6 ข้อ ‘ ฮีลตัวเอง ได้ทันที ‘ ในช่วงที่สภาพจิตใจอ่อนล้า
เมื่อใช้ชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง เราทุกคนอาจเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่าย และสภาพจิตใจอ่อนล้า คงไม่ผิดที่เราจะคิดว่าการ ฮีลตัวเอง ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาสักสองสามวัน จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าความเหนื่อยล้าทางร่างกายนั้น ยังหนักไม่เท่ากับความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
เพราะฉะนั้น มันสำคัญที่เราจะต้องใช้เวลา เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนบ้าง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจ เช้านี้ GoodLife มีวิธีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเติมพลังให้กับหัวใจของคุณมาแนะนำกัน
1.เปลี่ยนกิจวัตรแบบเดิมๆ
การเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเล็กๆ น้อยๆ นั้น อาจเป็นวิธีที่ดีในการกำจัดความเหนื่อยล้าทางจิตใจ เพราะการสร้างประเด็นท้าทายตัวเองให้ทำสิ่งใหม่ๆ สัปดาห์ละครั้ง หรือวันละครั้ง จะช่วยให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นขึ้น ซึ่งมันอาจเป็นอะไรที่ง่ายมาก อย่างเช่น แทนที่จะไปทำงานด้วยเส้นทางปกติ ก็ลองใช้วิธีอื่นแทน หรือลองนึกถึงกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ เมื่อจิตใจของคุณเปิดรับวิธีคิดและการรับรู้ใหม่ๆ คุณมักจะมีความสุขได้โดยอัตโนมัติ
2.จดบันทึกประจำวัน
การจดบันทึกเป็นวิธีที่ดีในการคลายความเครียด และระบายสิ่งที่รู้สึกลงบนกระดาษ นอกจากนี้ยังทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณถูกใช้งาน สร้างความมั่นใจ เพิ่มความเข้าใจ และกระตุ้นให้คุณลงมือทำตามเป้าหมาย แต่ก็ไม่ควกดดันตัวเองที่จะต้องเขียนมันทุกวัน อาจเป็นสัปดาห์ละสองสามครั้ง แล้วคุณจะพบว่าการเขียนเป็นทางออกที่ดีในการชาร์จสมองตัวเอง
3.ทำสมาธิ
คุณจะประหยัดเงินและเวลาได้มาก หากคุณเรียนรู้และฝึกฝนการดูแลตนเอง ด้วยการทำสมาธิเพียง 5 นาทีต่อวัน มันสามารถช่วยลดความเครียด เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ และอาจเพิ่มความสุขได้มากทีเดียว เมื่อเวลาผ่านไปคุณอาจพบว่า การนั่งสมาธิมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวันเป็นระยะเวลานานๆ จะยิ่งส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของคุณเอง ซึ่งจากการสังเกตคนที่ทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ คนเหล่านี้มักจะมีเหตุผลมากกว่า และรู้สึกวิตกกังวลน้อยลงเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทาย
4.มองความสัมพันธ์ของคุณและคนรอบตัวอีกครั้ง
การมีความสัมพันธ์หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ต้องคำนึงถึงสุขภาพจิตตัวเองด้วย บางคนอาจเจอกับคนรอบตัวที่คิดลบ หรือมีส่วนทำให้สุขภาพจิตพัง ดังนั้น จงใช้เวลาพิจารณาความสัมพันธ์ทั้งหมดในชีวิต และตัดสินใจว่าความสัมพันธ์เหล่านี้เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตและความสุขของคุณหรือไม่
5. ออกกำลังกายบ้าง
การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์ในเวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าอีกด้วย คุณไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกฟิตเนส แต่การจัดสรรเวลาเพียงแค่ 20 นาทีต่อวัน จะมีส่วนช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองเพิ่มขึ้น และคุณจะปรับปรุงอารมณ์ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงความจำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วย
6.ละทิ้งอีโก้ และลงมือทำสิ่งที่อยากทำ
การสละเวลาสองถึงสามชั่วโมงในการทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จลุล่วงอาจเป็นผลดี แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่คุณใช้พลังงานจนเกือบหมดไป และเกิดเป็นความเหนื่อยล้า ดังนั้น จงทำในสิ่งที่คุณอยากทำซะ ลองปล่อยให้ตัวเองได้ซื้อรองเท้าที่อยากซื้อมานาน หรือออกทริปสุดสัปดาห์กับเพื่อนสนิท หรือคนสำคัญ เพราะอย่าลืมว่าเวลาบนโลกของเรานั้นสั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จงทำเพราะมันทำให้คุณรู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- 5 วิธีเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อเริ่มใหม่ในปี 2021
- 5 สิ่งที่เราควรทิ้งไว้กับปีเก่า แล้วเริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุข
- วิธีเลิกเครียด เค้าทำกันยังไง ? เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยปลดปล่อยตัวเอง
- 8 ข้อควรใช้ บอกตัวเอง เมื่อเริ่มรู้สึกว่าไม่โอเค
- 6 วิธีช่วย ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างบาลานซ์ให้กับตัวเอง
- 8 กิจวัตรประจำวัน ช่วยปรับปรุง ดูแลสุขภาพจิต ไม่ให้จิตตกก่อนหมดปี
- 5 นิสัยที่ควรมี และต้องทำให้เคยชิน ตั้งแต่เริ่มต้นวันใหม่