โยคะฟลาย ฝึกได้ง่าย ลดหุ่น เสริมเฟิร์ม ประโยชน์เต็ม
โยคะฟลาย ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วนะคะ ถ้าคุณเคยฝึกโยคะ จะเห็นว่าโยคะมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นหัตถโยคะ(Hatha Yoga) ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของโยคะทั้งหมด,โยคะร้อน(Hot Yoga) จะฝึกที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส, ไอเยนการ์โยคะ(Iyengar Yoga) เป็นโยคะที่มีอุปกรณ์ หรือโยคะอื่นๆ อีกมากมาย และใหม่ล่าสุดที่กําลังมาแรงอยู่ในตอนนี้คือ โยคะแบบห้อยโหน หรือที่เราได้ยินในชื่อของแอนตี้ กราวิตี้ (Anti-gravity Yoga) และโยคะฟลาย (Yoga Fly) หรือโยคะเปล ซึ่งผู้เขียนขอเรียกว่า “โยคะผ้าแบบห้อยโหน”
What it is
คือการออกกําลังกายที่ได้นําหลักโยคะ พิลาทีส การเต้น และเทคนิคกายกรรมมาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยใช้เปลผ้า(Hammock) ซึ่งทํามาจากผ้าเนื้อดี โดยผูกปลายผ้าทั้งสองข้างไว้บนเพดานเหมือนกับชิงช้า เพื่อช่วยให้ผู้ฝึกโยคะได้รับประสบการณ์ใหม่และปรับร่างกายตามหลักฟิสิกส์ โดยเปลผ้าจะช่วยรองรับน้ําหนักของร่างกายและช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวท่าทางยากๆ ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
โยคะผ้าแบบห้อยโหนให้ความรู้สึกสนุกเสมือนตอนเล่นชิงช้าตามสนามเด็กเล่น หรือปีนป่ายโดยเป็นอิสระจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลก
Who Invented
ผู้เขียนได้ข้อมูลมาจาก วิงส์ แอเรียล โยคะ คลับ (Wings Aerial Yoga Club) ว่า โยคะแบบนี้มาจากโยคะตามหลักต้านแรงโน้มถ่วง ซึ่งคิดค้นโดย คริสโตเฟอร์ แฮร์ริสัน(Christopher Harrison) ชาวอเมริกันใน ปี ค.ศ. 1990 ที่เขาเป็นนักยิมนาสติก นักเต้นบรอดเวย์ นักแสดงที่ใช้ผ้าห้อยโหนตัวกลางอากาศ และยังฝึกโยคะอย่างจริงจังด้วย จึงนําความคิดและประสบการณ์ที่เคยมีมายาวนานผสมผสานกัน ประยุกต์เป็นโยคะผ้าแบบห้อยโหน
How Safe
เพราะการออกกําลังกายประเภทนี้เกิดมานานกว่า 22 ปี คริสโตเฟอร์ แฮร์ริสัน ให้ทีมแสดงของเขาใช้ผ้าแสดงกายกรรมกลางอากาศสูงเหนือพื้นดิน ตั้งแต่ 40-500 ฟุต โดยโครงสร้างอาคารได้รับการออกแบบและสร้างด้วยทีมงาน ที่เป็นทั้งวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกําลังกายมืออาชีพ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรงของอุปกรณ์ที่ยึดติดกับเพดานหรือคาน ส่วนผ้าที่ใช้รองรับตัวเราชนิดนี้สามารถรับน้ําหนักได้มากถึง 500 กิโลกรัม จึงรับน้ําหนักของตัวคนได้สบายๆ ส่วนเรื่องท่าทางผู้ฝึกใหม่ไม่ต้องกังวลว่าจะทําไม่ได้ เพราะมีการแบ่งระดับการฝึก ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานที่นั้นๆ เช่น 5-10 ครั้งแรกให้อยู่ระดับที่ 1 เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับผ้า และสามารถปรับระดับของผ้าให้เหมาะสมกับตัวเอง เทคนิคการขึ้น-ลงจากเปลผ้า และท่าเบื้องต้น ฝึกครั้งละประมาณ 1-1.15 ชั่วโมง แล้วจึงขึ้นสู่ระดับที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
How Benefit+
•ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพของร่างกายด้วยวิธีที่สนุก น่าสนใจ และแปลกใหม่
•ช่วยสร้างความแข็งแรงและกระชับกล้ามเนื้อให้เข้ารูปสวยงาม
•ช่วยเสริมทักษะการใช้ร่างกาย การทํางานร่วมกันของส่วนต่างๆ ในร่างกายให้มากขึ้น และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย
•ช่วยให้สามารถฝึกโยคะท่ายากๆ โดยถูกวิธี ไม่เกิดอาการบาดเจ็บที่หลังหรือคอ
•ช่วยให้สามารถฝึกท่าโยคะได้อย่างถูกต้องและอยู่ในท่านั้นได้นานขึ้น
• ทําให้เราได้รับความรู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กอีกครั้งและชะลอวัย(เมื่อเรามีความสุขกับการฝึกสารเอนดอร์ฟินจะหลั่ง)
•ช่วยยืดและลดแรงกดดันในข้อต่อต่างๆ และกระดูกสันหลัง
The Beginner
ผู้ฝึกใหม่ควรสอบถามรายละเอียดว่าตนเองสามารถฝึกได้ หรือไม่ หากฝึกได้เราควรเตรียมตัวทั่วๆ ไปคือ
-สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแบบแนบตัว ไม่มีซิป หรือกระดุมทุกชนิด
-ไม่สวมเครื่องประดับทุกชนิด
-ไม่ควรกินอาหารหนักก่อนเข้าเรียนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
-ไม่ควรไว้เล็บยาวหรือต่อเล็บ เพราะจะทําให้กําผ้าไม่ถนัดจึงควรตัดเล็บ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโยคะผ้าแบบห้อยโหนมีการฝึกท่ากลับหัวและเท้าชี้สู่อากาศ จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยหรือมีอาการ ดังต่อไปนี้
1.กําลังตั้งครรภ์
2.เป็นโรคหัวใจ
3.เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะที่ไหล่ ตา หลัง สะโพก มือ หรือข้อมือ
4.มีความดันโลหิตสูงหรือต่ํากว่าระดับปกติ
5.เป็นโรคต้อหิน หรือต้อกระจก
6.หลังรับการฉีดโบท็อกซ์ในช่วงเวลา 6 ชั่วโมง
7.เด็กอายุต่ํากว่า 15 ปี เพราะยังไม่สามารถทรงตัวกลางอากาศได้ดีพอ
8.ผู้สูงอายุ (ขึ้นอยู่กับแต่ละท่าน หากออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ก็สามารถทดลองในคลาสง่ายๆ ก่อนได้ หรือโทร.ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ณ สถานที่นั้นก่อน)
โยคะผ้าแบบห้อยโหนเป็นการออกกําลังกายกลางอากาศ เราจึงควรเคร่งครัดในการฝึกครั้งแรกๆ และทุกครั้งที่ฝึกเราสามารถสนุกได้ แต่ไม่ควรคึกคะนอง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน มีความสุขกับการออกกําลังกายทุกคนนะคะ
บทความอื่นที่น่าสนใจ
โยคะเผาผลาญไขมัน ป้องกันความหิว
ประสบการณ์แก้ หมอนรองกระดูกเสื่อม ด้วยท่าโยคะ อย่างง่าย