3 ความ กลัว ที่ต้องทำความรู้จัก แล้วกำจัดมันซะ : Secret เคล็ดลับ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลัง “ กลัว ” เพราะยังไม่กล้าลงมือทำอะไรสักอย่าง มาทบทวนกันค่ะว่า ทำไมความรู้สึกนี้ถึงวนเวียนและครอบงำความคิดของเรามาเนิ่นนาน เพราะเหตุผลเหล่านี้ใช่หรือไม่
1. กลัวล้มเหลว เพราะยังไม่เคยสำเร็จ
ประสบการณ์ที่เลวร้าย ผิดหวัง ผิดพลาด เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ แต่น่าเสียดายนะคะ หากหลายคนให้ประสบการณ์ในอดีตตัดสินอนาคต มองตัวเองว่าเป็นคนขี้แพ้ จนหมดพลังที่จะลงมือทำเรื่องเก่านั้นอีกครั้ง หรือแม้แต่ยังไม่กล้าเริ่มต้นทำเรื่องใหม่ ๆ สักเรื่อง
ลองนึกภาพตัวเองขณะที่ยังเป็นเด็ก เราทุกคนหัดคลานหัดเดิน ล้มแล้วลุกมานับไม่ถ้วน จนถึงวันที่เราโตพอที่จะเดินคล่องวิ่งฉิว ความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน ไม่มีความสำเร็จไหนได้มาโดยง่าย ชีวิตเศรษฐีหรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงมากมายพิสูจน์ได้ถึงบทเรียนนี้
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ลุดวิจ ฟาน เบโทเฟน (Ludwig van Beethoven) คีตกวีและนักเปียโนชื่อดังชาวเยอรมัน เล่นเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ ต้องเผชิญอุปสรรคสารพัดตั้งแต่ยังเด็ก มีพ่อติดเหล้า พี่ชายเสียชีวิต ฐานะขัดสน กระทั่งสูญเสียการได้ยิน แต่เขาไม่กล่าวโทษโชคชะตาและไม่เคยละทิ้งดนตรี จนบทเพลงซิมโฟนีของเขาเป็นอมตะจนถึงทุกวันนี้
2. กลัวทำไม่ดี เพราะมีไม่เท่าใคร
ต้นทุนชีวิตมนุษย์นั้นแตกต่างกัน บางคนเกิดมาในครอบครัวที่พรั่งพร้อมด้วยสมบัติ ขณะที่บางคนต้องปากกัดตีนถีบตั้งแต่ยังเด็ก แต่แค่คิดเปรียบเทียบ ชีวิตก็เท่ากับเสียเปรียบแล้ว เพราะมหาเศรษฐีเอาเวลาไปหาวิธีต่อยอดเงินตรา ขณะที่คนธรรมดามัวแต่เอาเวลามาน้อยเนื้อต่ำใจ
ถ้าเราเปลี่ยนโฟกัสมามองสิ่งที่เรามี เราอาจมีมากกว่าเขาก็ได้นะคะ ดูอย่าง โฮเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) ชายผู้เติบโตในชุมชนคนยากไร้ ต้องทำงานตั้งแต่อายุ 12 ปี เล่นกีฬาเพื่อทุนการศึกษา ไต่เต้าจากเด็กขายหนังสือพิมพ์เป็นพนักงานบริษัท และขยับขึ้นเป็นผู้บริหารฝ่ายการตลาด เขาหลงใหลกลิ่นกาแฟจนอยากเปิดร้านของตัวเอง แต่ก็ไม่มีเงินมากพอ
เขาใช้เวลา 1 ปีติดต่อหาผู้ร่วมทุนถึง 242 คน ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็อดทนสู้ต่อ กระทั่งรวบรวมทุนได้ 1.6 ล้านเหรียญ เพื่อเปิดร้านกาแฟชื่อ อิล จิออร์นาเลในรูปแบบที่ฝัน
ชูลท์ซลองผิดลองถูกจนธุรกิจเติบโต ต่อมาบริษัทจำหน่ายเมล็ดกาแฟซึ่งเขาทำธุรกิจด้วยมานานประกาศขายกิจการ เขาจึงขอซื้อ แล้วพัฒนาธุรกิจให้เป็นมากกว่าร้านกาแฟ จนปัจจุบันมีมากกว่า 20,000 สาขาทั่วโลก ใช่ค่ะ นั่นคือ สตาร์บัคส์
3. กลัวทำไม่ได้ เพราะทำนายอนาคตตัวเอง
“ฉันทำไม่ได้หรอก” หากใช้คำแรงหน่อยก็คือ “ตัวถ่วงชีวิต” ถ้าคิดในเชิงพุทธ คงต้องเรียกว่า “ทุกข์ล่วงหน้า” ทั้งที่ยังไม่เคยลองทำ นักจิตวิทยามากมายรวมถึงพระสงฆ์สอนเสมอว่า “คิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น” ความคิดน่ลี ะค่ะท่นี ่ากลัวมากกว่าส่งิ ท่เี รากลัว ทำให้กลายเป็นคนล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำ
ที. ฮาร์ฟ เอคเคอร์ (T. Harv Eker) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Peak Potential Training บริษัทพัฒนาศักยภาพบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในสหรัฐอเมริกา เจ้าของผลงานเขียน Secrets of the Millionaire Mind กล่าวไว้ว่า กุญแจสู่ความมั่งคั่งบริบูรณ์คือการลงมือทำ ทำแม้จะกลัว ทำแม้จะสงสัย ทำแม้จะกังวล ทำแม้ไม่แน่ใจ ทำแม้จะอย่างไรก็ตาม
“คนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร สุดยอดความลับก็คือลงมือทำ ลงมือทำไม่ว่าคุณจะไม่แน่ใจเรื่องอะไร จงลงมือทำ เริ่มก้าวเดิน แล้วคุณจะเรียนรู้ยิ่งขึ้น คุณจะไปได้เร็วขึ้นและยาวไกลขึ้น เมื่อก้าวสู่สังเวียนและลงมือทำจริง ๆ ไม่มัวแต่คิดอยู่อย่างนั้น
“ผมหมายความว่า การก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องหนึ่งก้าว ย่อมมีค่ามากกว่าเอาแต่คิดถึงมันอยู่หลายร้อยปี”
ถ้าคุณมีความกลัวทั้งสามข้อนี้ กำจัดมันทิ้งซะ
ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 232
ผู้เขียน/แต่ง : urara