ก่อนหน้านี้มีคนเคยพูดว่า “ความสวยงามของผู้หญิงไม่ใช่เครื่องการันตีว่าชีวิตคู่จะมีความสุขเสมอไป” ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี ฟังแล้วก็ยังไม่ได้คิดอะไร
มาวันนี้ ลูกหมีได้เจอประสบการณ์นี้กับตัวเอง เมื่อวันหนึ่งตัดสินใจแต่งงาน และพบว่าความสวยความหล่อของคนเราไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น แต่กลับมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นมากกว่านั้น ทั้งความเข้าใจกัน การให้อภัย การพูดความจริง การรู้จักเป็นผู้ให้และผู้รับที่ดี และอื่นๆ ซึ่งกลบความสำคัญเรื่องรูปร่างหน้าตาไปจนหมดสิ้น
สำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อตัดสินใจแต่งงาน นั่นหมายถึงการคาดหวังว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตและคาดหวังว่าจะสร้างครอบครัวที่มีความสุข สามารถใช้ชีวิตกับผู้ชายที่ตัวเองเลือกไปจนถึงวันที่ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร
แต่ในวันนี้ความฝันของลูกหมีแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกหมีโชคดีทั้งเรื่องเรียน เรื่องการงาน แต่สำหรับความรักกี่ครั้งๆ ก็ยังล้มเหลวไม่เป็นท่า มีแต่เรื่องราวที่ทำให้เจ็บปวดทรมานแสนสาหัส
อย่างไรก็ตาม ลูกหมีเชื่อว่ายังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่พบเจอกับชีวิตคู่ที่ย่ำแย่กว่าลูกหมี บางคนไม่สามารถหาทางออกที่ดีให้กับตัวเองได้ บางคนยอมจมปลักอยู่กับชีวิตที่อับเฉา และบางคนก็ทำได้เพียงแค่ระบายให้คนรอบข้างฟัง
ชีวิตคู่ที่แลกมาด้วยน้ำตา
สำหรับลูกหมี เมื่อชีวิตคู่ไม่ใช่อย่างที่คิดอีกต่อไป ลูกหมีขอเลือกทางเดินใหม่ แม้ว่ากว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ ลูกหมีต้องเสียน้ำตา เสียใจสับสนกับการตัดสินใจของตัวเอง แต่เมื่อมองกลับไปในวันนี้ ลูกหมีเชื่อว่าตัวเองตัดสินใจถูก และแทบไม่น่าเชื่อว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ นี้มา ลูกหมีมีวิธีรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และมีระบบมากขึ้น เหมือนปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ลูกหมีเรียนรู้ที่จะจัดการกับความผิดพลาดอย่างมีสติมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อคิดว่าเรื่องราวของตัวเองอาจมีประโยชน์กับผู้หญิงคนอื่นบ้างลูกหมีจึงตัดสินใจเขียนหนังสือเรื่อง “แลก (กับ) รัก” เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้หญิงด้วยกัน และอยากให้ผู้ชายรู้จักให้เกียรติ ดูแล และรับผิดชอบผู้หญิงที่ตัดสินใจเลือกมาเป็นคู่ชีวิตให้มากกว่านี้
ทุกตัวอักษรที่ลูกหมีเขียนแลกมาด้วยน้ำตาและความสะเทือนใจลูกหมีเขียนไปร้องไห้ไป บางช่วงบางตอนก็อยากจะหยุดเขียนและล้มเลิกความคิดที่จะทำหนังสือเล่มนี้ เพราะเกิดคำถามว่า นี่เราทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปทำไม แต่ครั้นคิดได้ว่าเรื่องราวที่เล่าไม่ได้เป็นการประจานใคร เหตุที่ต้องยกบุคคลต่างๆ มาเล่าก็เพื่อชี้ให้เห็นสาเหตุและต้นตอของปัญหา แต่จุดใหญ่ใจความที่ลูกหมีอยากให้คนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ได้รับ คือวิธีการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อย่างคนที่เข้มแข็ง และอย่างคนที่รู้จักคำว่า “ตนเป็นที่พึ่งของตน”
