว ภาวะน้ำหนักเกินนี้จะส่งผลให้ความดันในช่องท้องมากขึ้น ทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบมากขึ้น ดังนั้นควรกินอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้งขึ้น
- กินของทอด บรรดาของทอดและอาหารที่ใช้น้ำมันปริมาณมากผัด จะทำให้กระเพาะอาหารเคลื่อนไหวช้าลง ส่งผลให้มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนได้มากขึ้น
- ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และสุรา เครื่องดื่มเหล่านี้นอกจากจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นแล้ว ยังทำให้หูรูดคลายตัวง่ายอีกด้วย
- กินยาแก้ปวดเป็นประจำ เนื่องจากยาแก้ปวดสามารถกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยาแก้ปวดยังขึ้นชื่อลือชาเรื่องกัดกระเพาะอาหารอีกด้วย
- กินยาไม่เป็นเวลา การกินยา เพื่อลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหารหรือเพิ่มการเคลื่อนไหวของอวัยวะในระบบทางเดินอาหารเพื่อกำจัดกรด แม้ช่วยให้เห็นผลการรักษาเร็วขึ้น แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักกินยาเฉพาะเวลาที่อาการกำเริบ ไม่ยอมกินยาตามแพทย์สั่ง ลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง จึงทำให้โรคนี้หายช้า
2. การนอน
คนส่วนใหญ่เมื่อกินอาหารเสร็จแล้วมักเกิดอาการหนังท้องตึง หนังตาหย่อน กินแล้วก็นอนเลยต้องโบกมือลาพฤติกรรมเช่นนี้เสียที เพราะการนอนแผ่หลาหลังกินอิ่มทำให้น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น ทางที่ดีนั่งพักให้อาหารย่อยประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงแล้วจึงนอน จะช่วยให้น้ำย่อยไม่ไหลย้อนขึ้นมาด้านบน
สำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนควรปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น 6-10 นิ้ว แต่ไม่ควรหนุนหมอนสูง เพราะจะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นและกรดไหลย้อนกำเริบ
3. การใช้ชีวิต
การใช้ชีวิตด้านอื่นๆก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคกรดไหลย้อน รองศาสตราจารย์ดร.สุจิตรา สรุปพฤติกรรมก่อโรคไว้ดังนี้
- ไม่ออกกำลังกาย จากที่เกริ่นไว้ว่า กรดไหลย้อนสัมพันธ์กับความอ้วน การไม่ออกกำลังกาย หรือไม่รักษาน้ำหนักตัวให้พอเหมาะ จึงมีโอกาสทำให้อาการกำเริบมากขึ้น
- สูบบุหรี่ เนื่องจากควันบุหรี่จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้น
- ความเครียด อย่างที่หลายคนเคยได้ยินว่า “เครียดลงกระเพาะ” เนื่องจากเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นนั่นเอง
- สวมเสื้อผ้ารัดๆ ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นฟิตเปรี๊ยะ โดยเฉพาะการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณรอบเอวจะเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร ทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับขึ้นมาได้
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากวันไหนมีอาการเรอเหม็นเปรี้ยว แต่ยังไม่มีอาการแสบร้อนกลางอก อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำข้อมูลเรื่องชาสมุนไพรแก้โรคกรดไหลย้อนไว้ในหนังสือ กูไม่แน่ สำนักพิมพ์คลินิกสุขภาพ ดังนี้
- ชามะตูม โดยหั่นมะตูมดิบเป็นแว่น นำไปตากแดดหรืออบ จากนั้นคั่วให้หอมแล้วชงเป็นชาดื่มแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ชาขิง ใช้ขิงแก่ต้มน้ำจนเดือด ดื่มแก้ท้องเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว และลดกรดในกระเพาะอาหาร
การพิชิตโรคกรดไหลย้อนนั้นไม่ยาก เพียงแค่หลีกเลี่ยงไลฟ์สไตล์ก่อโรค รวมถึงดูแลเรื่อง การกินและออกกำลังกายให้เหมาะสม ก็จะช่วยป้องกันโรคนี้ได้แล้วละค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- สูตรเยียวยาโรคกระเพาะจากธรรมชาติ กล้วยดิบผง ชงดื่ม แก้โรคกรดไหลย้อน (มีคลิป)
- 7 วัน 21 เมนูแก้ กรดไหลย้อน
- 8 วิธีแก้ โรคกรดไหลย้อน ทำง่าย ได้ผลจริง
ติดตาม ชีวจิต ในช่องทางต่างๆ ได้ที่