แกงไทย กับการช่วยป้องกันมะเร็ง
แกงไทย เป็นอาหารที่คนทั่วโลกนิยมกิน เพราะมีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์ และสามารถปรับเปลี่ยนรสชาติให้ถูกปากคนทุกเชื้อชาติได้อีกด้วย
นอกจากความอร่อยแล้ว แกงไทยยังเป็นอาหารสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมของเครื่องเทศ สมุนไพร เช่น หัวหอม กระเทียม พริก ตะไคร้ ข่า ใบโหระพา ลูกผักชี ยี่หร่า ใบกระวาน อบเชย ผักสด ผลไม้สารพัดชนิด
นึกแล้วเปรี้ยวปาก อยากชวนคุณผู้อ่านตั้งวงกินข้าวกล้องกับแกงไทยกันสักมื้อ แต่หากใครยังใจแข็งไม่นึกอยากชิม เห็นทีต้องออกโรงด้วยการบอกสรรพคุณแสนวิเศษของแกงไทยที่สามารถต้านมะเร็งหลายชนิดได้อย่างน่าอัศจรรย์
แกงเลียง กับการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
หลายคนรู้จักแกงเลียงในฐานะอาหารสำหรับแม่ลูกอ่อน เพราะมีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนม แต่แท้จริงแล้วแกงเลียงนั้นเหมาะสำหรับทุกคน เพราะมีคุณสมบัติต้านโรคมะเร็ง
รองศาสตราจารย์ ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล อาจารย์ประจำฝ่ายเคมีทางอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ทำการวิจัยถึงประโยชน์ของแกงไทยในการป้องกันมะเร็ง โดยทดลองให้หนูสองกลุ่มกินอาหารที่แตกต่างกัน กลุ่มแรกกินอาหารปกติ ส่วนอีกกลุ่มกินอาหารปกติร่วมกับแกงเลียง โดยระหว่างนี้หนูทั้งสองกลุ่มได้รับสารก่อมะเร็งร่วมด้วย
หลัง 6 สัปดาห์พบว่า ตับของหนูที่ได้กินแกงเลียงสามารถผลิตเอนไซม์กำจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยลดการเปลี่ยนแปลงพยาธิสภาพของผนังลำไส้ ซึ่งเป็นขั้นตอนเริ่มต้นก่อนเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
นักวิจัยจึงเชื่อว่า แกงเลียง สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในคนได้เช่นกัน
คงไม่แปลกถ้าจะเรียกแกงเลียงว่าอาหารต้านมะเร็ง เพราะส่วนผสมหลักในแกงเลียงคือผักสารพัดชนิด เช่น ฟักทอง บวบ ถั่วฝักยาว ยอดมะพร้าว ตำลึง ใบแมงลัก เห็ดชนิดต่าง ผักใบเขียวชนิดใดก็ได้ตามชอบ
ดังนั้น แกงเลียงจึงมีใยอาหารสูง ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง เมื่อร่างกายไม่มีสารพิษตกค้างในลำไส้ โอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่จึงลดลง
ยิ่งกว่านั้น รองศาสตราจารย์ ดร.สมศรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แกงเลียงมีไขมันต่ำ ทั้งยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต้านมะเร็ง เช่น ฟลาโวนอยด์(Flavonoids) และแคโรทีนอยด์(Carotenoids) ซึ่งพบในพืชผักสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมนั่นเอง
แกงส้ม แกงป่า แกงเหลือง แกงเลียง สู้มะเร็งเม็ดเลือดขาว
เมื่อไม่ตามใจเซลล์มะเร็ง โดยการงดกินอาหารหวานมันเปลี่ยนมากินแกงไทยแทน พบว่า เซลล์มะเร็งพร้อมใจตายแบบไม่ต้องออกแรง
รองศาสตราจารย์ ดร.สมศรีและทีมวิจัย ทดลองหยดน้ำแกง 4 ชนิด ได้แก่ น้ำแกงส้ม น้ำแกงป่า น้ำแกงเหลือง และน้ำแกงเลียง ให้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในหลอดทดลองเปรียบเทียบกับยาฆ่าเซลล์มะเร็ง พบว่า น้ำแกง 4 ชนิดช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้จริง โดยเรียงตามประสิทธิภาพในการฆ่าเซลล์มะเร็งจากมากไปหาน้อย คือ แกงเลียง แกงป่า แกงส้ม และแกงเหลือง
โดยพบว่า น้ำแกงสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 40 – 50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ยาสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 70 – 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากน้ำพริกแกงของแกงทั้ง 4 ชนิดอุดมไปด้วยสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทางยาทั้งมีสารต้านมะเร็งและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยส่วนผสมหลักในน้ำพริกแกง คือ พริกสดหรือพริกแห้ง กระเทียม หอมเล็ก กะปิ เกลือ นอกเหนือจากนั้นคือ สมุนไพรที่ทำให้แกงแต่ละชนิดมีกลิ่นรสเฉพาะตัว เช่น น้ำพริกแกงเลียงต้องใส่พริกชี้ฟ้า เม็ดพริกไทยกระชาย กุ้งแห้งเพิ่ม
น้ำพริกแกงส้มต้องใส่กุ้งสดตำลงไป น้ำพริกแกงป่าจะครบเครื่องต้องเพิ่มผิวมะกรูด ข่าแก่ ส่วนน้ำพริกแกงเหลืองใช้พริกสด กระเทียม หอมเล็ก กะปิ เกลือ เช่นเดิม ที่ต้องใส่เพิ่มคือตะไคร้และขมิ้น
