ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน

ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน สไตล์จีนสูตรอร่อยได้สุขภาพ

ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน สไตล์จีนสูตรอร่อยได้สุขภาพ “ข้าวอบหม้อดิน” สไตล์จีนนี้เราประยุกต์วิธีการทำให้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องต้มข้าวแบบเดิมให้เสียเวลา ใช้วิธีการรวบรัด โดยนำข้าวสุกมาผัดข้าวกับเครื่องเคราแทน ส่วนเนื้อสัตว์เราปรับใช้เป็นเต้าหู้ดำ เต้าหู้ทอด และฟองเต้าหู้นำไปต้มพะโล้ให้มีกลิ่นรสหอมหวาน ก่อนรับประทานตักข้าวใส่หม้อดิน ราดด้วยเต้าหู้พะโล้แล้วตั้งไฟให้มีกลิ่นหอม เพียงเท่านี้ก็ได้ข้าวอบหม้อดินแสนง่ายรับประทานแล้ว

ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน
สูตร ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 20 นาที ปรุง 40 นาที

  • ข้าวกล้องหุงสุก 2 ถ้วย
  • แปะก๊วยต้ม 20 เม็ด
  • เผือกหั่นเต๋าเล็กทอดพอเหลือง ½ ถ้วย
  • เห็ดหอมแห้งแช่น้ำหั่นเป็นเส้น 4 ดอก
  • กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันรำข้าวสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
  • ผักชีสำหรับโรยหน้า
ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน
เต้าหู้พะโล้

ส่วนผสมเต้าหู้พะโล้

  • เต้าหู้ดำหั่นเต๋าใหญ่ 12 ชิ้น
  • ฟองเต้าหู้แช่น้ำจนนิ่มตัดชิ้นพอคำ 8 ชิ้น
  • เต้าหู้ทอดสำหรับทำเย็นตาโฟ 12 ชิ้น
  • ขิงหั่นแว่น 6 แว่น
  • น้ำสต๊อกผัก 2 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1½ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
  • ผงพะโล้ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำเต้าหู้พะโล้โดยผสมน้ำสต๊อกกับเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกัน เทใส่หม้อ เติมเต้าหู้ทั้งหมดและขิงลงไปต้มจนส่วนผสมเดือด หรี่ไฟลง ต้มต่อจนน้ำในหม้องวดลงครึ่งหนึ่งปิดไฟ พักไว้
ข้าวอบเต้าหู้พะโล้หม้อดิน
2. เตรียมผัดข้าว โดยตั้งกระทะใส่น้ำมันรำข้าว พอร้อนใส่กระเทียมลงเจียวจนหอม จากนั้นใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้เข้ากัน เติมข้าว แปะก๊วย และเผือกลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวซอสปรุงรส น้ำตาลทรายและพริกไทย ผัดให้เข้ากันอีกครั้งปิดไฟ ยกลง
3. วิธีอบข้าว ทำโดยตักข้าวที่ผัดไว้ใส่ลงในหม้อดิน จากนั้นตักเต้าหู้พะโล้ใส่ลงไปพร้อมน้ำพะโล้ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนปิดฝาพอเดือดเปิดฝาออก กลับข้าวกับส่วนผสมไปมาจนน้ำในหม้อแห้ง ปิดไฟ ยกลง โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
พลังงานต่อหนึ่งไม้ 68.34 กิโลแคลอรี
โปรตีน 3.83 กรัม ไขมัน 3.68 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 6.55 กรัม ไฟเบอร์ 0.03 กรัม

ประโยชน์จากถั่วเหลือง
เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานเพราะมีปริมาณน้ำตาลน้อยใยอาหารสูง ซึ่งสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ผลการศึกษาของหลายองค์กรระบุว่า การกินถั่วเหลืองเป็นประจำช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม

  • ป้องกันโรคหัวใจ มีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีทำการทดลองในคนไข้ที่มีคอเลสเตอรอลมากกว่า 300 มิลลิกรัม
  • เนื่องมาจากพันธุกรรม พบว่าคนไข้ที่รับประทานอาหารที่มีโปรตีนถั่วเหลือง 25 กรัมต่อวันเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับไขมันไม่ดี (LDL) ลดลงร้อยละ 18 และมีระดับไขมันดี (HDL) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20
  • รักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจาง เพราะมีธาตุเหล็กสูง แต่ควรกินกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เพราะวิตามินซีจะช่วยดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีบำบัดและรักษาผู้ป่วยที่เป็น
  • โรคอัมพฤกษ์อัมพาต เนื่องจากมีสารไอโซฟลาโวนช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก
  • กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้การเผาผลาญอาหารในกระเพาะอาหารให้มีประสิทธิภาพดี
  • ช่วยทำให้นอนหลับสบาย เพราะมีกรดแอมิโนที่ชื่อทริปโตเฟน พอเข้าสู่ร่างกายเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเซโรโทนินช่วยควบคุมการนอนหลับให้ดีขึ้น

เอกสารอ้างอิง
1. บทความเรื่อง “ถั่วเหลืองกับสุขภาพ” โดย ผศ. ดร.อาณดี นิติธรรมยงและ รศ. ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
2. บทความเรื่อง “ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองสำหรับสตรีวัยทอง” โดย รศ.วิมล ศรีศุข ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล
3. บทความเรื่อง “ถั่วเหลือง (Soybean)” โดยภาควิชาพืชไร่นา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
4. บทความเรื่อง “ถั่วเหลือง พืชพื้นบ้าน ที่เป็นอนาคตของมนุษยชาติ” โดยนิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 222
5. สารานุกรม “สมุนไพรไทย – จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย” เรียบเรียงโดยวิทยา บุญวรพัฒน์
6. “สรรพคุณจากถั่วเหลือง 58 ข้อ” จากเว็บไซต์ http://frynn.com/

เรื่อง : เป็นเอก ทรัพย์สิน ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์

สูตรอาหารแนะนำ

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.