สังเกตอาการ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คุณเสี่ยงหรือเปล่า?
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักพบมากในผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น อีโคไล เชื้อโรคเหล่านี้จะมีอยู่มากบริเวณรอบๆ ทวารหนัก สามารถปนเปื้อนผ่านเข้าท่อปัสสาวะและเข้ามาในกระเพาะปัสสาวะได้
รู้หรือไม่ว่า “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” เกิดจากอะไร?
ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ พบบ่อยในผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย จึงทำให้เชื้อโรคเข้าไปในร่างกายได้ง่ายกว่า แต่ในบางรายอาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะบ่อย ระบบโครงสร้างของระบบปัสสาวะผิดปกติ หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เป็นต้น
อาการใดบ้างที่บ่งบอกว่า คุณกำลังเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ?
-ปวดปัสสาวะบ่อยมากกว่า 10 ครั้งต่อวันแบบกะปริบกะปรอย โดยเฉพาะต้องลุกมาปัสสาวะบ่อยมากขึ้นในเวลากลางคืน
-ปัสสาวะแสบขัด
-เมื่อปัสสาวะสุด อาจมีเจ็บเสียวบริเวณปลายหลอดปัสสาวะ
-ในบางรายอาจมีปัสสาวะปนเลือด
ปัสสาวะบ่อย อันตรายหรือไม่?!
โดยปกติแล้ว เราจะปัสสาวะเฉลี่ย 6 – 8 ครั้งต่อวัน แต่หากมีการเข้าห้องน้ำที่บ่อยมากกว่านี้ นอกจากพฤติกรรมการดื่มน้ำที่มากเกินไป นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้
▪โรคเบาหวาน เพราะร่างกายไม่สามารถควบคุมน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่สูงได้ ร่างกายจึงพยายามปรับโดยกำจัดน้ำตาลกลูโคสส่วนเกินผ่านปัสสาวะ
▪ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นการอักเสบติดเชื้อต่อเนื่องมาจากท่อปัสสาวะ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะนานๆ บ่อยๆ ทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีพอ
▪โรคไต เนื่องมาจากการทำงานที่ผิดปกติของไต ไตไม่สามารถดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้ดีเช่นเดิม จึงทำให้น้ำถูกขับออกจากร่างกายมากกว่า และบ่อยกว่าปกติ
▪ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือโอเอบี (OAB) จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน ปวดปัสสาวะอย่างฉับพลันไม่สามารถรอได้ และปัสสาวะเล็ดราด
▪ต่อมลูกหมากโต ภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ และไปกดทับท่อปัสสาวะให้ตีบเล็กลง ทำให้มีอาการปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะไม่สุด ส่งผลให้ต้องปัสสาวะบ่อย
▪ตั้งครรภ์ เนื่องจากมดลูกของผู้หญิงจะขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยมากกว่าปกติ
▪ยา และสารบางชนิด ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติได้ เช่น ยาขับปัสสาวะ รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีนในปริมาณมากๆ
หากคุณมีอาการปัสสาวะบ่อย โดยที่ไม่ได้ดื่มน้ำ หรือไม่ได้บริโภคคาเฟอีน และแอลกอฮอล์มากกว่าปกติ ปัสสาวะบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการนอนหลับ และมีอาการอื่นๆ ที่เป็นสัญญาณอันตราย เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด มีอาการเจ็บขณะปัสสาวะ มีปัญหาเกี่ยวกับการกลั้นปัสสาวะ มีไข้ เป็นต้น ควรพบแพทย์ทันที
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ป้องกันได้อย่างไร?
-หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะนานๆโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้แบคทีเรียที่ค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเจริญเติบโตได้ดี
-ควรดื่มน้ำมากๆ ประมาณวันละ 8 – 10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกายโดยเร็ว
-ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังปัสสาวะและอุจจาระเสร็จ ผู้หญิงควรทำความสะอาดอวัยวะเพศจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ
-ควรทำความสะอาดร่างกายและปัสสาวะทิ้งทันทีหลังการมีเพศสัมพันธ์
ข้อมูลประกอบจาก: ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการน่ารำคาญที่ใครๆ ก็เป็นได้
ผู้หญิงต้องรู้ “ปวดท้องน้อย” เสี่ยงอะไรบ้าง
สังเกต อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง สัญญาณเตือนสุขภาพคุณผู้หญิง