อาหาร

3 อาหาร ควรกินเดี่ยว ไม่ควรกินคู่กัน

3 อาหาร ที่ควรกินเดี่ยว ไม่ควรกินคู่กัน เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ

แม้ในความจริงบางครั้งการไร้คู่ ก็ไม่ได้ดูแย่เท่าการมีคู่ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ถ้าไม่ใส่ใจมากพอ แทนที่อาหารจะช่วยบำรุงร่างกาย กลับทำร้ายร่างกายเราได้เช่นกัน นี่คือ 3 อาหาร ที่ ไม่ควรกินคู่กัน

นี่เรากำลังพูดถึง “อาหาร” ไม่ได้การครองโสด (ฮา…)

อาหารเพื่อสุขภาพ & น้ำปลาพริก

นี่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้คนรักสุขภาพตกม้าตาย หรือไม่ก็พิการ สั่งอาหารออร์แกนิก มาดูแลสุขภาพทั้งที่ ทำไมต้องมี “น้ำปลาพริก” เพราะโซเดียมในน้ำปลาพริก ที่พ่วงมาแฝงด้วยอันตราย ซึ่งเป็นที่มาของ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหัวใจ ไตวาย และโรคกระดูกพรุน ด้วยเหตุนี้ องค์การอนามัยโลก จึงประกาศให้รับประทานอาหาร ที่มีโซเดียม ไม่เกินวันละ 1,400 มิลลิกรัม

ผัดต้นอ่อนทานตะวันเต้าหู้ & น้ำอัดลม

ใครบอกนะว่าอาหารจานเดียว ผัดต้นอ่อนทานตะวันเต้าหู้ กับ น้ำอัดลม เป็นของคู่กัน นอกจากต้นอ่อนทานตะวัน จะมีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลืองแล้ว ยังมีวิตามินเอ และวิตามินอี เพื่อช่วยในบำรุงสายตา และผิวพรรณ รวมถึงช่วยชะลอความชราอีกด้วย

ที่สำคัญต้นอ่อนทานตะวัน มีวิตามินบี 1,6 มีโอเมก้า 3 ,6 ,9 ซึ่งช่วยบำรุงเซลล์สมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อม แถมมีธาตุเหล็กสูง และอุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินเอ วิตามินอี โปรตีน แคลเซียม สังกะสี คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ส่วน กระเทียม ก็ให้สารออร์แกโนซัลเฟอร์ ช่วยต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิดที่ก่อมะเร็งได้ ขณะที่เต้าหู้ มากไปด้วยประโยชน์ เช่น วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม และกรดอะมิโน เรียกได้ว่าให้โปรตีนครบถ้วน แถมยังย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์เลยทีเดียว

น้ำอัดลม ทำให้กระดูกพรุน ฟันผุ เพราะมีกรดฟอสฟอริก ซึ่งเกิดจากฟอสฟอรัสจากกำมะถัน ทำให้โรคอ้วน และเป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีน้ำตาลมากถึง 30 กรัม เกินกว่า ปริมาณน้ำตาลที่รับประทานแล้วปลอดภัย ถึง 4 กรัม น้ำอัดลม ทำให้นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น เนื่องจากฤทธิ์ของกาเฟอีน เป็นสาเหตุทำให้ ท้องอืด ปวดท้อง แน่นท้อง และเป็นโรคกระเพาะ

น้ำดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพกับน้ำแข็ง ไม่ควรกินคู่กัน

น้ำดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ & น้ำแข็ง

อุตส่าห์เลือกดื่มน้ำสมุนไพรทั้งที ทำไมถึงต้องมีน้ำแข็งเปล่าตามมาด้วย น้ำสมุนไพร มีประโยชน์ทางยา มีคุณค่าทางอาหาร และช่วยในการป้องกันโรค ช่วงที่อาการร้อน หรือร่างกายเสียเหงื่อมาก ๆ น้ำสมุนไพรบางชนิดช่วยผ่อนคลายความร้อน และทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง เช่น น้ำมะขาม ช่วยลดอาการกระหายน้ำ นอกจากนี้น้ำสมุนไพร อย่าง น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก ยังช่วยบำรุงหัวใจได้อีกด้วย

แต่เมื่อนำมาจับคู่กับน้ำแข็งป่น จากแหล่งผลิต และการขนส่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรค หรือจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคอย่าง อีโคไล ท้องร่วง ท้องเสีย และโรคอาหารเป็นพิษ จากการสุ่มตรวจการปนเปื้อนในอาหารของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร พบว่า มีน้ำแข็งบริโภคปนเปื้อนจุลินทรีย์าสูง มากถึง 64.5 %  และโรคที่พบมากเป็นอันดับ 1 ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน รองลงมา คือ โรคอาหารเป็นพิษ และโรคบิด

