เจาะลึก สาเหตุการเกิดมะเร็ง พันธุกรรม & ปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรม
สาเหตุการเกิดมะเร็ง มาจากอะไร วันนี้เราจะมาเจาะลึกกัน โดยความรู้ทางการแพทย์ที่ผ่านมาทำให้รับรู้และมีความ เข้าใจว่า มะเร็งเป็นโรคทางพันธุกรรม ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์
นายแพทย์ศิต เธียรฐิติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ได้อธิบายกลไกการเกิดโรคมะเร็งว่า เกิดจากร่างกายไม่สามารถควบคุมการแบ่งเซลล์ จนเกิดการแบ่งเซลล์มากผิดปกติ ทำให้เกิดก้อนเนื้องอกที่มีคุณสมบัติรุกรานเนื้อเยื่อปกติของอวัยวะนั้น รวมไปถึงสามารถแพร่กระจายไปอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะนั้น ๆ ไม่สามารถทำงานได้ปกติและเกิดอาการต่าง ๆ ของโรคในอวัยวะนั้น ๆ ขึ้นมา
สาเหตุการเกิดมะเร็ง
คำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือ ทำอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง ทำอย่างไรจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยมะเร็งเอาชนะโรคที่เป็น และทำอย่างไรให้ผู้ป่วยที่ชนะแล้ว ไม่กลับมาเป็นซ้ำ
“การจะเอาชนะโรคมะเร็งต้องอาศัยความรู้ ไม่ใช่ความเชื่อ เราควรรู้ว่ามะเร็งเกิดจากอะไร มีทิศทางการ เติบโตอย่างไร นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะห่างไกลและเอาชนะมะเร็งได้มากขึ้น”
คุณหมอศิตกล่าวว่า ที่ผ่านมาวงการแพทย์เชื่อว่า มะเร็งเกิดจากพันธุกรรม คือการถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ แต่ปัจจุบันเมื่อมีการศึกษาและการวิจัยกว้างขวางขึ้น ก็พบความลับว่า นอกจากปัจจัยทางพันธุกรรมแล้วยังมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากพันธุกรรมที่ทำให้เกิดมะเร็งได้
ชุดข้อมูลพันธุกรรม คือ ชุดข้อมูลรหัสที่ฝังตัวอยู่ในสายดีเอ็นเอของเรา และในแต่ละชุดข้อมูลเรียกว่ายีน ถ้าคนที่มีพันธุกรรมหรือยีนบางอย่างผิดปกติ เมื่อถอดรหัสออกมาอาจพบความผิดปกติของโปรตีน ซึ่งอาจเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ โปรตีนที่ทำหน้าที่ควบคุมภูมิต้านทาน โปรตีนที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบเผาผลาญ หรือโปรตีนที่ควบคุมการล้างพิษ สิ่งเหล่านี้อาจจะมีความบกพร่องจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือมาจากปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรม (Epigenetics)
นอกจากนี้ปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรมหรืออิพิเจเนติกส์ ยังเป็นเสมือนกุญแจที่สามารถเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนหรือชุดพันธุกรรมที่อยู่ในตัวเรา และพบว่าไม่ใช่แค่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังหลายโรค ทั้งเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์
โดยพบว่าโรคเรื้อรังดังกล่าว ปัจจัยทางพันธุกรรม มีผลต่อการเกิดโรคอยู่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ส่วน อีก 90 เปอร์เซ็นต์ เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรม ซึ่งมาจากวิถีชีวิต การกิน การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม และ ความเครียด โดยสิ่งเหล่านี้จะเหนี่ยวนำการเปลี่ยนแปลง หรือการตอบสนองของยีน รวมถึงสมดุลของเชื้อจุริย์ในลำไส้ที่แตกต่างกัน

คุณหมอศิตยกตัวอย่าง สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน กินอาหารเหมือนกัน แต่คนหนึ่งมีวิธีคิดในการกำจัดความเครียดได้ดี ต่างจากอีกคนหนึ่งที่มีความคิดแบบเพอร์เฟ็กชันนิสต์ คือลักษณะนิสัยของคนที่ทำอะไรจะต้องเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ต้องทำทุกอย่างตามขั้นตอน มีมาตรฐานการทำงานที่สูง เข้มงวด เห็นจุดบกพร่องทุกจุดทุกที่ และทุกอย่างต้องออกมาสมบูรณ์แบบเสมอ หรือชอบจับผิดตลอดเวลา เครียดตลอดเวลา พบว่าคน ทั้งสองนี้มีเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่เหมือนกัน
