ข้าวหอมมะลิโลกเมืองร้อยเอ็ดปี 61 ยกระดับสู่ Rice Expo
ข้าวหอมมะลิ ที่อร่อยที่สุดในโลกจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ ต้องที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพราะการันตีรางวัลชนะเลิศระดับโลก 2 ปีซ้อนเลยทีเดียว ข้าวหอมมะลิที่อร่อยต้องที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด
ข้าวหอมมะลิแห่งทุ่งกุลาร้องไห้
ข้าวหอมมะลิ ร้อยเอ็ด ได้ชื่อว่า หอม-เรียวยาว-ขาวนุ่ม นั้น เป็นอย่างไร
ยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด คือการตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางในการผลิตข้าวหอมมะลิ เพราะทราบกันดีว่าข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุด อร่อยที่สุดต้องปลูกที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งอยู่ในเขต 5 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ และยโสธร โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่มากที่สุดร้อยละ 46.8 กว่า 986,000 ไร่ ดังนั้นจึงเสมือนเป็นศูนย์กลาง และยังผลิตข้าวคุณภาพดีมีรางวัลการันตีชนะเลิศระดับโลก 2 ปีซ้อน
ส่วนในเชิงยุทธศาสตร์นั้น ทางจังหวัดร้อยเอ็ดจึงมีความพยายามในการเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิให้มากขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 หรือให้มากกว่าปัจจุบันที่เกษตรกรทำได้ 442 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องสภาพพื้นที่ ทั้งน้ำ อากาศ แสงแดด ทำให้การปลูกข้าวหอมมะลิได้เพียงปีละครั้ง ผลผลิตต่อปีจึงได้น้อย และหากขายผลผลิตเกษตรกรก็จะได้ราคาตามตลาด รายได้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิตและปัจจัยทางธรรมชาติ ดังนั้นจึงต้องเกิดการแปรรูป ใช้นวัตกรรมนำการผลิต
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า แนวคิดในการจัดงานเทศกาล ข้าวหอมมะลิ โลกครั้งที่ 19 คือ “การตลาดและนวัตกรรมนำการผลิต” เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของจังหวัดร้อยเอ็ดในการเป็นเมืองหลวงข้าวหอมมะลิโลก และยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยนวัตกรรมในการลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตด้วยการแปรรูปเป็นสินค้าต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งอาหารและเวชสำอาง อันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดมั่นคงยิ่งขึ้น
ยกระดับนวตกรรมข้าวหอมมะลิ
ทางด้าน นายสมเกียรติ ชัยคณารักษ์กูล ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ในรอบการผลิตที่ผ่านมา พบว่าตลาดข้าวหอมมะลิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท มีพื้นที่ปลูกประมาณ 26 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 9-10 ล้านตันต่อปี คาดว่าในปีนี้ตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันยกระดับผลผลิต ข้าวหอมมะลิ ให้มีมูลค่าสูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต อย่างการนำข้าวหอมมะลิเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดร้อยเอ็ดก็มีโครงการพัฒนาคุณภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงครบวงจร จนเกิดผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวหอมมะลิแล้วถึง 10 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน อาทิ พาวเวอร์ บาร์, แป้งเค้กกึ่งสำเร็จรูป, ไรซ์แครกเกอร์, เครื่องดื่มจากใบข้าว เป็นต้น
“เราต้องยกระดับข้าวหอมมะลิ จากผลผลิตชุมชน สร้างให้เป็นไลฟ์ สไตล์ โปรดักท์ (Lifestyle Products) โดยการนำเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตของเราอย่างมหาศาล เราขอไม่มาก แค่ 2 เท่าของมูลค่าตลาดปัจจุบันก็พอ”
นายสมเกียรติ กล่าวและเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ จะต้องปรับกระบวนการทางการตลาดข้าวหอมมะลิใหม่ ต้องเป็นการตลาดสมัยใหม่ที่เพิ่มกำลังต่อรองให้กับเกษตรกรโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีก แบบ Farm to Customer หรือจากท้องทุ่งสู่ห้องครัวโดยตรง
ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกครั้งที่ 19 ประกอบด้วยการเสวนาวิชาการ การเจรจาการค้าและลงนามบันทึกข้อตกลง การประกวดแข่งขัน แสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกล มีการสาธิตและฝึกอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าว การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงของศิลปินคืนถิ่น
โดยภายในงานจัดให้มีการแสดงสินค้าและนิทรรศการ Rice Expo 2018 โดยองค์กรภาคเอกชน เพื่อยกระดับการจัดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกด้วย ความพิเศษในปีนี้ Alibaba (อาลีบาบา) เว็บไซต์ขายส่งออนไลน์มาร่วมออกบูธในงานด้วย สอดรับกับการสร้างสถานีการค้า 101 ร่วมกับศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด ให้เป็นโครงการนำร่องจุดกึ่งกลางของภาคอีสานในการส่งออกข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้ โดยคาดว่าตลอดทั้ง 3 วันของงาน จะมีมูลค่าทางธุรกิจมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.