ก่อนจับคู่ให้อาหาร คิดกันอีกสักนิด เพื่อชีวิตที่ปลอดภัย

เสริมกันอีกนิด กับ ผักผลไม้ห้ามกินกับยา 

ไม่ใช่แค่ ชา กาแฟ นม ที่ห้าม ผักผลไม้ห้ามกินกับยา ก็มีเหมือนกัน เพราะหากกินเข้าไปพร้อมกับยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการดูดซึมของยาที่กินได้ โดยมีผลทั้งในแง่การเพิ่มและลดประสิทธิภาพของตัวยา  หรือที่เราเรียกกันว่า ยาตีกัน

แต่ไม่ต้องกังวลไป เรารวบรวมเหล่าอาหาร สมุนไพรที่ทุกคนต้องรู้มาแนะนำจ้า

ช็อกโกแลต 

มีสารสำคัญจำพวก ไทรามีน มีฤทธิ์กระตุ้นความดันโลหิตให้เพิ่มขึ้น ดังนั้นคนที่กินยาความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงเป็นที่สุด แถมดาร์กช็อกโกแลต ยังมีปริมาณสารคาเฟอีนสูง ทำให้ใจสั่น  อาจมีผลกับกลุ่มอาการโรคไทรอยด์  และลดประสิทธิภาพของการกินยานอนหลับได้ 

ชะเอม

สมุนไพรที่ให้ความหวาน รสชาติหวานติดลิ้น การแพทย์แผนไทยใช้ในการขับเสมหะ เจ็บคอ บำรุงกำลัง ปัจจุบันนำมาสกัดแล้วผสมในอาหารมากมาย แทนน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน  ในฉลากจะระบุว่า Licorice หรือ Glycyrrhizin  สารสำคัญในชะเอมนี้ จะไปลดประสิทธิภาพของกลุ่มยากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน  ยา Digoxin ที่ใช้รักษาโรคหัวใจ เพราะอาจทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ หรือหัวใจวายได้ แถมผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงห้ามกินชะเอมด้วยนะ

โสม

สมุนไพรจีนมีฤทธิ์เป็นยารสร้อน เหมาะกับคนที่เลือดลมในร่างกายไม่ดี โดยที่โสมจะเข้าไปช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น แต่จะมีผลต่อยากลุ่มการแข็งตัวของเลือด เช่น  Warfarin Heparin  เพราะอาจทำให้มีผลข้างคียง อาการนอนไม่หลับ อารมณ์หงุดหงิด ปวดศีรษะ วิตกกังวล สมาธิสั้นได้ แถมโสมยังมีฤทธิ์ลดะดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย การกินร่วมกับยาเบาหวานอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปได้

พริก

มีสารสำคัญแคปไซซิน มีฤทธิ์แก้อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ช่วยเร่งการเผาผลาญผลังงานในร่างกาย การกินพริกอาจทำให้เพิ่มการดูดซึมของยากลุ่ม ACE inhibitors ในผู้ป่วยโรคไต ที่เป็นเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหืด และกลุ่มของยาต้านอาการซึมเศร้า และส่งผลให้มีอาการข้างเคียงอาการไอร่วมด้วยได้

กระเทียม

หรือกาลิก มีปริมาณสารอัลลิซินสูง เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ชั้นดี ช่วยลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง และระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ถ้าหากกินร่วมกับกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงได้ รวมไปถึงการกินร่วมกับยารักษาความดันโลหิตสูง ยาเบาหวาน อาจทำให้ระดับอินซูลินต่ำลงจนเกินไป อาจทำให้วูบได้

นมและผลิตภัณฑ์นมก็ห้ามกินกับยา

เนื่องจากนมมีปริมาณของแร่ธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม และเคซีน (โปรตีนจากนม) จึงทำให้อาจจะชะลอการดูดซึมยาบางชนิดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มของยาแอนติไบโอติก หรือยาปฏิชีวนะ ดังนั้นแนะนำให้ดื่มนมหลังจากกินยาประมาณ 2 ชั่วโมง

รู้ก่อน ป้องกันได้ก่อน  แต่ถ้าไม่แน่ใจ กินยา อย่างไรควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรใกล้บ้าน

บทความอื่นที่น่าสนใจ

แนะวิธีจับคู่ สมุนไพรรักษาโรค บำรุงเลือด ป้องกันไขมันพอกตับ

เทคนิคใกล้ตัวช่วย โกร๊ธฮอร์โมน หลั่ง ควรทำควบคู่ออกกำลังกาย

แกงไทย กับการช่วยป้องกันมะเร็ง

5 สาเหตุใกล้ตัว ก่อมะเร็ง

ติดตามชีวจิตได้ที่

Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.