ดูแลผิวหนังอย่างไรดี หลังเข้ารับการ ฉายรังสี รักษาโรคมะเร็ง
การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน ใช้การผสมผสานกันหลายวิธี ทำให้การรักษาด้วยการ ฉายรังสี เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการรักษาโรคมะเร็งมากขึ้น โดยอาศัยหลักการที่ว่าการฉายรังสีไปยังเนื้อเยื่อของเนื้องอกหรืออวัยวะใดๆ ก็ตามซึ่งเป็น เนื้อเยื่อที่มีชีวิต รังสีจะทำให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอ (DNA) ของเซลล์เนื้องอกโดยตรงทำให้เกิดการตายและการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสรีระวิทยาของเซลล์เนื้องอกนั้น
การดูแลผิวหนังบริเวณที่ได้รับการฉายรังสี
1. ห้ามลบเส้นบริเวณที่ฉายรังสีที่แพทย์ขีดไว้ เพราะถ้าเส้นลบแพทย์จะต้องขีดใหม่ ทำให้เสียเวลาในการรักษา อย่าขีดเส้นที่ลบเลือนด้วยตัวเอง
2. ผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสีบริเวณศีรษะ อาจมีอาการผมร่วง ไม่ควรสระผม ให้ขอคำแนะนำจากพยาบาล ก่อนห้ามใช้น้ำมันใส่ผม หรือผลิตภัณฑ์ทาผมหรือแว็กซ์ทาบริเวณที่ฉายรังสี ถ้ารู้สึกคันศีรษะ อาจใช้น้ำมันมะกอกทา ส่วน อาการผมร่วง ผมจะขึ้นใหม่ได้ภายหลังการรักษาสิ้นสุดแล้ว 2-3 เดือน
3. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด หรือการสัมผัสบริเวณที่ฉายรังสีโดยตรงกับความร้อนหรือความเย็น ควรสวมหมวกหลวมๆ หรือกางร่ม
4. ผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสีบริเวณลำคอ ผิวหนังอาจมีสีแดง แห้งตึง เกิดอาการคัน ดำคล้ำ และตกสะเก็ด หรือแตกเป็นแผล ห้ามถู แกะ เกา ควรสวมเสื้อหลวมๆ นุ่มๆ ที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เพื่อลดการเสียดสีผิวหนังควรตัดเล็บ ให้สั้นเพื่อป้องกันการแกะเกา
5. ผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสี ควรล้างด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และควรใช้ผ้าเช็ดตัวที่ อ่อนนุ่มซับบริเวณที่ฉายรังสี หลีกเลี่ยงการขัดถู หลีกเลี่ยงการใช้น้ำฝักบัวที่มีแรงดันน้ำที่แรงในการอาบน้ำ
6. ไม่ควรว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีน เพราะจะทำให้ผิวแห้ง
7. ห้ามวางกระเป๋าน้ำร้อน น้ำแข็งบริเวณที่ฉายรังสี ห้ามปิดพลาสเตอร์ ทายาหม่อง บริเวณที่ฉายรังสี
8. ถ้าเกิดอาการคัน ห้ามทาแป้งฝุ่น เพราะแป้งฝุ่นผสมด้วยโลหะหนัก ทำให้ระคายเคือง ผิวดำคล้ำมากขึ้น ให้ใช้แป้งข้าวโพดบริสุทธิ์แทน
9. ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 เป็นเวลา 1 ปี หลังการฉายรังสีเสร็จสิ้น