งาดำ มีประโยชน์ และจะมีประโยชน์เพิ่มขึ้น เมื่อนำมาอบ หรือคั่ว เพราะจะมีสารอาหารมากกว่างาดำดิบ และวันนี้ เราก็มีสูตรปรุง ซุปงาดำ แบบง่าย ๆ ที่จะทำมื้ออาหารของคุณมีสารอาหารเพิ่มขึ้นเท่าตัว
วิธีการกิน งาดำให้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ เคี้ยวให้ละเอียด ให้เม็ดงาแตกออก ร่างกายจึงจะดูดซึมสารอาหารจากงาดำได้ดี จะกินเปล่า ๆ หรือเอามาใส่กับอาหารอย่างอื่น เช่น ใส่ในขนมปัง โรยในจานข้าว หรือประกอบอาหารต่าง ๆ เพื่อช่วยให้กินได้ง่ายขึ้น
ส่วนผสม ซุปงาดำ
- งาดำคั่ว 1 ถ้วย
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½; ถ้วย
- วิปครีม 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า ½; – 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย ¼; ถ้วย
- งาดำคั่วบดสำหรับโรยหน้า 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นเล็กน้อย
- ขนมปังกรอบชิ้นเล็ก ๆ
วิธีทำ ซุปงาดำ
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด ถ้าข้นเกินไปให้เติมน้ำเพิ่มได้
2. เทใส่หม้อ นำไปตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลางคนให้ทั่ว ถ้ารสยังไม่ได้ที่ให้เหยาะเกลือเล็กน้อยพอเดือดยกลง
3. โรยงาดำเล็กน้อย รับประทานเคียงกับขนมปังกรอบ
งาดำ ของอร่อยคู่ครัว ที่แพทย์จีนยืนยันว่า ดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ
สายตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ ผมเคราหงอกร่วง ขับถ่ายอุจจาระยาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ในมุมมองการแพทย์แผนจีนมองว่า ในวัยผู้สูงอายุการทำงานของไตซึ่งเป็นรากฐานของชีวิตทำงานได้น้อยลง ซึ่งไตในมุมมองทางการแพทย์แผนจีนมีหน้าที่นี่กักเก็บสารจิง (สารจำเป็น) ซึ่งสารจิงนี่เองสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเลือดได้ การที่ไตพร่องจึงส่งผลให้เลือดและสารจิงพร่อง ทำให้เกิดอาการสายตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ ผมเคราหงอกร่วงและขับถ่ายอุจจาระยาก
ทำความรู้จักงาดำกันให้มากขึ้น
ลักษณะยา : รสหวาน ฤทธิ์กลาง เข้าสู่เส้นลมปราณตับ ไตและลำไส้ใหญ่
สรรพคุณทางการแพทย์แผนจีน
- บำรุงตับและไต (แก้อาการจิงและเลือดพร่อง เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว)
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ลำไส้(แก้อาการท้องผูกจากลำไส้ขาดความชุ่มชื้น)
สรรพคุณอื่น ๆ
- ลดผมหงอก ผมร่วง
งาดำอุดมไปด้วยไขมันดีอย่างกรดไขมันไลโนเลอิกที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผมดกดำเงางาม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันผมหงอก ในทางการแพทย์แผนจีนกล่าวว่า “ผมเป็นส่วนที่เหลือของเลือด” การรับประทานงาดำที่ช่วยบำรุงสารจิงและเลือดสามารถทำให้ผมดำเงางาม ลดผมหงอกและผมร่วงได้
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน
การวิจัยค้นพบว่างาดำมีสารเซซามิน ซึ่งสารนี้จะช่วยในการยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์สลายกระดูกที่ให้เกิดโรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุนได้ และเซซามินยังช่วยทำให้แคลเซียมประสานกับกระดูกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ในทางการแพทย์แผนจีน ไตมีความสัมพันธ์กับกระดูกอย่างใกล้ชิดตามทฤษฏีปัญจธาตุ การรับประทานงาดำที่มีสรรพคุณบำรุงไตจึงสามารถช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้
- บำรุงสมอง
ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง โดยช่วยฟื้นฟูเซลล์ประสาท ช่วยป้องกันและฟื้นฟูโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น เส้นเลือดอุดตันในสมอง โรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น ในทางการแพทย์แผนจีนกล่าวว่า “สมองเป็นทะเลของไขกระดูก” การรับประทานงาดำที่มีสรรพคุณบำรุงไตและสารจิงจึงสามารถช่วยบำรุงสมองได้
- ช่วยบำรุงเลือด ลดอาการตาพร่ามัว เวียนศีรษะ
ผู้ที่มีปัญหาหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด ควรรับประทานงาดำเพราะมีธาตุเหล็กที่จะช่วยบำรุงเลือด ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด และป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม ในทางการแพทย์แผนจีน ตับมีหน้าที่ในการกักเก็บเลือด กล่าวคือช่วยในการสร้างและควบคุมปริมาณเลือด การรับประทานงาดำจึงสามารถช่วยบำรุงเลือดได้
- ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย
งาดำยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมากจึงช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น บรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารและป้องกันโรคท้องผูก ในทางการแพทย์แผนจีน งาดำเป็นสมุนไพรที่เป็นเมล็ดและเข้าสู่เส้นลมปราณลำไว้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้
สำหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ ผมเคราหงอกร่วงและขับถ่ายอุจจาระได้ยาก การรับประทานงาดำ สามารถช่วยบรรเทาอาการข้างต้นได้ แต่ต้องรับประทานอย่างพอเหมาะ ไม่เกิน 15 กรัมหรือ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน สามารถกินเปล่าๆโดยนำมาคั่วให้สุกก่อนและเคี้ยวให้ละเอียดเพื่อการดูดซึมที่ดี บุคคลที่ถ่ายเหลวหรือเป็นโรคภาวะคั่งทองแดงในร่างกายควรหลีกเลี่ยงการรับประทานงาดำ
ข้อควรระวังในการกินงาดำ
แม้การกินงาดำจะมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโรคทางสมอง การดูแลข้อเข่า รวมไปถึงการดูแลความสวย ความงาม อย่างเรื่องของเส้นผม แต่ถึงอย่างนั้นงาก็มีข้อควรระวังเหมือนกัน เพราะหากกินมากไปจะกลายเป็นโทษ แต่ถ้ากินตามที่แอดบอกละก็ ได้คุณประโยชน์แน่นอน
1. เทคนิคกินป้องกันลำไส้อุดตัน
เนื่องจากงาดำมีขนาดเล็กมาก เวลาบริโภคบางคนอาจเคี้ยวไม่ละเอียดทุกเม็ด แต่เลือกที่จะกลืนเข้าไปเลย ในกรณีที่ลำไส้ย่อยไม่หมด งาดำเม็ดเล็กๆ จำนวนมากอาจตกค้างบริเวณลำไส้ก่อให้เกิดการอุดตันและนำไปสู่โรคร้ายอื่นๆ ได้ ดังนั้นการกินงาดำในแต่ละครั้งควรกินในปริมาณที่เหมาะสมและเคี้ยวให้ละเอียด
ทุกครั้งก่อนกลืน
2. กินอย่างไรไม่ให้อ้วน
งาดำ เป็นอาหารที่มีกากใยมาก เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกอิ่มนาน หลายคนจึงเลือกใช้งาดำเป็นอาหารลดน้ำหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วงาดำเพียงแค่ 1 กำมือให้พลังงานแคลอรีสูงถึง 590 แคลอรี ซึ่งถือเป็น 40% ของปริมาณไขมันดีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน แต่หากบริโภคคราวละมากๆ แทนที่จะลดน้ำหนัก ผลอาจกลายเป็นสิ่งตรงข้ามได้ จึงต้องจำกัดปริมาณการกินให้พอเหมาะค่ะ
3. กินพอดีหนีท้องร่วง
ข้อดีของการกินงาดำ คือ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยในการขับถ่าย แต่หากบริโภคมากเกินไปจะทำให้เกิดการระบายมากผิดปกติจนเกิดภาวะท้องร่วง หรือทำให้ร่างกายสูญเสียสารอาหารที่เป็นประโยชน์ออกมากับอุจจาระโดยที่ยังไม่ถูกดูดซึม และทำให้สูญเสียเกลือแร่โดยไม่จำเป็นอีกด้วย
4. กินแต่พอดี ดูแลเส้นผม
อาหารทุกชนิดต่อให้มีประโยชน์กับร่างกายเพียงใดก็ตามแต่หากบริโภคไม่พอดีจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แนะนำปริมาณงาดำที่ควรบริโภคต่อวัน คือ 10 – 15 กรัม หรือไม่เกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ จะช่วยให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนจำเป็นที่พอดี ไม่กระทบต่อการผลิตไขมันในร่างกาย และไม่ส่งผลต่อความมันบนศีรษะ หรือเกิดภาวะผมร่วง
5. ข้อควรระวังสำหรับคนแพ้ถั่ว
แม้จะมีประโยชน์ในเรื่องการบำรุงสุขภาพ แต่งาดำมีสารบางชนิดที่คล้ายกับถั่วลิสง ซึ่งสำหรับคนแพ้ถั่วลิสง เมื่อกินงาดำอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงได้ ฉะนั้นผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วจึงควรหลีกเลี่ยงการกิน (อาหารที่มี) งาดำเพื่อความปลอดภัยค่ะ
ข้อมูลจาก : หนังสืออาหารเช้า บำรุงสมองและร่างกาย / ข้อมูลจาก คอลัมน์ HEALING FOOD นิตยสารชีวจิต ฉบับ 504
บทความอื่นที่น่าสนใจ
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ รักษาได้ด้วยการออกกำลังกาย
6 โรคเสี่ยงจาก ฮอร์โมนเพศหญิงเกิน
แรงกระแทก ดีต่อกระดูกอย่างไร หมอมีคำตอบ
ความดันและไขมันในเลือดสูง ปรับเปลี่ยน 3 อ (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) ไม่ง้อยา
ติดตามชีวจิตได้ที่
https://www.instagram.com/cheewajitmedia/