เตรียมพร้อมรับมือกับวัยเลข 4 แบบฉบับสาวมั่นสุดเก่งอย่าง กาละแมร์ – พัชรศรี
คุณ กาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนเก่ง มักมีเรื่องชิคๆ เกร๋ๆ และไลฟ์สไตล์สุดชิลล์ที่แฝงวิธีคิดดีๆ มาฝากเราเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน
“จะอยู่อย่างไรให้เปี่ยมสุข แม้บางคนจะกังวลอายุเข้าสู่เลข 4”
ไปฟังเรื่องนี้จากเธอพร้อมกันค่ะ
…
เมื่อปีที่แล้ว แมร์เคยพูดถึงเรื่องวัย เรื่องสังขาร ที่พอย่างเข้าเลขสี่แล้ว รู้สึกอย่างไรกับสิ่งต่างๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอายุ รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มาถึงวันนี้ก็ขอยืนยันคำเดิมว่าไม่เคยวิตกเรื่องเหล่านั้นเลย เพราะตั้งแต่เราหันมาดูแลตัวเอง ร่างกายก็พร้อมจะตอบสนองไลฟ์สไตล์ต่างๆ ได้ดีกว่าตอนสาวๆ เสียอีก
รับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ถึงอย่างไร เมื่ออายุมากขึ้น ตัวเราก็ต้องมีเรื่องให้คิด ให้ตัดสินใจมากขึ้นตามไปด้วย หากถามว่ากลัวอะไรในวัยนี้ คงตอบว่ากลัวจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่เต็มที่ และยังทำมันได้ไม่ดีที่สุด
โดยเฉพาะแมร์ที่เป็นกำลังหลักของครอบครัว ดังนั้น แมร์คิดว่าการดูแลตัวเองให้แข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่เราที่อายุมากขึ้น พ่อแม่ของเราก็อายุมากขึ้นไปด้วย การที่เราไม่เจ็บป่วย ไม่ทำให้พวกท่านเป็นห่วง และคอยดูแล สนับสนุนท่านในเรื่องต่างๆ เท่านี้ก็ช่วยให้ทั้งพ่อแม่และเรา ผ่านช่วงวัยดังกล่าวไปได้อย่างราบรื่น
โชคดีที่พ่อแม่ของแมร์เป็นคนดูแลสุขภาพเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เราจึงใช้เวลาอยู่กับท่านให้มาก และการที่เราได้ศึกษาธรรมะ ทำให้แมร์เข้าใจในกฎของธรรมชาติ ตระหนักถึงความไม่จีรังยั่งยืน คนรอบข้างเรา วันนี้เขาอยู่กับเรา วันหน้าเขาก็ต้องจากเราไป หรืออาจเป็นเราที่จากเขาไป จึงควรทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และอยู่กับปัจจุบัน ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกาลเวลาและธรรมชาติ
ชีวิตของเรา จริงๆ แล้วไม่ควรกลัว สังขาร เพราะมันคือสิ่งที่ควรเป็นไป ไม่ใช่ยื้อหรือฉุดรั้งไว้ ทุกครั้งที่ส่องกระจก พอได้เห็นริ้วรอย หรือผิวหนังที่เปลี่ยนไป กลับรู้สึกชอบนะ เพราะมันแสดงถึงการเติบโต การได้ข้ามผ่านอุปสรรคและเข้าใจโลกมากขึ้น ที่ทำได้คือการดูแลตัวเอง กินอาหารดีๆ ออกกำลังกาย คงความกระฉับกระเฉงเอาไว้ เท่านี้ก็มีความสุขกับวัยสี่สิบได้เต็มที่
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
หันมาสนใจ “ภายใน” กันบ้าง
ตอนยังอายุน้อยๆ แมร์แทบไม่ใส่ใจความคิดของตัวเองเลย เผลอคิดร้าย คิดไม่ดี และทำหลายสิ่งหลายอย่างไปโดยไม่รู้ตัว เรียกง่ายๆ ว่าขาดสติโดยสิ้นเชิง แต่ในตอนนี้ หลังจากศึกษาธรรมะ แมร์ได้อยู่กับตัวเอง มองและพิจารณาตัวเองมากขึ้น ทำให้เรารู้เท่าทันจิตใจก่อนที่จะลงมือทำอะไร นี่แหละ คือการมีสติ
ทริคเล็กๆ น้อยๆ ของการเติบโตทั้งกายใจ คือการใช้สติปรับเปลี่ยนวิธีคิด และพยายามมองหาความสุขให้ตัวเองแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ยกตัวอย่าง เวลาแมร์ขับรถหลงทาง เมื่อก่อนจะหงุดหงิด คิดแต่ว่าเสียเวลา ขัดอกขัดใจไปหมด แต่ลองคิดกลับกันดูซิ เราได้รู้จักเส้นทางใหม่ๆ เจอร้านอาหารใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ดีจะตาย
หรือเวลาคบกับใครแล้วไม่เป็นดังหวัง ต้องเลิกรากัน หลายคนอาจรู้สึกแย่กับตัวเอง เสียอกเสียใจจนไม่เป็นอันทำอะไร พอตั้งสติได้ขอให้คิดไว้ว่า การที่เราได้เลิกกับคนที่ไม่ใช่สำหรับเรา มันดีนะ มันคือการเปิดโอกาสให้เราเข้าใกล้คนที่ใช่เข้าไปอีกก้าว คิดได้แบบนี้ เราต้องรู้สึก “ขอบคุณ” เสียอีก
หากใครเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ให้มองว่า ความเจ็บป่วยนั้นเป็นสัญญาณเตือน ให้เราหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ยิ่งต้องเจอกับปัญหาสุขภาพมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสในการระวังตัว และใส่ใจวิถีชีวิตของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าให้สรุป วัยสี่สิบของแมร์ ไม่ใช่ข้อจำกัดในชีวิตเลย เพราะเป็นช่วงที่แมร์รู้จักพัฒนาศักยภาพการทำงาน ที่สำคัญคือศักยภาพของจิตใจ มีความมั่นคงทางฐานะการเงิน เผลอๆ สิ่งที่มีทั้งหมดทำให้แมร์ไม่หยุดคิดถึงแต่ตนเอง แต่คิดเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่น อยากช่วยเหลือ แบ่งปัน และเห็นประโยชน์แก่สังคมและส่วนรวม
ใครว่าเลขสี่น่ากลัว ขอเถียงเลยว่าไม่จริง มันเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากๆ หากเรารู้จักคิด รู้จักมอง รู้หน้าที่ และทำทุกวันของเราให้ดีที่สุด รับรองว่าจะรู้สึกสนุกกับวัยนี้เสียด้วยซ้ำ แล้วเจอกันปักษ์หน้าค่ะ
ข้อมูลจากคอลัมน์ Brand Ambassador Says โดย พัชรศรี เบญจมาศ
เรียบเรียงโดย สุนิสา สมคิด นิตยสารชีวจิต ฉบับ 440