ดังนั้นความรักของลูกหมีเกิดขึ้นและจบลงอย่างไรจึงไม่ใช่ประเด็นหลักที่ลูกหมีอยากเล่าให้ฟัง เพราะถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเรื่องนี้ก็สามารถอ่านจากหนังสือที่ลูกหมีเขียนได้ แต่สำหรับผู้อ่าน ลูกหมีอยากเล่าให้ฟังว่า ที่สุดแล้วลูกหมีมีวิธีรับมือกับปัญหานี้อย่างไรมากกว่า
รัก…ที่เกือบแลกด้วยชีวิต
ความรักของลูกหมีกับคนรักคนแรก (ที่เคยคิดจะแต่งงานด้วย) เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว หลังจากที่เราคบกันในฐานะแฟนได้เพียงเดือนเดียว เขาก็บอกกับลูกหมีว่า “ลูกหมี พี่มีลูกสองคนแล้วนะ” ตอนนั้นด้วยความที่ความรักบังตา ลูกหมีกลับคิดว่าเขาแมนพอสมควรที่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง และที่สำคัญ เขาเล่าให้ฟังว่าเขากับอดีตภรรยาแยกกันอยู่ หลังจากคบกันได้สักพักเราสองคนก็ตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ชีวิตคู่ของเราสองคนดำเนินไปตามปรกติ ลูกหมียังทำงานเป็นนางแบบเหมือนเดิม ด้วยความที่ฐานะทางบ้านของเขาดี ทำให้เขาดูแลลูกหมีดีมาก เอาอกเอาใจสารพัดช่วงนั้นโลกของลูกหมีมีแต่สีชมพูก็ว่าได้
แต่ทุกอย่างเมื่อขึ้นถึงจุดสูงสุดก็ย่อมต้องมีจุดเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา ความสุขที่ถึงขั้นจุกอกของลูกหมีก็หนีไม่พ้นวัฏจักรนี้เช่นกัน หกเดือนให้หลัง เทวาก็เริ่มกลายร่างเป็นซาตาน ความจริงเริ่มปรากฏขึ้นทีละนิด ตั้งแต่เรื่องที่เขายังไม่ได้แยกทางกับภรรยาจริงอย่างที่บอก เรื่องที่ลูกหมีลงหุ้นเปิดร้านอาหารกับเขาและเพื่อน แต่เขาไม่ยอมบอกใครว่าลูกหมีลงหุ้นด้วย ทำให้หุ้นส่วนจำนวนหนึ่งแสดงอาการแอนตี้ลูกหมีเพราะคิดว่าเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ความรักเริ่มกลายเป็นความขมมากขึ้น เมื่อวันหนึ่งเขาแสดงพฤติกรรมที่น่ากลัวออกมา แทบทุกครั้งที่เขาดื่มเหล้าจนเมาก็มักจะแสดงอาการหึงหวงอย่างไร้เหตุผล เช่น ถ้าลูกหมีนั่งดูข่าวนักเทนนิสหนุ่มต่างชาติระดับโลกคนหนึ่ง และเอ่ยชมความสามารถของนักเทนนิสคนนั้นให้เขาได้ยินตกเย็นวันนั้น หลังจากที่เขาดื่มเหล้ามาจนเมามาย คำชื่นชมนักกีฬาของลูกหมีจะกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ลูกหมีกับเขาทะเลาะกัน การหึงในเรื่องประหลาดๆ ทำให้ลูกหมีเริ่มเซ็ง
และแล้ววันหนึ่ง ในวันที่เขาเมาจนขาดสติและทะเลาะกับลูกหมีด้วยเรื่องหึงหวงเหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาชักปืนออกมาจ่อที่ขมับลูกหมีด้วย ลูกหมีไม่เคยลืมวินาทีแห่งความเป็นความตายมาจนถึงบัดนี้ความเย็นและหนักของปลายกระบอกปืนที่จ่ออยู่ที่ขมับของลูกหมีทำให้ลูกหมีนึกถึงพ่อแม่ คิดว่านี่เราต้องมาตายทั้งที่ยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณท่านเต็มที่หรือนี่ แต่ใจหนึ่งก็คิดว่า “ตายก็ตาย เราทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”ลูกหมีไม่สู้ แต่ตัดสินใจบอกเขาสั้นๆ ว่า “อยากทำอะไรก็ทำเถอะ”ลูกหมียืนหลับตานิ่ง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา และเตรียมตัวตาย