พริก ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ขาดไม่ได้ในน้ำพริกแกงนั้นมีสารแคปไซซิน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเซลล์มะเร็ง โดยนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีมัทราส ประเทศอินเดีย(The Indian Institute of Technology Madras) พบว่า สารแคปไซซินสามารถยึดเกาะผิวของเซลล์มะเร็งและแทรกซึมเข้าไปได้ถึงเยื่อหุ้มเซลล์ ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์มะเร็งเกิดการเปลี่ยนแปลงและหากมีปริมาณมากพออาจมีผลทำลายเซลล์มะเร็ง
กระเทียมก็เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำพริกแกง มีงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า กระเทียมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด ล่าสุดมีรายงานจาก Journal of Nutrition ระบุว่า ไม่ว่ากระเทียมสดหรือกระเทียมที่ผ่านความร้อน หากกินเป็นประจำมีผลช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ส่วนหอมเล็กก็สำคัญไม่แพ้กัน ข้อมูลจากวารสาร Archives of Medical Science พบว่า สารสกัดจากหอมเล็กมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านการเจริญของเซลล์มะเร็ง ที่สำคัญคือไม่ทำลายเซลล์ปกติที่อยู่ใกล้เคียง
สูตรแกงเลียงกุ้งสด สำหรับ 3 - 4 ที่
ส่วนผสม
กุ้งทะเล 15 ตัว ฟักทอง บวบ ตำลึง ใบแมงลัก หั่นชิ้นพอคำรวมกัน 2 ถ้วย น้ำเปล่า 4 ถ้วย น้ำปลา น้ำตาลไม่ขัดขาว (ปริมาณเล็กน้อย)
ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง พริกชี้ฟ้าเผา 1 เม็ด เม็ดพริกไทยขาว 3 เม็ด หอมเล็กเผา 1 หัว กะปิเผา ¼ ช้อนโต๊ะ
กระชายซอย 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 2 กลีบ กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เตรียมน้ำพริกแกงโดยโขลกพริกไทยขาวให้ละเอียดจากนั้นทยอยใส่ส่วนผสมที่เหลือโขลกให้เข้ากัน พักไว้จากนั้นใส่น้ำลงในหม้อ ต้มจนเดือด ละลายพริกแกงลงในน้ำ ใส่กุ้ง ฟักทอง และบวบลงไป ปรุงรสตามชอบจากนั้นใส่ใบตำลึงและใบแมงลัก ปิดไฟ
แกงกะหรี่ ช่วยต้านมะเร็งปากมดลูก
แกงกะหรี่ แกงขมิ้น แกงเหลือง และแกงไตปลา จะอร่อยครบรสไม่ได้หากขาด “ขมิ้น” สมุนไพรชูโรงที่ช่วยให้อาหารมีสีสวยกลิ่นหอม และรสชาติอร่อยอย่างมีเอกลักษณ์
ขมิ้นสีเหลืองอุดมไปด้วยสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ไม่เพียงมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ วารสาร Ecancermedicalscience ยังพบว่า สามารถต้านเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus หรือ HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากวารสาร Clinical Cancer Research ระบุว่า สารเคอร์คูมินในขมิ้นสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งในผู้ป่วยโรคมะเร็งหู คอ จมูก ได้อีกด้วย
แกงไทยอุดมด้วยสมุนไพรต้านสารพัดโรคมะเร็งขนาดนี้เห็นทีต้องลองให้ครบ กินกับข้าวกล้องร้อนๆ แกล้มผักสดๆ รับรองอร่อยถึงใจ แข็งแรง อ่อนวัยตลอดกาล
สูตรแกงกะหรี่เต้าหู้ปลา สำหรับ 3 - 4 ที่
ส่วนผสม
เต้าหู้ปลาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ¼ ถ้วย กุ้งแกะเปลือกชักเส้นดำออก 15 ตัว หอมหัวใหญ่ 1 หัว มันฝรั่งปอกเปลือกหั่นชิ้นพอคำ 2 หัว
แครอตปอกเปลือกหั่นชิ้นพอคำ 1 หัว น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ (ประมาณ 700 กรัม) 1 ซอง น้ำเปล่า 3 ถ้วย
วิธีทำ
ตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไป ผัดหอมหัวใหญ่พอสุกแล้วใส่แครอตและมันฝรั่งลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่เต้าหู้ปลาและกุ้ง ผัดพอสุก เติมน้ำเปล่า เคี่ยวจนผักนุ่มจึงเทผงกะหรี่ลงไป คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อจนส่วนผสมเหนียวข้นตักขึ้นพักไว้ กินกับข้าวกล้องร้อนๆ หรือเส้นสปาเกตตีโฮลวีตก็อร่อย
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 430
บทความอื่นที่น่าสนใจ
แนะวิธีจับคู่ สมุนไพรรักษาโรค บำรุงเลือด ป้องกันไขมันพอกตับ
เทคนิคใกล้ตัวช่วย โกร๊ธฮอร์โมน หลั่ง ควรทำควบคู่ออกกำลังกาย
เดินเร็ว ช่วยป้องกันกระดูกเสื่อมได้จริง
มหัศจรรย์แห่ง การเดิน แรงกระแทกต่ำ ทำได้ทุกคน
ติดตามชีวจิตได้ที่
Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสาชีวจิต