4 Steps ยืดหลัง และเอว กระตุ้นอวัยวะช่องท้อง

ลุกขึ้นมา ยืดหลัง และเอว กันเถอะ เพราะปัญหาหนึ่งที่หนีไม่พ้นของหนุ่มสาววัยทำงานก็คือ อาการปวดหลัง เมื่อยเอว ที่เป็นหนึ่งในอาการฮิตของออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเกิดจากการนั่งทำงานนาน ๆ จนเกิดแรงกดทับสะสม

การยืดเส้นยืดสายช่วงหลังและเอวบ้าง ก็จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าปวดเมื่อยเหล่านี้ได้ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่ออวัยวะในช่องท้องที่จะได้ขยับเขยื้อน ช่วยให้ระบบในช่องท้องทำงานดีขึ้นด้วย

1. นอนราบ วางมือไว้ข้างลำตัว หายใจเข้า เหยียดแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ หายใจออก ยืดแขนขึ้น กดปลายเท้าลง ทำซ้ำ 2 – 3 ครั้ง
2. นอนราบ กางแขนทั้งสองข้างออกด้านลำตัว คว่ำฝ่ามือลง หายใจเข้า ชันเข่าขึ้นให้เท้าลอยจากพื้น หายใจออก กดเข่าลงทางขวาและวางลงกับพื้นให้ชิดหน้าอกด้านขวา หันหน้ามองไปทางซ้ายมือ หายใจเข้าพร้อมยกเข่าขึ้น หายใจออก วางเข่าลงทางซ้ายให้ชิดหน้าอกด้านซ้าย หันหน้ามองไปทางขวา ทำซ้ำ 2 – 3 ครั้ง
3. นอนราบ หายใจเข้า ยกเข่าขวาเข้ามากอดชิดลำตัว หายใจออก ผ่อนลมออกจากท้องให้หมด พร้อมกับยกศีรษะขึ้นชิดเข่ากลั้นลมหายใจค้างไว้ 2 – 3 วินาที ลดเข่าลง ทำซ้ำโดยสลับเป็นกอดเข่าซ้าย
4. หายใจเข้า กอดเข่าทั้งสองข้างหลวม ๆ หายใจออก ผ่อนลมหายใจออกจากท้องให้หมดพร้อมกับยกศีรษะขึ้นชิดเข่า กลั้นลมหายใจค้างไว้ 2 – 3 วินาที ลดเข่าทั้งสองข้างลง

สำหรับชาวออฟฟิศ นอกจากจะปวดหลัง ปวดเอวแล้ว ยังอีกอวัยวะอย่าง “มือ” ที่การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ปวดนิ้วมือและฝ่ามือได้

ท่าบริหารข้อมือ เพื่อคนใช้คอม จับเมาส์นาน ๆ

“มือ” เป็นอวัยวะที่ไม่ใหญ่โต แต่ต้องทำงานหนักสารพัด ดังนั้นมาดูแลมือตามคำแนะนำของวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา กันดีกว่า ด้วย ท่าบริหารข้อมือ ฝ่ามือ และนิ้ว 3 ท่าต่อไปนี้เลย

1. ท่ายืดกล้ามเนื้อข้อมือ ยืดมือหนึ่งไปข้างหน้าแขนตึง ปล่อยนิ้วมือตามสบาย จากนั้นใช้ฝ่ามืออีกข้างวางบนหลังมือ แล้วออกแรงดันเข้าหาตัว ค่อยๆ เพิ่มแรงจนรู้สึกตึง จากนั้นทำสลับข้าง

2. ท่าดึงกล้ามเนื้อข้อต่อ ยืดมือไปในท่าเดียวกับท่าแรก จากนั้นยกมือตั้งฉาก ใช้ฝ่ามืออีกข้างวางลงบนอุ้งมือที่ตั้งฉาก แล้วออกแรงดันเข้าหาตัว ค่อยๆ เพิ่มแรงจนรู้สึกตึง จากนั้นทำสลับข้าง

3. ออกแรงต้านบริหารมือและนิ้ว เริ่มจากวางฝ่ามือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ ใช้มืออีกข้างออกแรงกดลงบนมือที่ทาบโต๊ะ โดยมือที่ทาบโต๊ะอยู่ก็ต้านโดยการพยายามดึงฝ่ามือขึ้นทำอยู่ชั่วอึดใจ จากนั้นสลับข้าง

สำหรับผู้ที่เบื่อการบริหารกาย และตัดสินใจมุ่งตรงสู่ร้านนวด เรามีคำแนะนำก่อนที่จะเริ่มทิ้งตัวให้เหล่าหมอนวดมาบีบเค้นคลายอาการออฟฟิศซินโดรมมาบอก

เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจ นวดแก้ออฟฟิศซินโดรม

การนวดแก้อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอีกหนึ่งการรักษาที่ประสบความสำเร็จวิธีหนึ่ง เพราะทำให้เกิดการยืดเหยียดและคลายกล้ามเนื้อ ทั้งยังช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ระดับความเครียดและความเจ็บปวดจึงบรรเทาเบาบางลง

แต่ใช่ว่าทุกคนจะนวดได้ เพราะฉะนั้นเรามาดูข้อห้ามที่ควรระวังกันหน่อยคะ

1. มีความดันโลหิตสูงซึ่งควบคุมไม่ได้

โดยดูค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท และค่าความดันโลหิต ขณะหัวใจคลายตัวมากกว่า 100 มิลลิเมตรปรอทหรือไม่ เนื่องจากขณะบีบนวดเพื่อรักษา

จะเกิดการไหลเวียนเลือดมากขึ้น จึงทำให้ค่าความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นได้ อาจมีอาการหน้ามืดวิงเวียนตามมา และในขณะที่บีบนวดแบบผ่อนคลาย ความดันโลหิตจะลดลง ซึ่งอาจจะทำให้คนที่มีระดับความดันโลหิตสูงมานานไม่ชินกับความดันโลหิตที่ลดลง จนเกิดอาการเวียนศีรษะได้เช่นกัน

2. มีบาดแผลตามร่างกายหรือมีแผลเรื้อรัง

เพราะการนวดอาจเกิดการอักเสบ ทำให้แผลรื้อรังหายช้า

3. มีการอักเสบในบริเวณที่นวด

อาการอักเสบที่สังเกตได้ คือ มีอาการปวด บวม แดง ร้อน เพราะการนวดจะทำให้เลือดไหลเวียนไปบริเวณนั้นมากขึ้น และอาจจะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นได้

4. มีภาวะเลือดออกง่ายหรือเลือดแข็งตัวช้า

เช่น ผู้ป่วยโรคฮิโมพิเลีย หรือผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยา warfarin เพราะการนวดอาจจะทำให้เกิดเลือดออกในกล้ามเนื้อ ซึ่งจะหยุดได้ยากกว่าเลือดที่ออกบริเวณผิวหนัง

เพราะไม่สามารถกดให้หยุดได้ นอกจากนี้กล้ามเนื้อเป็นบริเวณที่กว้างมาก เลือดจึงสามารถออกได้ในปริมาณมาก