“ชีวิตมีขึ้นก็ต้องมีลง” จากเจ้าของอู่ต่อเรือที่มีลูกน้องเป็นร้อยมาเป็น พนักงานห้างสรรพสินค้า
“มีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นเรื่องธรรมดาของโลก” บางครั้งเรื่องรอบตัวของเราก็สอนสัจธรรมชีวิตได้เช่นกัน ดังเรื่องต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “พลากร เทศนำ” ได้โพสต์ข้อความโดยตั้งชื่อเรื่องว่า “พนักงานอาวุโส” พร้อมกับรูปถ่ายคู่กับ พนักงานห้างสรรพสินค้า แห่งหนึ่งที่มีอายุมากแล้ว คุณพลากรถ่ายทอดบทสนทนาระหว่างเขากับพนักงานอาวุโสว่า
“ ผมพบกับคุณลุงประชา พนักงานของห้างใกล้บ้าน รู้สึกแปลกใจที่คุณลุงอายุมากแล้วยังต้องมาทำงานเป็นพนักงานขาย กะด้วยสายตาต้อง เจ็ดสิบกว่าแน่ ๆ วันนี้ผมเดินหาซื้อของใช้ในห้าง คุณลุงเดินมาถามว่าต้องการรถเข็นไหม ผมก็กำลังมองหาพอดี เลยถือโอกาส สนทนากับคุณลุง
“คุณลุงครับ ยังต้องมาทำงานอีกเหรอ” ผมถามแก
“ก็ท้องมันหิวทำไงได้ล่ะ” ลุงตอบ “ดีน่ะที่นี่ผู้จัดการเขาสงสารผมก็เลยรับเข้าทำงาน ผมทำงานทุกวันตั้งแต่เก้าโมงเลิกหนึ่งทุ่ม ผมทำแบบนี้ทุกวัน ไม่เคยหยุด” คุยกันไปลุงก็เช็ดจานชามไป “ผมหยุดไม่ได้ เพราะเขาให้เงินเราทุกวินาที ทุกวินาทีจริง ๆ คุณคิดดูสิเวลาผ่านไปทุกวินาทีเป็นเงินทั้งนั้น”
“ พอคุยกันถูกคอ คุณลุงเล่าว่าเมื่อก่อนนั้น เคยเป็นเจ้าของอู่ต่อเรือ มีลูกจ้างสองร้อยกว่าคน มีเพื่อนฝูงมากมาย แล้วพอธุรกิจเจ๊ง เพื่อนหายหมด ไปกดกริ่งหน้าบ้านใครก็ไม่เปิดประตูต้อนรับ จึงพบกับสัจธรรมของชีวิต “เพื่อนแท้ไม่มีหรอกครับ ที่ผ่านมามันมีแค่เพื่อนกิน ตอนนี้ผมแปดสิบเอ็ดแล้ว ทำงานให้ดีที่สุด ผมมีหน้าที่ดูแลและขายถ้วยชามพวกนี้ทั้งหมด ถ้าไม่มีอะไรทำก็เช็ดชามพวกนี้แหละ”
“ คุยกันเพลินได้สาระและเรื่องราวมากมายจากคุณลุงผู้ผ่านชีวิตโชกโชน ก่อนลาจากกันคุณจำไว้นะ “อย่าดื่มเหล้า อย่าสูบบุหรี่ อย่ากินน้ำอัดลม ร่างกายเราจะดีและที่สำคัญอย่าเครียด รู้จักปล่อยวางด้วยนะ”
“ ขอบพระคุณคุณลุงประชา ผมชอบคุยกับผู้อาวุโสเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชีวิตของท่านเหล่านั้น นึกถึงเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง เลยบอกว่า “อายุมึงกูผ่านมาแล้วโว้ย มึงอยู่ให้ถึงอายุเท่ากูก็แล้วกัน”
ที่มา : พลากร เทศนำ
ภาพ : www.thairath.co.th
บทความน่าสนใจ
5 เทคนิคการพูดกับลูกน้องที่ทำให้คุณประสบกับความล้มเหลว
เป็นลูกน้องหรือเป็นนายตัวเอง อย่างไหนดีกว่ากัน