หรือบางคนกินอาหารเหมือนกัน อารมณ์ดีเหมือนกัน แต่คนหนึ่งทำงานกลางวัน ส่วนอีกคนหนึ่งทำงานกลางคืน ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกันเหล่านี้จะสร้างจุลินทรียในลำไส้ที่แตกต่าง และจุลินทรีย์ในลำไส้ที่แตกต่างสัมพันธ์กับการผลิตกุญแจที่ใช้ในการเปิดปิดยีนในลำไส้ที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรม ซึ่งมีผลก่อมะเร็งในอัตราที่สูง
ดังนั้นถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ถึงกลไกการ เกิดมะเร็งจึงพบว่ามาจาก 2 สาเหตุ คือ
1. ปัจจัยทางพันธุกรรมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
โดยบางคนอาจมียีนมะเร็งซ่อนอยู่ บางคนอาจมียีนช่วยขับพิษไม่ดี มียีนก่อการอักเสบง่าย เรียกว่าปัจจัยทางพันธุกรรม โรคทางพันธุกรรม (Genetic Disorders) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติในยีน หรือโครโมโซม ซึ่งสามารถถ่ายทอดภายในครอบครัว จากรุ่นสู่รุ่นได้ และก่อให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายได้ ทำได้เพียงรักษาตามอาการและติดตามผลเป็นระยะเท่านั้น
โรคทางพันธุกรรมมีหลายประเภท โดยอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของยีนเพียงตัวเดียว จำนวนยีนบางตัวหรือโครโมโซมบางคู่มากหรือน้อยกว่าปกติ หรืออาจเกิดจากลักษณะของโครโมโซมที่ผิดปกติ จึงทำให้เกิดอาการของ โรคทางพันธุกรรม ซึ่งอาจมีอาการผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือบางคนอาจมีอาการภายหลังเมื่อโตขึ้น
2. ปัจจัยที่อยู่เหนือพันธุกรรม
ได้แก่ สารพิษ มลพิษในสิ่งแวดล้อม ไลฟ์สไตล์ รูปแบบการใช้ชีวิต เชื้อโรค เชื้อไวรัส ความเครียด สิ่งเหล่านี้จะไปเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีน ทำให้เกิดกระบวนการบาดเจ็บและอักเสบเรื้อรัง เมื่อมีเซลล์ที่อักเสบเรื้อรัง ร่างกายก็พยายามจะผลิตใหม่เพื่อซ่อมแซมตัวเอง แต่การผลิตซ้ำ ๆ ก็ไม่ต่างจากการทำพิมพ์เขียว ย่อมผิดพลาดได้ จึงกลายเป็นเซลล์กลายพันธุ์หรือมะเร็ง
รู้หรือไม่ PM2.5 คือหนึ่งในสารอันตรายก่อมะเร็ง
ข้อมูลจากงานวิจัย พบเรื่องที่น่ากลัวและอยู่ใกล้กับชีวิตของเราทุกคน นั้นคือปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่จัดอยู่ใน Category 1 คือ มีความเสี่ยงสูงต่อการทำให้เกิดมะเร็ง
PM2.5 ไม่ใช่แค่ฝุ่นธรรมดา แต่เป็นสารอันตรายที่ก่อให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย โดยทุกครั้งที่สูดเข้าร่างกายจะกระจายไปตามเส้นเลือด จึงส่งผลต่อทั้งสมอง หัวใจ ไต ปอด ทั่วทั้งร่างกาย
คุณหมอศิตย้ำว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 อยู่ใกล้ตัวเรามากว่าที่คิด เพราะนอกจากจะมีผลกระทบโดยตรงทำให้เกิดมะเร็งปอด ยังมีข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งชนิดอื่นด้วย ทั้งมะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ โดยพบว่าเมื่อร่างกายสูดฝุ่น PM2.5 เข้าไป นอกจากทำให้เกิดการระคายเคืองที่ปอด ยังกระทบไปถึงสมดุลของเชื้อในลำไส้ที่ผิดปกติ จึงเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในลำไส้ได้ และยังสร้างการอักเสบทั่วร่างกาย มีผลต่อเส้นเลือดสมอง หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ก็มีผลต่อทารกในครรภ์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
มะเร็งปอดจาก PM2.5 ใกล้ตัวกว่าที่คิด
หมอวินัย โบเวจา แนะ ภูมิต้านทานปอด ตามธรรมชาติ
ออกกำลังกาย ได้หุ่น ได้ เสริมภูมิคุ้มกัน
ติดตามชีวจิตได้ที่