OUTDOOR EXERCISE IS BETTER
ออกกำลังกายกลางแจ้งจะได้ประโยชน์มากกว่า
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สัตยาระบุว่า ปัจจุบันมีกระแสนิยมไปออกกำลังกายตามฟิตเนส นั่นถือเป็นเรื่องดี แต่จะดีกว่าถ้าไปออกกำลังกายกลางแจ้งให้ร่างกายได้รับแสงแดด คุณหมอแนะนำว่า ไหน ๆ จะออกกำลังกายสร้างเสริมสุขภาพให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรงทั้งที ควรจะได้ประโยชน์ให้ครบถ้วน แนะนำให้เลือกการออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น เดิน วิ่ง รำไท้เก๊ก พายเรือคายัค ปีนเขา เดินป่า ทำให้ได้รับทั้งอากาศบริสุทธิ์และแสงแดด ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินดี ถ้าจะให้ดีควรพาสมาชิกในครอบครัวออกไปใช้เวลาร่วมกัน เพิ่มโอกาสสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวได้อีกด้วย

HIDDEN RISK FACTOR
เบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงกระดูกพรุน
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สัตยาทิ้งท้ายว่า หลายคนอาจไม่ทราบว่าการป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือมีน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ มีผลทำให้เสี่ยงกระดูกพรุนกระดูกหักซ้ำได้
คุณหมอชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขณะนี้แพทย์มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นว่า ไขมัน กระดูก กล้ามเนื้อ และสมองมีการสื่อสารระหว่างกันตลอดเวลา ดังนั้นการที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปทำให้ระบบเมแทบอลิกทำงานผิดปกติ ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์จะส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายหลาย ๆ ชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้าง – สลายมวลกระดูกทำงานผิดปกติ
ผลลัพธ์คือ คนกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนกระดูกหักซ้ำมากขึ้นได้ ยังไม่รวมกับปัญหาภาวะน้ำหนักตัวเกินขาดการออกกำลังกาย ทรงตัวได้ไม่ดี ที่จะไปเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุหกล้มตามมาได้อีกมาก ทางที่ดีต้องกินอาหารที่มีผักผลไม้สูง ลดปริมาณแป้งและน้ำตาล เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงโรคเบาหวาน
แนะนำให้ตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้ทราบผลน้ำตาลและไขมันในเลือดนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ลดเสี่ยงทั้งเบาหวานและกระดูกพรุนในอนาคตได้
DID YOU KNOW? คุณควรเข้ารับการตรวจวัดมวลกระดูกหรือไม่
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สัตยา โรจนเสถียร อธิบายเพิ่มเติมว่า ในการป้องกันและลดเสี่ยงกระดูกพรุน แพทย์จะแนะนำให้บุคคลกลุ่มเสี่ยงเข้าตรวจวัดมวลกระดูกประเมินความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน กระดูกหักซ้ำ ตามข้อบ่งชี้ ดังนี้
เพศหญิง อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือเพศชาย อายุ 70 ปีขึ้นไปหรือเพศหญิง อายุต่ำกว่า 65 ปี หรือเพศชาย อายุต่ำกว่า 70 ปีแต่ต้องมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ข้อ ได้แก่
- มีภาวะหมดประจำเดือนก่อนอายุ 45 ปี
- มีภาวะขาดฮอร์โมนเอสโทรเจนก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนต่อเนื่องนานกว่า 1 ปี
- ได้รับยากลูโคคอร์ติคอยด์ต่อเนื่อง
- น้ำหนักเกิน
- มีประวัติบิดามารดากระดูกสะโพกหัก
- เป็นหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 19 กก./ตร.ม.
- ตรวจพบภาวะกระดูกบางหรือกระดูกสันหลังผิดรูปจากภาพเอกซเรย์
- มีประวัติกระดูกหักจากอุบัติเหตุไม่รุนแรง
- ส่วนสูงลดลง
จาก คอลัมน์ HOT ISSUE นิตยสารชีวจิต ฉบับ 484
บทความน่าสนใจอื่นๆ
โรคกระดูกพรุนภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
การออกกำลังกายให้สมดุลหยุดกระดูกพรุน + ป้องกันการหกล้ม
ออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance Exercise) ลดภาวะกระดูกพรุน