อย่างสงบ แต่ผิดคาด เขากลับวางปืนลง และเรื่องก็จบลงโดยที่ลูกหมีไม่เจ็บปวดร่างกายส่วนไหน แต่สำหรับจิตใจลูกหมีคิดว่า การที่คนที่เรารักจะฆ่าเรา คงไม่ใช่สิ่งที่จะยอมรับได้อีกต่อไป หลังจากนั้นลูกหมีก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเขา และเลิกกันไปในที่สุด แต่กว่าจะเลิกรากันได้ลูกหมีก็ต้องตามจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ กับเขาในส่วนที่เป็นของลูกหมีอยู่นานหลายปีเช่นกัน
ความรักครั้งนี้ลูกหมีได้ประสบการณ์ว่า “เราจัดการกับคนอื่นให้เขาเป็นอย่างที่เราต้องการไม่ได้ เราก็ควรจัดการกับใจเรา” อะไรที่เราหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ ถ้าเรามัวแต่เฝ้าถามก็เหมือนเรากำลังกรีดมีดลงบนเนื้ออ่อนๆ ของหัวใจเราเอง แต่ถ้าเรานิ่งที่สุดเดี๋ยวมันก็จะค่อยๆ คลี่คลายเอง เพราะปัญหาบางอย่างถ้ายิ่งดิ้นก็ยิ่งพันตัวเรา วันนี้ลูกหมีจดจำแต่สิ่งดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน เพื่อที่จะได้ให้อภัยเขาได้อย่างแท้จริง
รัก…ที่ไม่จริงใจและเห็นแก่ตัว
หลังจากผิดหวังกับความรักครั้งแรก ลูกหมีก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บออมเงินทองไว้สร้างความมั่นคงให้ตัวเองและพ่อแม่อย่างเดียว ทั้งเดินแบบ ทำร้านอาหาร แทบจะไม่ได้เที่ยวกับเพื่อนเลย แต่อย่างไรก็ตาม ลูกหมีก็ไม่ปิดโอกาสตัวเองในเรื่องความรัก จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นลูกครึ่งไทย – อังกฤษ มีอาชีพเป็นครูสอนดำน้ำ ครั้งแรกที่เห็น ลูกหมีประทับใจในความสุภาพของเขาหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แม้เขาจะอายุห่างจากลูกหมีหลายปี แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะกลับทำให้ลูกหมีรู้สึกอบอุ่น มั่นคงมากกว่า
ตอนนั้นลูกหมีมองเห็นแต่ข้อดีของเขา จนกระทั่งตัดสินใจแต่งงานกัน แต่หลังจากนั้นเรื่องราวหลายอย่างที่เขาไม่เคยเล่าก็ปรากฏออกมา ตั้งแต่เขาเคยมีภรรยามาแล้วสองคน และมีลูกสาวอีกสองคนเรื่องอายุของเขาที่เดี๋ยวก็ 38 ปีบ้าง เดี๋ยวก็ 39 42 45 ปีบ้าง ลูกหมีคิดว่ากับแค่เรื่องอายุ ถ้ายังไม่สามารถพูดความจริงกับคนที่เป็นภรรยาได้ ประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ
แต่แม้ว่าเรื่องนี้จะบั่นทอนความมั่นใจที่ลูกหมีมีต่อตัวเขาไปแล้ว สิ่งที่หนักหนาสาหัสกว่านั้น คือการที่เขาเริ่มมีพฤติกรรมส่อแววแปลกๆค่อนข้างไปในทางที่เอาเปรียบและเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกวัน…
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
บทความน่าสนใจ
ชีวิตสุดขั้วของ ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี จากทุกข์ กลายเป็นสุขได้เพราะธรรมะ
