ผู้ที่มีอาการปวดหัว, เจ็บคอ, มีไข้ และมีน้ำมูกร่วมด้วย อาจคิดว่านี่เป็นอาการของไข้หวัดธรรมดา แต่ความจริงแล้วอาการเหล่านี้อาจเป็นอาการไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน ซึ่งจะมีระดับความรุนแรงมากกว่า และมีโอกาสพบโรคแทรกซ้อนอย่างการติดเชื้อในกระแสเลือด หลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบได้ ผู้ที่มีอาการเสี่ยงเป็นไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรงจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาทันที และเพื่อให้รู้เท่าทันโรคดังกล่าว เราจึงได้รวบรวมเรื่องน่ารู้ของอาการโรคไข้หวัดใหญ่และวิธีป้องกันมาให้คุณที่ด้านล่างนี้แล้ว
โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คืออะไร? หนึ่งในโรคติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ
โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คือ โรคติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Influenza ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย มีไข้สูง และปวดหัว ซึ่งเป็นอาการไข้หวัดใหญ่เบื้องต้นที่พบเจอได้บ่อย โดยสาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่มักเกิดจากการติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น การสัมผัสละอองน้ำมูก น้ำลาย การหายใจ การไอ หรือจามรดกัน
ปัจจุบันไข้หวัดใหญ่มีหลากหลายสายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A, B และ C ซึ่งแต่ละประเภทต่างมีชนิดเชื้อไวรัส ระดับความรุนแรง และลักษณะอาการไข้หวัดใหญ่ที่แตกต่างกัน หากมีอาการไข้หวัดใหญ่ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาทันที
อาการไข้หวัดใหญ่มีลักษณะอย่างไรบ้าง?
โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัส Influenza เข้าสู่ร่างกายจะเริ่มมีอาการไข้หวัดใหญ่ภายใน 1-4 วัน ซึ่งอาการจะรุนแรงกว่าโรคไข้หวัดธรรมดา โดยลักษณะอาการของคนเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบเห็นได้ชัดเจนมีดังนี้
- มีไข้สูง รู้สึกหนาวสั่น มีเหงื่อออกมาก
- ปวดหัว และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั่วตัว
- รู้สึกปวดกระบอกตา
- รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา
- มีอาการไอแห้งและเจ็บคอ
- มีน้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจลำบาก
- บางรายพบว่ามีอาการท้องเสีย อาเจียน และรู้สึกคลื่นไส้ร่วมด้วย
ไข้หวัดใหญ่ต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร? สังเกตอาการและความรุนแรง
ไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดามีอาการแตกต่างกันมากแค่ไหน? แท้จริงแล้วอาการไข้หวัดใหญ่มีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เพียงแต่ความรุนแรงของอาการมีมากกว่า และระยะเวลาหายช้ากว่าไข้หวัดธรรมดา แล้วถ้าหากเป็นไข้หวัดใหญ่ กี่วันหาย? คำตอบก็คือ อาการจะเริ่มหายภายใน 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย ความรุนแรงของอาการ และวิธีการรักษา
นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นไข้หวัดธรรมดาหากไม่มีอาการรุนแรงก็สามารถหายได้โดยการรักษาตามอาการ เช่น การรับประทานยาแก้ปวด ยาแก้ไข้หวัดใหญ่ นอนพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงทานอาหารชนิดอ่อน ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการรักษาอาการไข้หวัดใหญ่ แต่หากมีอาการรุนแรงหรือมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน หรือสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชันได้ สะดวก ไม่ต้องเดินทาง
อาการไข้หวัดใหญ่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
อาการไข้หวัดใหญ่นับเป็นโรคติดต่อที่สามารถพบเจอได้ทุกวัย โดยเฉพาะวัยเด็กและผู้ใหญ่จะมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการจากโรคไข้หวัดใหญ่ร้ายแรงอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ดังต่อไปนี้
- การติดเชื้อในอวัยวะต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อในหูและไซนัส, ปอดอักเสบ, หลอดลม,อักเสบ, หัวใจวาย เป็นต้น
- มีภาวะหายใจลำบาก หายใจเป็นช่วงสั้น ๆ หรือหายใจเร็ว
- อาจเกิดภาวะอัมพาตเฉียบพลัน ไม่รู้สึกตัว
- มีภาวะแน่นหน้าอกหรือช่วงท้อง
- มีอาการปวดหัวเฉียบพลัน หรือปวดหัวเป็นช่วง ๆ
- รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนบ่อย
- ผู้ป่วยเด็กบางรายอาจมีผดผื่นขึ้น ทานอาหารไม่ได้ร่วมด้วย
อาการไข้หวัดใหญ่ ป้องกันอย่างไรให้ห่างไกลจากโรค
หลังจากที่เรียนรู้เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่กับอาการเบื้องต้นกันไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็คือ การรู้จักวิธีป้องกันเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลจากอาการไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ลดโอกาสในการติดเชื้อ และถึงแม้ว่าหลังฉีดอาจมีอาการไข้หวัดใหญ่ก็จะไม่รุนแรงเท่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
- ล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือหลังหยิบจับสิ่งของทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสเชื้อไข้หวัดใหญ่หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินซี, สารต้านอนุมูลอิสระ, แร่ธาตุ และสังกะสี
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่แออัดหรือมีผู้คนพลุกพล่าน
สรุป อาการไข้หวัดใหญ่อันตรายไหม? ดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง
สรุปแล้ว อาการไข้หวัดใหญ่แม้จะมีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา แต่หากมีอาการรุนแรง และไม่รีบหาทางรักษาก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยเฉพาะภาวะปอดบวมอักเสบ หลอดลมอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากใครที่มีอาการไข้หวัด รู้สึกไม่สบาย และไม่อยากเสี่ยงทำให้คนใกล้ชิดติดเชื้อสามารถเลือกใช้บริการปรึกษาแพทย์ พยาบาล หรือเภสัชกรผ่านช่องทางออนไลน์อย่างแอป BeDee ได้เช่นกัน อีกหนึ่งทางเลือกปรึกษาแพทย์ที่สะดวก ไม่ต้องเดินทาง ปรึกษาแพทย์ทั่วไปหรือเลือกปรึกษาเภสัชกรได้ทุกวันถึงเที่ยงคืน ไม่มีค่าปรึกษา จัดส่งยาถึงบ้านเปิดแอป BeDee เลย! คลิก https://bit.ly/4btcZSY